"ผบ.ตร."มั่นใจ"เสี่ยแป้ง นาโหนด" ยังกบดานบนเขาบรรทัด เผย DNA ยืนยันตัวจริง "ตำรวจ CIB" บุกเข้าค้นบ้าน "อดีตสจ." หลังมีชื่อเป็นผู้ขอใบอนุญาตปืนที่อยู่ในที่เกิดเหตุปะทะ"เสี่ยเเป้ง" พบอาวุธปืนจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านผวา ยังไร้เงา"เสี่ยแป้ง" เผยเวลานอนต้องพกอาวุธข้างกายตลอด พร้อมเปลี่ยนเวลากรีดยางจากตอนกลางคืนเป็นเวลาเช้า ขณะที่ความมั่นคง สภ.มะนัง สนธิกำลังไล่ล่า ตั้งด่านสกัด 24 ชม.

 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการไล่ล่า นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ นายแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66 ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับข้อมูลว่า เสี่ยแป้ง หลบหนีอยู่บนเทือกเขาบรรทัด ในพื้นที่ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง รอยต่อ อ.ตะโหมด จ.พัทลุง พร้อมลูกน้องและอาวุธปืนสงคราม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 พ.ย.66  พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด หลังหลบหนีไปได้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมและมีการยิงปะทะกันบริเวณเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อพื้นที่ 4 จังหวัด ก่อนหลบหนีไปได้ ว่า เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งติดตามตัว โดย พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ไปติดตามความคืบหน้าด้วยตนเอง พร้อมระบุว่าตำรวจใช้กำลังพลกว่า 200 นาย ในการติดตามตัวคนคนเดียว ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอจากอุปกรณ์และเสื้อผ้าที่เจอ บริเวณบนเขาบรรทัด ยืนยันว่าเป็นของเสี่ยแป้งจริง ย้ำว่าตำรวจระดมกำลังและอุปกรณ์ทุกอย่างเพื่อตัดทุกช่องทาง โดยเชื่อว่าเสี่ยแป้งยังคงหนีอยู่บนเขาอย่างแน่นอน

     วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.6 บก.ป. ร่วมกับ กก.สส.ภ.8 ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้าน นายสุพัฒ อดีต สจ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ที่บ้านพักในพื้นที่ ต.โคกม่วง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางเจ้าหน้าตำรวจได้เร่งไล่ล่าติดตามจับกุมตัว นายเชาวลิต ทองด้วง หรือ นายแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค.66 ที่ผ่านมา บนเขาบรรทัด จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตรวจยึดอาวุธปืน M16 ได้ที่บริเวณเขาบรรทัด จำนวน 1 กระบอก โดยจากการตรวจสอบเลขที่ปรากฏบนอาวุธปืนพบว่า ตรงกับกับเลขทะเบียนอาวุธปืนที่ นายสุพัฒฯ เคยขอใบอนุญาตไว้

 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอหมายศาลเข้าค้นบ้านพักของนายสุพัฒ จากการตรวจค้นพบอาวุธปืนยาวลูกซอง 1 กระบอก และปืนยาวไรเฟิล ขนาด 5.56 NATO ยี่ห้อ BARRETT อีก 1 กระบอก ซึ่งอาวุธปืนยาวไรเฟิล ที่ตรวจพบ มีเลขทะเบียนตรงกับอาวุธปืน M16 ที่ตำรวจตรวจพบขณะไล่ล่าเสี่ยเเป้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดอาวุธปืนส่งไปตรวจยังพิสูจน์หลักฐาน ภ.9 และมีการเชิญตัวนายสุพัฒฯ ไปยัง สภ.เขาชัยสน เพื่อสืบสวนขยายผลต่อไป

 ทั้งนี้จากการสืบสวนยังพบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่านายสุพัฒเป็นผู้ใหญ่ที่เสี่ยเเป้งให้ความเคารพนับถือ โดยก่อนที่เสี่ยแป้งจะก่อเหตุหลบหนีออกจากโรงพยาบาล นายสุพัฒอ้างว่าได้มีการเดินทางไปเยี่ยมเสี่ยแป้ง ที่โรงพยาบาลฯ จริง แต่เดินทางไปเพื่อแจ้งข่าวการเสียชีวิตของบิดาเสี่ยแป้งเพียงเท่านั้น
    
 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการไล่ล่า นายเชาวลิต ทองด้วง หรือนายแป้ง นาโหนด ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช  ว่า เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนและติดตามกันอย่างไม่ลดละ แม้ฝ่ายความมั่นคงจะกระจายกำลังปิดล้อมกระชับพื้นที่ขึ้นบนภูเขาจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พบตัว ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน และชาวสวนยางพาราที่อาศัยริมเทือกเขาบรรทัด บ้านป่าพน หมู่ที่ 9 ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล ยอมรับว่า รู้สึกถึงความอันตราย และไม่ปลอดภัย โดยไม่รู้จะเกิดขึ้นกับตนหรือไม่

 โดยชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จากกระแสข่าวการติดตามไล่ล่าว่าอาจจะหลบหนีมาทางเขาบรรทัดด้าน จ.สตูล ยิ่งสร้างความหวาดกลัวไม่กล้าจะออกไปกรีดยางพาราในเวลากลางคืน ทำให้ต้องปรับเวลาในการกรีดยางพาราเป็นช่วงฟ้าสางแทน

 ด้าน นางสาวเอ ชาวบ้านป่าพน ยอมรับว่า หลังมีกระแสข่าวชาวบ้านในละแวกนี้ประมาณ 100 ครัวเรือน ต่างผวา และหวาดกลัวไม่กล้าที่จะเปิดประตูบ้านทิ้งไว้ โดยเฉพาะคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งจะนั่งพูดคุยกัน ก็ต้องนั่งรวมกลุ่มกันหลายๆคน เพื่อสร้างความอบอุ่นใจ ยามค่ำคืนหรือแม้กระทั่งยามนอน ต้องพกมีดพร้า หรือของมีดมีคมวางไว้ข้างกายทั้งยามนอนก็ตาม เพื่อความอุ่นใจ เพราะหมู่บ้านเราใกล้กับเทือกเขาบรรทัด กลางดึกก็กลัวจะมีใครมาเคาะประตูบ้าน หรือบุกเข้ามาในบ้านเพราะ แป้ง นาโหนด มีอาวุธปืนสงครามยิ่งสร้างความหวาดกลัว ทำให้ต้องเปลี่ยนเวลาการกรีดยางพาราในยามดึกมากรีดยางพาราในตอนเช้าแทน ซึ่งพวกตนยอมรับว่ากลัว แม้เจ้าหน้าที่จะบอกว่าไม่มีอะไรก็ตาม
 
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ทางด้านความมั่นคง สภ.มะนัง ได้มีการตั้งกำลังผสม ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป็นพื้นที่รับผิดชอบใกล้เทือกเขาบรรทัด โดยมีนายเชษฐ์ บุตรรักษ์ นายอำเภอมะนัง ได้มอบหมายให้ปลัดป้องกัน อส. พลัดเปลี่ยนกำลังที่มี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งหว้า ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด ชุดป้องกันและปราบปราม และสืบ สภ.มะนัง พร้อมอาวุธครบมือลาดตระเวนและตั้งจุดตรวจสกัด 24 ชั่วโมง ตรวจตรารถยนต์เข้าออกทุกคัน ที่มุ่งหน้าไปเที่ยวชมถ้ำภูผาเพชร และหมู่บ้านชาวมานิ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการพยายามเข้ามาส่งเสบียง และสกัดทุกช่องทางที่จะเชื่อได้ว่าเป็นเส้นทางหลบหนี