เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 พ.ย.66 พ.ต.ท. จรูญ  มหาผล สารวัตรเวร สภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี  ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ร้านจำหน่ายปุ๋ย ยาฆ่าแมลงและอุปกรณ์การเกษตร เลขที่ 381/1  ม.4  ต.ดอนทราย  อ.ปากท่อ  จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พศพงศ์  มณฑา  ผกก.สภ.ปากท่อ  พ.ต.ท.อรรถวุฒิ  อนุเอกจิตร  รองผกก.ป.สภ.ปากท่อ   นายสุทธิพงศ์  พุฒจันทรา  นายอำเภอปากท่อ  และนายลือชา  วงศ์เปี่ยม  ปลัดอำเภอ  ได้รับทราบก่อนประสานขอรถน้ำดับเพลิงจากอบต.ดอนทราย เข้าไปทำการฉีดน้ำเพลิง  แต่เนื่องจากร้านดังกล่าวนั้นด้านในมีปุ๋ยยูเรียซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจำนวนมาก  ทำให้เพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว จึงขอรถน้ำจากพื้นที่ใกล้เคียง รวมกว่า 20 คัน และรถโฟมจากอบจ.ราชบุรี  เทศบาลเมืองราชบุรี และจังหวัดใกล้เคียงรวม 4 คัน เข้ามาทำการดับเพลิง  โดยพบว่าร้านที่เกิดเหตุนั้นเป็นอาคาร 3 ชั้น 2 คูหา   ไฟลุกไหม้จากชั้นล่างซึ่งเป็นที่เก็บปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่ต้องระดมฉีดทั้งน้ำและโฟมเข้าไปด้านใน ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไปยังห้องข้างเคียงได้และทราบว่ามีผู้ที่ติดอยู่ภายในอาคารเจ้าหน้าที่ต้องทำการงัดประตูด้านหลังเข้าไปช่วยเหลือออกมาได้ ซึ่งมีอาการสำลักควันไฟ  เจ้าหน้าที่ได้นำส่งโรงพยาบาลปากท่อ ทราบชื่อคือนายมงคลวิช  พนสิทธิวนา  อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของร้านดังกล่าว  นอกจากยังมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูลได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิดของสารเคมีกระเด็นเข้าตาด้วยจำนวน 2 คน
     

 จากการสอบถามทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายมงคลวิช  ซึ่งอยู่ในร้านดังกล่าวเพียงคนเดียว  เห็นไฟช็อตที่บริเวณศาลตี่จู้เอี้ยะ และเกิดประกายไฟ จึงได้นำน้ำไปสาดดับไฟทำให้เปลวไฟกระเด็นไปโดนกองปุ๋ยยูเรีย ทำให้เกิดไฟลุกขึ้นและไม่สามารถดับได้ จึงได้แจ้งขอความช่วยเหลือดังกล่าว แต่ทั้งนี้จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบถึงสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง  โดยกันพื้นที่ดังกล่าวไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปเพื่อป้องกันทรัพย์สินที่ยังมีเหลืออยู่สูญหาย 
     

เบื้องต้นมูลค่าความเสียนั้นยังไม่สามารถประเมินได้  เพราะด้านในนั้นมีทั้งปุ๋ย  ยาฆ่าแมลง อุปกรณ์การเกษตร และทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนมาก