"ภูมิธรรม" เผยภาคปชช.เสนอประชามติไม่ควรมีข้อจำกัด ห้ามแก้หมวด 1 หมวด 2 ขณะที่กลุ่มผู้พิการ-หลากหลายทางเพศ ฯลฯ ขอพื้นที่ยกร่างรธน.ไม่จำเป็นต้องเลือก สสร. 100% ยังไม่สรุปทำประชามติกี่ครั้ง แต่ห่วงค่าใช้จ่ายบาน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย.66 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขปัญหาความเห็นที่แตกต่างในเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพ.ศ. 2560 กล่าวภายหลังรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน ว่า การรับฟังความคิดเห็นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในวันที่ 20 พ.ย.จะเดินทางไปรับฟังความเห็นในพื้นที่ภาคอีสาน ส่วนวันที่ 23 พ.ย.จะรับฟังในพื้นที่ภาคตะวันออก และวันที่ 28 พ.ย. จะเดินทางไปรับฟังในพื้นที่จ.เชียงใหม่ และวันที่ 7 ธ.ค. จะเดินทางไปรับฟังในพื้นที่จ.สงขลา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นในวันนี้มีกลุ่มตัวแทนสลัมสี่ภาค กลุ่มพีมูฟ กลุ่มหลากหลายทางเพศ กลุ่มสมัชชาคนจน และกลุ่มไอลอว์ เป็นต้น ซึ่งเราได้ยืนยันหลักการว่ารัฐบาลแน่วแน่ที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ และออกกฎหมายลูกให้เสร็จสิ้นภายใน 4 ปีตามอายุรัฐบาลและเลือกตั้งใหม่ภายใต้รัฐธรรมนูญใหม่
ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลไม่ได้เข้าร่วมถือเป็นสิทธิ แต่เราอยากให้การพิจารณาครบถ้วนแม้ไม่เข้าร่วมแต่เราก็มีกระบวนการเข้าไปหารือ และคณะอนุกรรมการฯ ได้ไปรับฟังความเห็นของพรรคก้าวไกลมาแล้ว และได้เจอนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกลในฐานะประธานคณะ กรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาฯ และได้ทำแบบสอบถามของสส.และสว. โดยจะมีความชัดเจนเมื่อเปิดสภาฯเพื่อนำข้อเสนอกลับมาพิจารณาในคณะกรรมการฯ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การรับฟังความคิดเห็นวันนี้เท่าที่ได้คุยยังมีความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่การแลกเปลี่ยนบรรยากาศเป็นไปด้วยดี ซึ่งคณะกรรมการฯ เปิดให้เสนอเต็มที่ความเห็นหลักที่มีการเสนอ คือ แก้ทั้งฉบับไม่มีข้อจำกัด โดยเฉพาะหมวด 1 หมวด 2 ซึ่งตนได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงและอธิบายเพื่อไม่ให้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการเมือง เพราะเรื่องนี้กระเทือนพระราชอำนาจและไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ต้องนำมาพูด เพราะจะกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งไม่จบสิ้น และจะทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นได้ยาก ถือเป็นประเด็นที่เห็นต่างกันอย่างชัดเจน
"ขณะนี้ต้องยืนยันหลักการของรัฐบาลที่เสนอต่อรัฐสภา คือไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 และไม่กระทบกับพระราชอำนาจแต่ต้องไปดูว่า มีเงื่อนไขทางออกอย่างไร แต่ส่วนใหญ่ที่เห็นตรงกันคือรัฐธรรมนูญปี 60 เป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน และการรักษาสิทธิ์ของประชาชน"
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ยังมีการเสนอให้เลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(สสร.) ทั้งหมดแต่ก็มีหลายส่วน เช่นกลุ่มหลากหลายทางเพศสภาพทั้งหมด กลุ่มผู้หญิง กลุ่มชาติพันธ์และกลุ่มคนพิการ บอกว่าถ้าเลือกตั้งทั้งหมดพวกเขาจะไม่มีโอกาส หลากหลายกลุ่มอยากเข้ามาร่วมร่างรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งอาจจะมีการเลือกตั้งบางส่วนก็ได้แต่ต้องมีอีกระบบหนึ่งเพื่อให้บุคคลเหล่านี้เข้าไปร่วมร่ารัฐธรรมนูญได้ ถือเป็นข้อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาว่าจะเลือกตั้งทั้งหมดหรือบางส่วน
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า หลังได้รับฟังการรายงานจากประธานอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นประชาชน และคณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีความคืบหน้าเป็นไปด้วยดี และคาดว่าภายในเดือนธ.ค. กระบวนการรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอเกี่ยวกับการศึกษาต่างๆจะได้ข้อยุติ นอกจากนี้ในต้นเดือนมค.ปี67 จะเสนอเข้า ครม.พิจารณา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการลงประชามติจะกี่ครั้งนั้น ยังเป็นประเด็นอยู่ ซึ่งหลังจากเชิญ กกต.มาก็ ยังต้องคำนึงถึงข้อกฎหมาย และเราก็กังวลใจถ้าใช้ข้อกฎหมายที่ทำประชามติหลายครั้งและการใช้เงินครั้งหนึ่งประมาณ 3-4 พันล้านบาท เราไม่อยากเสียหายตรงนี้ไปเยอะ ซึ่งเราจะต้องหารือเพื่อให้เซฟเงินของประชาชนให้ได้