ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ท่าศาลา เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประชาร่วม หน่วยกู้ภัยท่าศาลา พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่างซากรถได้เข้าตรวจสอบอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งสีขาว ทะเบียนหมวดจังหวัดสงขลา พุงเข้าชนฟาดเสาไฟฟ้าบนถนนสายท่าศาลา-นครศรีธรรมราช ช่วงบ้านสุเหร่าสูง ตำบลท่าท่าศาลา อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช โดยเมื่อเข้าตรวจสอบพบว่ามีชายฉกรรจ์ ติดอยู่ในซากรถ 1 รายอยู่ในช่วงที่นั่งผู้ขับขี่ตอนหน้า หลังจากใช้เวลาราว 15 นาทีจึงนำร่างออกจากซากรถแล้วจึงนำตัวส่ง รพ.ท่าศาลา อยู่ในสภาพอาการสาหัสมากเจ้าหน้าที่ต้องทำ ซีพีอาร์ ทราบชื่อภายหลังคือนายภัทรวาที ทวิชสังข์ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากที่เจ้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาลไม่นานปรากฏว่านายภัทรวาที เสียชีวิตขณะแพทย์ให้การช่วยเหลือ

 

ส่วนรถที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบยาบ้าจำนวนมากบรรจุอยู่ในกระสอบอยู่ในซากรถจึงประสานผู้บังคับบัญชาและพเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเข้าเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในบริเวณกระสอบและในตัวรถ แต่ขณะที่กำลังรอเจ้าหน้าที่เดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ปรากฏว่านายเอกชัย สุนทร นายอำเภอท่าศาลา ซึ่งได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง รื้อยาเสพติดในรถทั้งหมดออกมาและเคลื่อนย้ายที่ยังที่ว่าการอำเภอท่าศาลา ท่ามกลางความงุนงงของชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ซึ่งโดยปกติปฏิบัติเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจะต้องเก็บหลักฐานอย่างละเอียดโดยเฉพาะดีเอ็นเอของขบวนการขนยาเสพติด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีความเห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมาพบว่านายเอกชัย สุนทร นายอำเภอท่าศาลา ได้ให้เจ้าหน้าที่นำเอาของกลางทั้งหมดออกจากกระสอบที่บรรจุมียาบ้านทั้งหมดรวม 15 มัด ประมาณ 150,000 เม็ด ยาไอซ์อีกจำนวนหนึ่ง แล้วได้เปิดแถลงข่าวการตรวจยึด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสอบสวนไปร่วมยืนแถวให้นายอำเภอท่าศาลาแถลงข่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับการเก็บตัวอย่างหลักฐาน ระบุว่าไม่สามารถเก็บหลักฐานจากของกลางได้แล้วเนื่องจากวัตถุพยานถูกปนเปื้อนจากการเคลื่อนย้าย การสัมผัสอย่างไม่ถูกต้องตามหลักการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

ส่วนการตรวจสอบข้อมูลนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าการขนยาเสพติดล็อตนี้ผู้เสียชีวิตอาจขนย้ายมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ จ.สงขลา เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการขยายผลเจ้าของรถและผู้เกี่ยวข้อง