วันที่ 12 พฤศจิกายน 2566 ตั้งแต่เวลา 08.00น พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางพร้อมคณะ ทอดผ้าป่าและทอดกฐินสามัคคี ณ วัดบ้านหนองแดง ตำบลหนองกุง อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม โดยมี นายวิบูลย์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย นายกิจจา หมอกเจริญ นายอำเภอนาเชือก นายวิชัย จันทร์ภักดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองกุง ให้การต้อนรับและพุทธศาสนิกชน คณะศิษยานุศิษย์ พระครูโสภณสราธิการ(หลวงปู่ขำ เกสาโร) เข้าร่วมและร่วมทอดกฐินสามัคคี
พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนสร้างประตูโขง และบูรณะเสนาสนะภายในวัดหนองแดง โดยได้ประกอบพิธีถวายผ้ากฐิน เครื่องบริวารกฐิน และ พุ่มกฐิน ร่วมกับ พุทธศาสนิกชนที่เข้าร่วมพิธี ซึ่งการทอดกฐินสามัคคี ในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา อนุรักษ์สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ ตลอดจน นำปัจจัยจากผู้มีจิตศรัทธา ที่ได้รับในครั้งนี้ รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 2,000,999.- บาท
ประวัติ หลวงปู่ขำ เกสาโร นามเดิมชื่อ นายขํา ธรรมดา เกิดเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2471 ณ บ้านหนองแดง ต.หนองกุง อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม เป็นบุตรของนางเข็ม และนายโต ธรรมดา บรรพชา เป็นสามเณร เมื่ออายุ 12 ปี (พ.ศ.2483) โดยมี “เจ้าอธิการเนาว์ ยโสธโร" วัดบ้านหนองแดง เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ (พ.ศ.2491) ซึ่งเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัด บ้านพัช โดยมี พระครูนิเทศนิสัยชิต (หลวงปู่รอด พรมสโร) วัดหนองกุง เป็นพระอุปัชฌาย์ เจ้าอธิการเนาว์ วัดหนองแดง เป็นพระกรรมวาจาจารย์และหลวงพ่อสุบิน สปัญโญ วัดหนองม่วง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ใต้รับฉายา “เกสาโร” หลวงปู่ขำ เกสาโร" ท่านเป็นทั้งศิษย์ใกล้ชิดและเครือญาติกันกับ "หลวงปู่เนาว์ ยโสธโร" อดีตพระเกจิอาจารย์ดังแห่งลำห้วยลำพังซูเขตติดต่อชายแดนของสองจังหวัด (มหาสารคาม-บุรีรัมย์)
ซึ่งในสมัยนั้น "หลวงปู่เนาว์" ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังมาก ไม่จะเป็นด้านสรรพวิชาอาคมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้าน อยู่ยง คงกระพัน หรือแม้แต่การรักษาผู้ป่วยวิกลจริตจิตฟั่นเฟือง หรือแถวๆบ้านผมเรียกว่า (ปั่วบ้า) ได้ชะงักนักแล อีกทั้งยังเป็นที่พึงทางจิตใจของสานุศิษย์ทั้งสองฝั่งลำห้วยลำพังซู เหตุที่ท่านได้ย้ายกลับมาจำพรรษาที่บ้านเกิดเพราะช่วงนั้น "หลวงปู่เนาว์" ซึ่งเป็นบูรพาจารย์องค์แรงของท่าน อาพาธหนักจึงได้สั่งให้ญาติโยมไปนิมนต์ท่านกับมาเมื่อราวปี พ.ศ.2512-13 ลำดับสมณศักดิ์ ปี 2536 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรีที่ “พระครูโสภณสราธิการ" และปี 2557 ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทในราชนินนามเดิม (ตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลชั้นโท) ปัจจุบัน สิริอายุ 95 ปี 75 พรรษา