หนุ่มกองถ่ายละครดัง ร้องสายไหมต้องรอด ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบ(ชุดเฉพาะกิจจู่โจม)ขับรถจักรยานยนต์ตราโล่ เรียกตรวจขณะขับรถ จยย.กำลังกลับบ้านย่านบางเขน ตรวจค้นรถ จยย.และในตัว ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย  จากนั้นได้ถูกจับล็อคใส่กุญแจมือ ซ้อม ทำร้ายร่างกาย ช็อตไฟฟ้า ฯลฯ 

วันพุธที่ 15 พ.ย.66 เวลา 15.00 น. ที่ สน.โคกคราม  นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  พา นายเดี่ยว (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ ประภาส แก้วฉีด ผกก.สน.โคกคราม  เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจจู่โจม  สน.โคกคราม  หลังจากเมื่อคืนวันอังคารที่ 14 พ.ย.66 เวลา 22.00 น. ขณะผู้เสียหายขับรถ จยย.กลับบ้านย่านบางเขน ได้ถูกชายสองคนสวมเสื้อกั๊กสีดำ ขับรถจักรยานยนต์ตราโล่ของตำรวจ  ขับรถปาดหน้าเรียกตรวจค้นที่บริเวณหน้าร้านข้าวผัดปูเมืองทองตรงข้ามตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา ใกล้เคียงกับปั้มน้ำมัน ปตท.มุ่งหน้า ถ.รามอินทรา โดยถูกชายทั้งสองตรวจค้นร่างกาย และ รถ จยย. แต่ไม่พบสิ่งผิดกฏหมาย  จากนั้น จนท.ตำรวจทั้งสองคนได้แจ้งตนว่าจะพาไปโรงพัก ตนจึงถามว่าไปโรงพักทำไมตนไม่ได้ทำอะไรผิด จนท.ตำรวจ จึงถามว่าเสพยามาหรือเปล่าตนจึงตอบว่าไม่เคยเสพยา จากนั้นตำรวจเดินมาดูที่รถ จยย.และแจ้งกับตนว่า ตรวจสอบทะเบียนรถแล้วชื่อเจ้าของรถกับชื่อตนไม่ตรงกัน ไม่มีสำเนารถด้วย จึงต้องเอาตัวไปโรงพัก ตนจึงแย้งไปว่ารถมอเตอร์ไซด์เป็นของน้องตน เอกสารสำเนารถมีครบ ถ้าจะขอดูตนจะให้น้องถ่ายรูปส่งมาให้ดู แต่ จนท.ปฏิเสธ บอกจะต้องดูเอกสารตัวจริง ตนจึงบอกว่าถ้าจะดูตัวจริงก็จะให้น้องขับรถเอาเอกสารมาให้ดูตอนนี้ได้เลย  แต่ จนท.ก็ไม่ยอมอีก ยืนยันว่าต้องไปที่โรงพักจะดูที่โรงพักเท่านั้น  ตนจึงโต้เถียงว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไร พวกพี่จะมาทำแบบนี้กับประชาชนไม่ได้  อยู่ๆจะมาควบคุมตัวตนไปที่โรงพักไม่ได้บ้านเมืองมีกฎหมายนะพี่ ทำให้ จนท.ตำรวจไม่พอใจมาก จึงจับตนล็อคแขนและพยายามใส่กุญแจมือตนเพื่อคุมตัวไปยัง สน.โคกคราม  ขณะที่ตำรวจเครื่องแบบพยามใส่กุญแจมือ ตนได้ยืนกางแขนออก พร้อมยืนยันในความบริสุทธิ์ว่าตนไม่มีของผิดกฏหมายไม่ได้ทำอะไรผิด จะมาใส่กุญแจมือตนได้ยังไง  จากนั้นจึงได้ถูก จนท. ตีด้วยกระบองบริเวณท่อนขา 4-5 ครั้ง เพื่อให้ตนล้มลงแต่ตนก็ยังไม่ล้มลง จนท.จึงใช้ปืนไฟฟ้ามาช็อตบริเวณด้านหลังอีกหลายครั้ง จนตนรู้สึกชาไปทั้งตัว  จากนั้นสักพักได้มี จนท.ตำรวจนอกเครื่องแบบคนอื่นๆตามมาสมทบอีกหลายคนก่อนจะบังคับจับตนกดกับพื้นให้นั่งคุกเข่าเหมือนนักโทษรายสำคัญ และพากันควบคุมตัวตนมายัง สน.โคกคราม  เมื่อมาถึงตำรวจได้ตรวจปัสสาวะตน ไม่พบว่ามีสารเสพติด  จนท.จึงนำมีดพับขนาดเล็กของตนที่ไว้ใช้ตัดสายเคเบิ้ลไทด์ตอนทำงาน มาบอกว่าจะดำเนินคดีข้อหาพกพามีด  ตนจึงบอกไปว่า นี่มันมีดพับขนาดเล็กนิดเดียวตนซื้อมาไว้ใช้ทำงานตัดสายเคเบิ้ลไทด์ มันผิดกฎหมายตรงไหน

