"รัฐบาล"แสดงความเสียใจ สูญเสียบุคลากรครู โดนลูกหลงวัยรุ่นยิงนักศึกษา เตรียมบูรณาการหามาตรการป้องกัน   "รรท.ผบก.น.5" แย้มรู้ตัวมือยิง"ครูเจี๊ยบ" รอรวบรวมพยานหลักฐานก่อนออกหมายจับ 

 จากกรณีคนร้ายก่อเหตุไล่ยิงกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย แต่ปรากฏว่ากระสุนพลาดไปโดน น.ส.ศิรดา สินปราเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่กำลังเดินไปกดเงินหน้าตู้ธนาคารทหารไทยธนชาต สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เสียชีวิต ส่วน นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส อยู่ระหว่างวรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทยนั้น
   
  ล่าสุด ที่สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อวันที่ 12 พ.ย.66 เวลา 10.30 น. พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผู้กำกับการ สน.ทุ่งมหาเมฆ ประชุมความคืบหน้าคดี โดยใช้เวลาในการประชุมนาน 2 ชั่วโมง ก่อนออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่า วันนี้ได้ประชุมทีมคณะทำงาน และได้สรุปผลการปฎิบัติงานเมื่อวานนี้ ยืนยันว่า มีความคืบหน้าในระดับหนึ่งแล้ว หลังจากนี้ก็จะเร่งรัดการดำเนินคดีอย่างเต็มที่ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมา พร้อมมั่นใจว่าขณะนี้ได้ระดมนักสืบมือดีจากทุกฝ่าย ทั้งของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และสน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อทำคดีนี้ เชื่อว่าจะมีความคืบหน้า และมีข่าวดีเร็วๆ นี้ แต่ต้องขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน
   
  ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีความชัดเจนเรื่องรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายแล้วหรือไม่ พ.ต.อ.วิทวัฒน์ กล่าวว่า เท่าที่ได้ก็มีความคืบหน้าแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ และอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ข้อมูลอยู่ โดยเฉพาะเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย เบื้องต้นเราได้ข้อมูลในระดับหนึ่ง

     สำหรับประเด็นเรื่องคนร้ายได้วางแผนมาก่อนหรือไม่นั้น พ.ต.อ.วิทวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน จึงจะมีความชัดเจน เบื้องต้นทางตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง และยังคงให้ความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของ ความขัดแย้งของสถาบัน แต่ยังไม่สรุปว่าเป็นสถาบันคู่อริที่มีปัญหากันมายาวนานหรือที่ไหนอย่างไร อยู่ระหว่างสืบทราบ และยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
  
   จากการสอบปากคำพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุและเพื่อนของคนเจ็บราว 6-7 ปากแล้ว เบื้องต้นเพื่อนคนเจ็บยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับใคร เพราะเป็นรุ่นน้องปี 1 เพิ่งเข้ามา ส่วนพยานก็พอให้การเป็นประโยชน์ในเรื่องรูปพรรณสัณฐานได้ แต่อาจจะยังไม่ชัดเจน เนื่องจากคนร้ายสวมเสื้อแขนยาว สวมหมวกกันน็อค ปิดบังใบหน้า เมื่อถามย้ำจากข้อมูลการสืบสวน ตัวคนร้ายหลบหนีออกนอกพื้นที่หรือยังอยู่ในพื้นที่หรือไม่นั้น พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ตอบว่า อยู่ในขั้นตอนการสืบสวน รวมถึงประวัติของคนร้ายว่าเคยก่อเหตุในคดีลักษณะนี้มาแล้วหรือไม่
    
 วันเดียวกัน น.ส.พรพิมล จำเมือง อายุ 43 ปี แม่ของนายธนสรณ์ ผู้บาดเจ็บ ได้เดินทางมีที่ สน.พระโขนง มาให้การกับตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุลูกชายได้ออกจากบ้านเวลาประมาณ 08.00 น. เพื่อไปทำกิจกรรมทำซุ้มให้กับรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย  ซึ่งตนยืนยันไม่เคยเห็นลูกชายมีเรื่องกับใครและเป็นคนที่ตั้งใจเรียน และเป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อนๆ และรุ่นพี่  ทุกๆ วันที่ออกไปเรียนจะมีเพื่อนมารับเพื่อนั่งรถประจำทางไปด้วยกัน และเคยสัญญากับแม่ว่าจะพยายามเรียนให้จบได้เงินเดือนสูงมาช่วยเหลือจุนเจือครอบครัว แม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย แต่กลับต้องมาเจอเหตุแบบนี้ จึงอยากถามคนก่อเหตุว่าทำลูกชายของตัวเองทำไม และต้องการให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะมีคนที่ไม่เกี่ยวข้องมาเสียชีวิตกับเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
 
