สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า บรรดาผู้นำประเทศอาหรับและประเทศมุสลิม ถึงแม้จะมีมติประณามต่ออิสราเอลจากกรณีที่มีปฏิบัติการโจมตีฉนวนกาซา แต่ก็ยังเสียงแตกเรื่องมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจและการเมืองต่ออิสราเอล จากการที่ผู้นำบางประเทศมีวิธีการลงโทษแตกต่างกัน รวมถึงมีผู้นำบางประเทศ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องการลงโทษต่ออิสรเอล
รายงานข่าวแจ้งว่า มติประณามข้างต้น มีขึ้นในการประชุมสุดยอดสันนิบาตอาหรับ และองค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี ที่กรุงริยาด เมืองหลวงของซาอุดีอาระเบีย เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนมีแถลงการณ์ออกมา
โดยในแถลงการณ์ถึงแม้จะมติประณาม เนื่องจากไม่ยอมรับการกล่าวอ้างของอิสราเอลที่ว่า การโจมตีฉนวนกาซาก็เพื่อป้องกันตนเอง พร้อมกันนี้ แถลงการณ์ในที่ประชุมฯ ยังได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี มีมตีที่เด็ดขาด และต้องให้มีผลผูกพันด้วย ส่วนมาตรการลงโทษต่ออิสราเอลนั้น ปรากฏว่า ผ้นำจากทั้งในชาติในอาหรับ และมุสลิม ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกัน เช่น ผู้นำของแอลจีเรียและเลบานอน ต้องการให้ลงโทษไม่ให้ลำเลียงน้ำมันไปให้อิสราเอลตลอดจนชาติพันธมิตรของอิสราเอล ขณะที่ บางประเทศต้องการให้ตัดสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการทูต นอกจากนี้ ยังมีผู้นำบางประเทศ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี และบาห์เรน ซึ่งเพิ่งสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลเมื่อไม่นานมานี้ ได้ปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอการประณามข้างต้น
ทางด้าน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกมาเรียกร้องต่อบรรดาผู้นำโลกอาหรับและมุสลิมว่า ต้องยืนหยัดต่อต้านกลุ่มฮามาส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการก่อการร้ายที่นำโดยอิหร่าน