ภูมิธรรมระบุวงดินเนอร์ นายกฯ-แกนนำพรรคร่วมฯ ชื่นมื่น ทุกคนแฮปปี้ ถามสารทุกข์สุกดิบ คิวต่อไปภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพ เศรษฐาไม่มีปัญหาอุ๊งอิ๊งเด่นกว่า ด้านวราวุธ" เผยวงดินเนอร์ช่วยกระชับสัมพันธ์ ขณะที่"ชัยชนะ"ซัดรัฐบาลบริหาร 2 เดือน สอบตก คะแนนเต็ม 10 ได้แค่ 3 ส่วน35 รมต. สอบผ่านแค่ 3 ให้นายกฯทบทวน
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงบรรยากาศในการร่วมรับประทานมื้อค่ำกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคไม่ได้เดินทางมา แต่ส่ง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค มาแทน ซึ่งไม่มีอะไร เพราะเป็นกันทานข้าวร่วมกัน นายกฯ ถือโอกาสมาพูดคุย นายกฯ ก็พยายามสอบถามสารทุกข์สุกดิบแต่ละคนทำอะไรกันมาบ้าง ทุกคนก็รู้สึกดีที่ได้รับประทานอาหารที่นายกฯ เป็นเจ้าภาพ จึงตกลงกันว่าจากนี้จะหมุนเวียนสลับกันเป็นเจ้าภาพเดือนละครั้ง โดยครั้งต่อไปจะเป็นพรรคภูมิใจไทย คนในวงขออย่าเป็นพื้นที่ที่การคมนาคมติดขัด เพราะเมื่อคืนฝนตกหนักทำให้แต่ละคนกว่าจะมาถึงก็ใช้เวลานาน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การพูดคุยไม่มีปัญหาข้อติดขัดในการทำงานระหว่างพรรค การทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นไปด้วยดี และจากนี้ก็จะช่วยกันทำงานแก้วิกฤติของประเทศ ทุกคนเต็มที่ และบรรยากาศการพูดคุยเป็นไปอย่างสนุกสนาน ยกตัวอย่างกระแสข่าวความขัดแย้งของตนกับ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม หากประชุมครม. กันวันไหน ก็จะนัดกันจูงมือกันเข้าประชุมเลย
ความร่วมมือแบบนี้น่าจะทำให้รัฐบาลสามารถทำงานได้เต็มที่ บางครั้งมีอะไรที่ไม่เข้าใจหรืออะไรกันบ้าง ก็จะให้คุยกันเลย จึงไม่น่าจะมีปัญหา นายภูมิธรรม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายกฯ นัดทานอาหารกับพรรคร่วม เป็นเพราะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีบทบาทเด่นกว่าหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี เพราะน.ส.แพทองธารกับนายกฯ พูดคุยกันตลอด เราก็รู้ว่าช่วยกันทำงานในแต่ละหน้าที่ที่รับผิดชอบ ตนเมื่อมาเป็นรัฐมนตรีก็มีความห่างจากพรรค เพราะต้องมาทำงานบริหาร เรื่องพรรคบางครั้งก็ไม่สามารถตอบในรายละเอียดได้ ในเรื่องของพรรคเพื่อไทย เป็นหน้าที่ของน.ส.แพทองธารที่จะทำพรรคเพื่อไทยให้เข้มแข็ง นายกฯ ก็ทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ต้องประสานกับคณะรัฐมนตรีเพื่อทำงานให้ได้ตามเป้าหมาย แยกทำหน้าที่ชัดเจน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ในเรื่องการประชุมพรรค นายกฯ กำชับรัฐมนตรีทุกคนขอให้เข้าประชุม และถ้านายกฯไม่ติดภารกิจก็จะเข้าร่วมด้วยเพื่อจะได้มีความสัมพันธ์กับส.ส. สานต่อเรื่องการทำงาน เพราะส.ส.ได้ลงพื้นที่พบประชาชนก็จะได้สะท้อนความรู้สึกกลับมาเพื่อมาปรับการทำงาน รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็จะได้ชี้แจง ถ้าติดขัดอะไรก็บอกมาจะได้หาทางแก้ปัญหากัน
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยว่า ได้ร่วมรับประทานอาหารค่ำด้วยกันและสนิทสนมกันดี โดยหลักๆ พูดคุยกันถึงการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันทำงานตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาว่าได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์พูดคุยแนวทางการทำงาน ถือว่าการได้รับประทานอาหารค่ำรวมกันเป็นสิ่งที่ดี ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น
นายวราวุธ กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้มีการเพิ่มเติมให้พรรคร่วมรัฐบาลทำเรื่องใดเป็นพิเศษ ซึ่งนายกฯน่ารักมาก โดยได้รับฟังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เนื่องจากนายกฯมีประสบการณ์ทางด้านทำธุรกิจ ดังนั้น นายกฯจึงมาฟังผู้หลักผู้ใหญ่ทางการเมืองเช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยรับฟังความคิดเห็นทางการเมืองและแลกเปลี่ยนกัน ทำให้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมกันมากขึ้น
เมื่อถามว่า จะมีการนัดรับประทานข้าวกันอีกหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกัน อาจจะมีการเวียนกันเป็นเจ้าภาพ โดยหากเรียงตามขนาดพรรค ต่อไปก็เป็นของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งอาจจะหารือและเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ แต่จะบ่อยแค่ไหนต้องนัดกันอีกครั้ง