    น.ส.พรพิมล ยังเปิดเผยถึงอาการของลูกชาย ว่า  อาการของลูกชายขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว เป็นตายเท่ากัน และอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด  และหวังว่าปาฏิหาริย์จะมีจริงช่วยให้ลูกปลอดภัยกลับมาอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง
   
  อยากให้ความขัดแย้งเรื่องสถาบันหมดไป ที่ผ่านมาเห็นความสูญเสียก็ภาวนาอย่าให้เกิดกับลูกตัวเอง อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ปัญหาเรื้อรังนี้ให้หมดไปเพราะที่ผ่านมาไม่เห็นมีใครเข้ามาแก้ปัญหาได้เลย
 
    ด้าน  โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ออกประกาศโดยระบุว่า จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ไม่ไกลจากโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ มีผลให้โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์สูญเสียบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและเป็นที่รักของนักเรียนและเพื่อนร่วมงาน ทางโรงเรียนและคณะผู้บริหารมีความเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างสุดซึ้ง
   
  ทั้งนี้คณะผู้บริการโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ มิได้นิ่งนอนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางคณะผู้บริหารได้ทบทวนและยกระดับมาตรการการรักษาความปลอดภัยทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน เพื่อป้องกันและรับมือเหตุการณ์รุนแรง โดยได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท่าเรือ และ สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้ามาเฝ้าระวังความปลอดภัยในพื้นที่โดยรอบ
    
 และจากเหตุการณ์นี้โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ได้ดำเนินการติดต่อผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ มาให้ความรู้ เสริมสร้างทักษะการป้องกันและวิธีรับมือต่อสถานการณ์ความรุนแรงเช่นนี้ต่อคณะครู บุคลากรและนักเรียนทุกคน จะได้รับการอบรมดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 13 พ.ย.นี้
  
     ในการนี้โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ จะเพิ่มความเข้มงวดในเรื่องของการเข้าออกโรงเรียน ทางโรงเรียนใคร่ขอความร่วมมือจากผู้ปกครองและท่านผู้มาติดต่อประสานงาน จึงขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย
   
  ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่บริเวณวัดแม่พระประจักษ์แห่งภูเขาคาร์แมล อาคารบ้านแม่พระประจักษ์ หมู่ 4 ต.ต้นตาล อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพน.ส.ศิรดาหรือครูเจี๊ยบ เจ้าหน้าที่ ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ พร้อมกับมีการล้างทำความสะอาด และมีการตกแต่ง โดยมีการนำผ้าสีขาวมากันเป็นฉากด้านหลังบริเวณกำแพง เพื่อความสวยงาม ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ได้นำโรงเย็นขนใส่รถกระบะ เข้ามาภายในสถานที่จัดงาน เพื่อใช้ในการรับร่างของครูเจี๊ยบ สำหรับกำหนดการพิธีงานศพของ ครูเจี๊ยบ วันที่ 12 พ.ย. เวลา 17.00 น. พิธีสวดภาวนา วันที่ 13 - 14 พ.ย. พิธีสวดภาวนา วันที่ 15 พ.ย. พิธีมิสซา-ปลงศพ ที่ศาลาวัดแม่พระประจักษ์แห่งภูเขาคาร์แมล อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
   
  ด้าน น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุการณ์ยิงนักศึกษาบาดเจ็บและครูโดนลูกหลงเสียชีวิต ว่า ตนในฐานะตัวแทนของรัฐบาลขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างสุดซึ้ง รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยจะมีการบูรณาการร่วมกันของหลายกระทรวงอาทิ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐบาลต้องหาทางป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย เพราะเหตุดังกล่าวถือว่ากระทำอย่างอุกอาจ และทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ไม่เกี่ยวข้องต้องมาเสียชีวิต ดังนั้นรัฐบาลจะหามาตรการแก้ไขอย่างเร่งด่วน 
     
น.ส.เกณิกา ยังได้กล่าวถึงผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย จากเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้น กระทรวงอว.ได้มีการประสานไปยังวิทยาเขตอุเทนถวาย เพื่อให้การช่วยเหลือนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บ