กกร.เคาะคุมราคาน้ำตาลเฉพาะหน้าโรงงาน ไม่เกิน 21-22 บาท/กก. ไม่คุมราคาขายปลีก-ส่งออก โก่งราคาโทษติดคุก-ปรับอ่วม
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย 2 บาท/กก. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้เชิญประชุม กกร.เป็นการด่วน และมอบหมายให้นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย กกร.มีมติให้ยกเลิกประกาศ กกร.ฉบับเดิมที่กำหนดราคาหน้าโรงงานน้ำตาลทรายขาวธรรมดา และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ที่ 19-20 บาท/กก. และราคาขายปลีกที่ 24-25 บาท/กก. และคุมการส่งออกที่กำหนดให้การส่งออกตั้งแต่ 1,000 กก. ขึ้นไปจะต้องขออนุญาตจากกรมการค้าภายในก่อน
ทั้งนี้น้ำตาลทรายยังคงเป็นสินค้าควบคุม ภายใต้ พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 และ กกร.จะออกประกาศฉบับใหม่ กำหนดเพียงราคาหน้าโรงงานเท่านั้น ที่ 21-22 บาท/กก. ตามมติครม. ที่ให้ปรับขึ้น 2 บาท/กก. ส่วนราคาขายปลีกไม่ได้กำหนด แต่ผู้ค้าจะต้องขายในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุน เช่น กรณีของห้างค้าปลีก-ค้าส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ควรขายไม่เกิน 26-27 บาท/กก. ส่วนร้านโชห่วย ร้านค้าทั่วไป ร้านค้าในตลาดสด ราคาขายปลีกขึ้นอยู่กับช่วงของการรับซื้อ ถ้ารับมาหลายต่อ ราคาก็จะสูงขึ้น หรือขึ้นอยู่กับระยะทางใกล้-ไกลสำหรับการขนส่ง หากอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ราคาขายปลีกก็อาจสูงขึ้น
ขณะที่การส่งออก ไม่ต้องขออนุญาตกรมการค้าภายในแล้ว เพียงแค่ให้แจ้งปริมาณส่งออก และปริมาณน้ำตาลคงเหลือในสต็อก เพื่อให้กรมการค้าภายใน สามารถติดตามดูแลปริมาณน้ำตาลในประเทศไม่ให้เกิดการขาดแคลน โดยจะประสานงานกับ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มีน้ำตาลเพียงพอในการใช้ในประเทศ ทั้งนี้ คาดว่าประกาศฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้วันที่ 15 พ.ย.66 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ในที่ประชุม กกร.และ สอน.ยืนยันว่า น้ำตาลทรายในประเทศไม่ขาดแคลนแน่นอน และสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลังจากนี้ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ จะส่งเจ้าหน้าที่ทั้งจากกรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจสอบสถานการณ์การค้าอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภค และการกักตุน หรือปฏิเสธการขาย โดยหากพบผู้ค้ารายใดกักตุน หรือปฏิเสธการขาย หรือขายราคาสูงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนกรณีที่ชาวไร่อ้อย ระบุก่อนหน้านี้ว่า หลังจาก ครม.ให้ปรับขึ้น 2 บาท/กก. ในครั้งนี้แล้ว หลังจากนั้นอาจให้ปรับขึ้นอีก 2 บาท/กก. เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนจริงที่เพิ่มขึ้นนั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง สอน. ต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์ก่อนตามมติ ครม.ที่กำหนดให้ ก่อนปรับขึ้นราคาน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรมต้องหารือกับกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานดูแลราคาสินค้าและค่าครองชีพประชาชนทั่วประเทศ
#ราคาน้ำคาล #น้ำตาล #พาณิชย์