วันที่ 11 พ.ย.66 เวลา 15.00 น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รรท.ผบก.น.3 พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รองผบก.น.3 พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.หนองจอก ชุดสืบสวนสน.หนองจอกและชุดสืบสวนบก.น.3 ร่วมกันจับกุมนายธวัฒน์ชัย อายุ 54 ปี พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 3 เส้นบ้านพักแห่งหนึ่ง ถนนสุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากวันที่ 10 พ.ย. เวลาประมาณ 14.30 น. สน.หนองจอก รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท 3 เส้น และเงินสด ประมาณ 40,000 บาท ภายในร้านทองห้างดังบริเวณชั้น 2 สาขาหนองจอก ถนนเลียบวารี แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร แล้วใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮา สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเป็นยานพาหนะ ขับขี่หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจนสืบทราบว่า นายธวัฒน์ชัย ไตรเรกพันธุ์ จนกระทั่งพนักงานสอบสวนสน.หนองจอก ขออนุมัติศาลออกหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่จ.1173/2566 ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” จากนั้นชุดสืบสวนสน.หนองจอกและสืบบก.น.3 ลงพื้นที่ตรวจบ้านพักนายธวัฒน์ชัย บริเวณริมถนนสุวินทวงศ์ จนกระทั่งจับกุมได้ดังกล่าวภายใน 24 ชั่วโมง
จากการสอบสวนนายธวัฒน์ชัย ให้การรับสารภาพว่าเพิ่งออกจากงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยโรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่งภายในบริเวณใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อเหตุจริง พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 3 เส้น ส่วนเงินสด 40,000 บาท แจ้งว่าเอาไปใช้หนี้บัตรเครดิต ส่วนอาวุธปืนให้การว่าเป็นเพียงกล่องยาสีฟันพันผ้า สาเหตุเนื่องจากรายจ่ายมากกว่ารายรับขอยืมเงินเพื่อนและญาติไม่ได้จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนปลอมก่อเหตุชิงทองดังกล่าว ตอนแรกตั้งใจหลบหนีไปปอยู่ต่างจังหวัด ก่อนหน้านี้มีเงินให้เงินเพื่อนได้ แต่พอตนเองเดือดร้อนไม่มีเงินไม่มีใครช่วยเหลือ จึงตัดสินใจด้วยความคิดชั่ววูบก่อนเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.หนองจอกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป