ประชุมคณะทำงานยุติข้อพิพาทอุเทนถวายยังไม่ได้ข้อสรุป ปัดตอบข้อพิพาทที่ดิน เน้นผลักดันการศึกษาระหว่างสถาบัน ด้านนักศึกษา-ศิษย์เก่าย้ำจุดยืนไม่ย้ายออก ย้ำจุดยืนไม่ย้ายออก
วันนี้ (16 พ.ย.66) นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในฐานะประธานคณะทำงานขับเคลื่อนยุติข้อพิพาท มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก เขตพื้นที่อุเทนถวาย เปิดเผยภายหลังประชุมคณะทำงานนัดแรก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าวันนี้เราคุยเรื่องการทำงานร่วมกันในอนาคตว่าจะมีแผนร่วมมือกันอย่างไร มีการพูดถึงมาตรการต่าง ๆ ที่เราได้คิดร่วมกัน ทั้งสมาคมศิษย์เก่า อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก และรองอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำการบ้านมาเพื่อให้ได้ข้อยุติที่ดีที่สุด
ส่วนผลหารือเบื้องต้นต้องคุยไปสักพัก การประชุมครั้งนี้ได้แนวทางที่ดี มีผลสรุปว่าจะมีการส่งเสริมการศึกษาระหว่างกัน โดยเฉพาะการดูแลเรื่องความเป็นประวัติศาสตร์ของสถาบันอุเทนถวาย ทั้งยังมอบหมายให้ 2 สถาบันเชื่อมระบบการเรียน เพื่อที่จะให้สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุเทนถวาย ขณะเดียวกันได้ให้การบ้านกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ช่วยดูประเด็นทำอย่างไรให้อุเทนถวายใหญ่ขึ้น ให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องพื้นที่ที่เหมาะสม การรักษาพื้นที่เป็นหน้าที่ของทั้ง 2 สถาบัน ที่ต้องคุยกัน ความเป็นประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่ต้องทำควบคู่ไปกับการพัฒนา ส่วนจะเป็นแนวทางใดก็ต้องคุยกันในครั้งต่อไป
นายเพิ่มสุข กล่าวถึงข้อพิพาทเรื่องที่ดินระหว่างอุเทนถวายและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยว่า เป็นเรื่องของศาลที่เขาตัดสิน ถือเป็นสิ่งที่ยุติแล้ว เราต้องเคารพเรื่องของนิตินัย คุยเรื่องอนาคตดีกว่า เรื่องอนาคตที่เป็นประโยชน์กับความสงบประเทศ
รศ.ดร.ฤกษ์ชัย ฟูประทีปศิริ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก กล่าวต่อว่าเราได้หาแนวทางในการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ผ่านการขับเคลื่อนด้านการศึกษาร่วมกับการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่ดี การประชุมครั้งนี้ถือเป็นเวทีเปิดรับที่ดีมาก เราได้ความกรุณาจากหลายภาคส่วนที่พยายามมาร่วมมือแก้ปัญหา ทั้งยังมองว่าอุเทนถวายเป็นสมบัติชาติ เราพร้อมที่จะทำให้เกิดความเข้มแข็ง และมองประโยชน์ของชาติเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าทุกอย่างจะออกมาดี
รองอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรับข้อเสนอที่หารือครั้งนี้เอาไปทำการบ้านต่อ การประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปก็ต้องหารือร่วมกันต่อไป แต่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และหวังว่ากรณีนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับสังคมว่า หน่วยงานที่อยู่ภายใต้กระทรวงเดียวกัน ความร่วมมือร่วมใจกันเพื่อแก้ปัญหาเรื้อรังที่มีมานาน จะเป็นแนวทางใด