หลังจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เปิดศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญกรรม (Anti Online Scam Operation Center หรือ AOC ) สายด่วน 1441 แบบ One Stop Service เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อรับแจ้งและจัดการปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงจากสารพัดวิธีได้ทันที ทั้งระงับ อายัดบัญชีคนร้ายและติดตามเงินคืนเหยื่อ ซึ่งมีผลที่น่าพึงพอใจประชาชนตื่นตัว ในช่วง 6 วันแรกมีประชาชนโทรปรึกษาและแจ้งเหตุสูงถึง 15,000 สาย ช่วยอายัดบัญชีจบภายใน 1 ชั่วโมงถึง 678 บัญชี
ขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เดินหน้าประสานธนาคารและสถาบันการเงินในการพัฒนาระบบแอปพลิเคชันโมบายแบงค์กิ้ง (Mobile Banking) ให้สามารถตรวจจับบัญชีต้องสงสัยหรือบัญชีม้า คาดว่าจะเปิดให้ใช้บริการภายในธันวาคม 2566 ซึ่งปัจจุบัน ธปท. ตำรวจ ปปง. ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลบัญชีม้า เส้นทางการเงินของบัญชีม้า เพื่อระงับธุรกรรมทางการเงินของบัญชีม้าทุกธนาคารตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566
นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค ขอชื่นชมการดำเนินการของกระทรวงดีอีเอส และ ธปท.รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ไม่นิ่งเฉยต่อปัญหาและนำข้อเสนอแนะของสภาผู้บริโภคไปปรับใช้ จัดการปัญหาแก๊งค์คอลเซนเตอร์ และภัยทางไซเบอร์ ในรูปแบบศูนย์ One Stop Service ทั้งอายัดบัญชี และแจ้งความภายในการโทรแจ้งเพียงทีเดียวและครั้งเดียว ซึ่งการบูรณาการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงานจะสามารถช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการอายัดบัญชีภายใน 1 ชั่วโมงอาจไม่ทันกาล ข้อเสนอของสภาผู้บริโภคจึงเสนอให้อายัดบัญชีภายใน 3 นาที เนื่องจากมิจฉาชีพใช้ระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีในการโอนเงินไปยังบัญชีทอดต่อไป ซึ่งจะสามารถยับยั้งธุรกรรมทางการเงินได้ทันกาล ก่อนจะถูกโอนเงินออกไปยังบัญชีอื่นในขบวนการหรือบัญชีม้า ตลอดจนยังเป็นการทำงานเชิงรุกในการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ที่ปัจจุบันคนร้ายหรือ แก๊งค์คอลเซนเตอร์ ยังไม่หยุด และยังหาสารพัดวิธี หลอกลวงผู้บริโภคตลอดเวลา