วันที่ 15 พ.ย.66 เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช กล่าวถึงเสียงวิจารณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลไม่ตรงปกว่า มองเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ดี เปรียบเป็นสภาวะทางสองแพร่งสำหรับรัฐบาลพอสมควร เพราะถือเป็นนโยบายหลักที่ใช้ในการหาเสียง ถ้าเกิดถอย กระบวนการตั้งคำถามจะเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยเองไม่สามารถล้มเลิกนโยบายนี้ได้ และต้องยอมรับว่าในช่วงของการข้ามขั้วทางการเมือง เครดิตและความเชื่อมั่นของพรรคเพื่อไทยก็เป็นปัญหาใหญ่ แต่เมื่อข้ามขั้วแล้วนโยบายและผลงานถือเป็นสิ่งสำคัญ พรรคเพื่อไทยและรัฐบาลจะถอยไม่ได้ในเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน ถ้าเดินหน้าจะต้องถูกกระบวนการตรวจสอบจากหลายหน่วยงาน เช่น ป.ป.ช. ซึ่งมีคณะทำงานขอข้อมูลในหลายเรื่อง รวมถึงหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปดูทั้งหมด หรือแม้การถูกวิจารณ์จากสังคม ถือมีส่วนสำคัญในการตรวจสอบเหมือนกัน รวมไปถึงข้อกฎหมายต่างๆ เช่น พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เรื่องการเสนอ พ.ร.บ.กู้เงิน ว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะมีคนไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือหรือไม่ ที่จะคล้ายกับ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาทในสมัยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกอย่างถือเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางกฎหมายและทางการเมืองด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากสุดท้ายกฎหมายไม่ผ่านทั้งชั้นสภา หรือศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบอย่างไร นายยุทธพร กล่าวว่า ปกติตามธรรมเนียม นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะต้องแสดงความรับผิดชอบ แม้ว่ากฎหมายไม่ได้เขียนเอาไว้ว่าจะต้องทำอย่างไรในกรณีกฎหมายสำคัญไม่ผ่าน แต่คงต้องแสดงความรับผิดชอบ