เมื่อเวลา 12.15 น.วันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานรับศพแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลอีกจำนวน 8 ราย พร้อมร่วมวางพวงหรีดแสดงความอาลัย

โดยมี นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลสิทธิประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล เป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และ นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ร่วมพิธี ณ บริเวณอาคารคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ 

  นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในวันนี้ท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ผมพร้อมด้วย ท่านรองปลัดกระทรวงแรงงาน และผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนของกระทรวงแรงงานในการมารับร่างแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลอีกจำนวน 8 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตได้ส่งร่างแรงงานไทยชุดที่สี่กลับมา ด้วยเที่ยวบินที่ LY081 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเวลา  12.15  น. พร้อมร่วมวางพวงหรีดของท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเพื่อแสดงความอาลัย  

        นายอารี กล่าวต่อว่า กระทรวงแรงงานได้ส่งเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด เข้าแจ้งสิทธิประโยชน์ครอบครัวของแรงงาน ทั้งในส่วนรัฐบาลไทยเรียบร้อยแล้ว และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานที่อยู่ในจังหวัดภูมิลำเนาของแรงงานไทยได้ประสานครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่ออำนวยความสะดวกร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อรับร่างแรงงานทุกรายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาที่ภูมิลำเนาใน 6 จังหวัด ได้แก่ นครพนม เชียงราย อุดรธานี น่าน บึงกาฬ และ ลำปาง แล้วเช่นกัน 

        โดยหลังจากร่างผู้เสียชีวิตไปถึงภูมิลำเนา กระทรวงแรงงานจะนำเงินช่วยเหลือไปมอบให้กับทายาทของแรงงานไทยที่เสียชีวิต จำนวน 40,000 บาท  ซึ่งเป็นเงินสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีเสียชีวิตในต่างประเทศ นอกจากนี้ มีสิทธิได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายประกันสังคมอิสราเอล (National Insurance Institute) ซึ่งในกรณีที่เสียชีวิตนี้ บิดา มารดา ภรรยาตามกฎหมายและบุตรของผู้เสียชีวิตทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือทุกเดือนจนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ หรือลูกมีอายุครบ 18 ปี นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม โดยครอบครัวของแรงงานไทยซึ่งเป็นผู้ประกันตนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลจะได้รับเงินเยียวยาจากสำนักงานประกันสังคมตามมาตราที่แรงงานเป็นสมาชิก 

        

 “ผมขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อญาติพี่น้องและครอบครัวของพี่น้องแรงงานไทยทั้ง 8 ราย ในนามของท่านพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ขอให้คำมั่นกับญาติของพี่น้องแรงงานไทยว่าเราจะดูแลสิทธิประโยชน์ของทุกท่านให้ได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด” นายอารี กล่าวท้ายสุด 

        สำหรับแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลทั้งหมด 34 ราย ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตยืนยันจากทางการอิสราเอลนั้น ขณะนี้สถานทูตฯ ได้ส่งร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดมาครบแล้ว  

       

 โดย 8 รายล่าสุด มีรายชื่อ ดังนี้ 1.นายเศรษฐา โฮมสร จ.นครพนม / 2.นายดัว แซ่ย่าง จ.เชียงราย / 3.นายไกรสร อรัญถิตย์ จ.อุดรธานี / 4.นายเกียรติศักดิ์ พาที จ.อุดรธานี / 5.นายธวัชชัย แซ่ท้าว จ.น่าน / 6.นายศรายุทธ  ปั้นกิจวานิชเจริญ จ.น่าน / 7.นายไกรสร ทุมโยมา จ.บึงกาฬ /  และ 8.นายปพนธนัย โป่งเครือ จ.ลำปาง