“คารม” เผย ธอส. จัดโปรส่งท้ายปี ดอกเบี้ย 0% 3 เดือนแรก ผ่อนเริ่มต้น 3,300 บาท ยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายใน 29 ธ.ค 66
วันนี้ (11 พ.ย 2566) นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐที่มีพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองและครอบครัวได้ง่ายขึ้น เตรียมกรอบวงเงิน 45,000 ล้านบาท จัดทำ 3 ผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้าน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก ส่งท้ายปี 2566 โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. สินเชื่อบ้าน Happy ;D กรอบวงเงิน 10,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซื้อบ้าน และห้องชุด (คอนโดมิเนียม) จากโครงการจัดสรรที่เข้าร่วมโครงการกับธนาคาร อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-3 เท่ากับ 0% ต่อปี เดือนที่ 4-12 เท่ากับ 2.50% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 2.98% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.55% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.80% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 40 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,300 บาท
2. สินเชื่อ Mild Home กรอบวงเงิน 30,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าที่ต้องการกู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซม และไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-3 เท่ากับ 0.70% ต่อปี เดือนที่ 4-24 เท่ากับ 2.98% ต่อปี ปีที่ 3 เท่ากับ 3.55% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.98% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 40 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียงเดือนละ 3,600 บาท ระยะเวลานานถึง 2 ปี
3. สินเชื่อบ้าน Happy Welfare กรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ทำงานในหน่วยงานที่มีสวัสดิการกับธนาคารและต้องการกู้เพื่อซื้อบ้าน ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ไถ่ถอนจากสถาบันการเงินอื่น (รีไฟแนนซ์) หรือชำระหนี้เกี่ยวกับที่อยู่อาศัยพร้อมกับรีไฟแนนซ์ อัตราดอกเบี้ยเดือนที่ 1-6 เท่ากับ 0.70% ต่อปี เดือนที่ 7-12 เท่ากับ 2.75% ต่อปี ปีที่ 2 เท่ากับ 2.98% ต่อปี และปีที่ 3 เท่ากับ 3.55% ต่อปี เฉลี่ยอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก เท่ากับ 2.75% ต่อปี กรณีกู้ 1 ล้านบาท ระยะเวลากู้ 40 ปี ผ่อนชำระเริ่มต้นเพียง 3,500 บาทต่อเดือน
”ในภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ธอส. พร้อมช่วยเหลือให้ลูกค้าประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองง่ายขึ้น ผ่านการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ อัตราดอกเบี้ยคงที่นานถึง 3 ปี เพื่อให้ลูกค้ามีภาระในการผ่อนชำระต่อเดือนอยู่ในระดับต่ำ และมีเงินเหลือเพียงพอต่อการดำรงชีพในแต่ละเดือน ซึ่งจะส่งผลทำให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลดีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจตามไปด้วย สำหรับผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้และทำนิติกรรมภายในวันที่ 29 ธันวาคม 2566 ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ“นายคารม กล่าว