  จากนั้น จนท.ได้ยึดมีดพับของตนไป  จากนั่น จนท.ได้เดินไปหยิบมีดจากในห้องสายตรวจเอามาให้ตนชี้และถือถ่ายรูป ครั้งแรกตนได้ปฏิเสธ เพราะไม่ใช่มีดของตน แต่ จนท.ถามว่า มึงอยากกลับบ้านไหม ถ้าอยากกลับก็ทำตามที่กูบอก  ถ้าไม่ทำเดี๋ยวกูจะเอาข้อหาอื่นให้  ขณะนั้นตนกลัวว่าหากไม่ทำตามอาจจะถูกยัดยาได้ จึงได้ยอมทำตามที่ตำรวจบอก  จากนั้น น้องสาวตนได้นำเอกสารสำเนารถมาให้ตำรวจดู  พาตำรวจดูเสร็จได้เรียกน้องตนออกไปคุยนอกห้อง  จากนั้นตำรวจได้ให้ตนลงมาเสียค่าปรับ 100 บาท ช้อหาพกอาวุธมีด(ไม่ใช่มีดตนเอง) ส่วนมีดพับของตน จนท.ได้เก็บเอาไว้โดยไม่ยอมคืน ตนถูกควบคุมตัวที่โรงพักกว่า 5 ชั่วโมง ( 4 ทุ่ม ถึง ตี 3)  หลังจากตนกลับมาบ้าน มาทราบจากน้องสาวภายหลังว่า ตำรวจเรียกออกไปคุยเรียกเงินค่าทำขวัญไป 500 บาทอ้างว่าเป็นค่าทำขวัญที่ตนขัดขืนไม่ยอมให้จับแต่โดยดี  หลังจากตนกลับมาถึงบ้านตนได้ทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นและรู้สึกว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งถูกซ้อม ถูกทำร้าย ถูกช็อตไฟฟ้า  ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวกว่า 5 ชม.  ถูกยัดข้อหา(พกอาวุธมีด)  ถูกลักทรัพย์(เอามีดพับตนไป)  น้องสาวยังถูกรีดไถเงินอีก 500 บาท  ตนจึงนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปปรึกษากับพี่ที่ทำงาน  พี่ที่ทำงานจึงแนะนำให้ตนมาร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้ช่วยเหลือดังกล่าว 

ด้าน นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด  ภายหลังรับแจ้ง ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ประภาส  แก้วฉีด  ผกก.สน.โคกคราม  ขอให้ตรวจสอบขอเท็จจริงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย จากนั้นได้พาผู้เสียหายเข้าพบ พ.ต.อ.ประภาส  เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป  นายเอกภพ ฯ กล่าวเสริมว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย ใครทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมดไม่มีละเว้น 

ด้าน พ.ต.อ.ประภาส  แก้วฉีด  ผกก.สน.โคกคราม  กล่าวว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา หากพบว่า จนท.ตำรวจ ทำผิดก็จะดำเนินคดีไม่มีข้อยกเว้นแน่นอน