"นายกฯดูแฮปปี้ในการทำงาน และเหมือนที่ตัวเองเคยพูดว่านายกฯ ทำการบ้านมาดี มีทีมอยู่เบื้องหลังที่ดีรวมถึงนายกฯ ก็มีองค์ความรู้เยอะ ถือว่าเป็นการเตรียมตัวมาดี และให้เกียรติกับทุกพรรค ทั้งนี้ในที่ประชุมยังไม่ได้พูดถึงโปรเจกต์ใหญ่ของรัฐบาลที่จะทำร่วมกัน" นายวราวุธ กล่าว
ด้าน นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของรัฐบาลหลังเข้ามาบริหารประเทศ 2 เดือน ว่า 2 เดือนในการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ สิ่งที่น่าผิดหวังคือไม่สามารถแก้ปัญหาปากท้องเศรษฐกิจของประเทศได้ ประชาชนยังอยู่ในยุคที่ข้าวของมีราคาแพง อีกทั้งปัญหาการพนันออนไลน์ ทุกวันนี้ก็ยังมีข่าวปัญหาอาชญากรรมทางสังคมที่เกิดขึ้นจากการพนันออนไลน์มากมาย และสุดท้ายการแก้ไขปัญหายาเสพติดก็ล้มเหลว
ส่วนการปรับลดราคาพลังงาน ก็เหมือนเป็นการปรับลดแบบไฟไหม้ฟาง ระยะสั้น แก้ปัญหาไม่ตรงจุด และการทำงานของนายกฯ 2 เดือนที่ผ่านมา ก็เปรียบเสมือนนายกฯเป็นหัวหน้าทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่วนใหญ่จะท่องเที่ยวในต่างประเทศมากกว่า และดูว่าการเดินทางต่างๆก็ไม่มีเป้าหมาย
นายชัยชนะ กล่าวอีกว่า มีรัฐมนตรีแค่ 3 คน ที่สอบผ่านคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ที่ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องของสังคมหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเปิดผับถึงตี 4 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย วางแผนแก้ไขปัญหาเรื่องผู้มีอิทธิพลอย่างมีระบบ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่แก้ไขปัญหาที่ดินทำกินให้กับประชาชนและดูแลพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ นี่เป็นสิ่งที่รัฐบาลเศรษฐาต้องกลับไปทบทวน เพราะรัฐมนตรีใน ครม. 35 คน สอบผ่านแค่ 3 คน ที่เหลือยังไม่มีผลงานประดับชัดเจน
"ต้องบอกว่าการเป็นนายกฯ ไม่ใช่การเดินแบบแฟชั่นโชว์หรือเป็นไกด์ทัวร์ จุดสำคัญต้องมีวุฒิภาวะ ซึ่งนายกฯยังไม่มี โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่จูบมือ"อุ๊งอิ๊ง"อันนี้ถือว่าขาดภาวะความเป็นผู้นำ และผมขอให้คะแนนนายกฯ แค่ 3 คะแนน จากเต็ม 10 และ 3 คะแนนที่ให้คือ 1.นายกฯไหว้สวย 2.ไปเที่ยวทำให้คนรู้จักประเทศไทยมากขึ้น และ 3.คือนายกฯ แต่งตัวแฟชั่น"
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก องอาจ คล้ามไพบูลย์ ถึงการที่รัฐบาลเตรียมประกาศรายละเอียดของนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ ว่า นโยบายนี้มีทั้งคนเห็นด้วย คนที่ไม่เห็นด้วย มีการวิพากษ์วิจารณ์ มีข้อเสนอแนะมากมายหลายประเด็น แต่ก็เป็นสิทธิของรัฐบาลที่จะเดินหน้าทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ระหว่างการเลือกตั้ง โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ มีข้อเสนอแนะในช่วงที่ผ่านมามีอยู่ 4 เรื่องหลักๆ คือ 1.แหล่งที่มาของเงินที่จะมาใช้แจก 10,000 บาท จะมีที่มาจากแหล่งใด 2.การบริหารจัดการแจกเงินดิจิทัลด้วยวิธีการใด ใช้ระบบอะไร 3.คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคนจะได้รับเงินดิจิทัลหรือไม่ ใช้ได้ที่ไหนอย่างไรบ้าง 4.คุ้มค่าได้ผลตามเป้าหมายหรือไม่
รัฐบาลควรชี้แจงแสดงเหตุผลของประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ให้เกิดความกระจ่างชัด ขจัดข้อเคลือบแคลงสงสัยต่างๆ เพื่อให้การทำนโยบายนี้เป็นไปด้วยความราบรื่น เพื่อให้การจัดทำนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท บรรลุตามเป้าหมาย ขอฝากนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ไม่ควรดำเนินการใดๆ ใน 3 ไม่ ดังนี้คือ 1.ไม่ทุจริต เพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม 2.ไม่ทำผิดกฎหมาย เลี่ยงกฎหมาย หาช่องโหว่ของกฎหมาย เพียงเพื่อบรรลุเป้าหมายเฉพาะหน้า แต่อาจมีปัญหาตามมาภายหลังได้ 3.ไม่ทำลายหลักการและระบบที่ถูกต้องทางเศรษฐกิจ การเงินการคลัง การงบประมาณ
ถ้านายกฯ เศรษฐา สามารถบริหารจัดการให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ห่างไกลจาก 3 ไม่ ดังกล่าวแล้ว ก็เชื่อมั่นว่านโยบายนี้จะเดินหน้าเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่ถ้านายกฯ ปล่อยให้มีการทุจริต ทำผิดกฎหมาย ทำลายหลักการและระบบที่ถูกต้อง นายกฯ ก็ต้องรับผลของการกระทำที่จะตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต่อไป