สนามรบเล่าก์ก่ายเดือด “คนไทย” เหยื่อจีนเทาผวาเสียงระเบิดประชิดที่พักในค่ายทหารพม่า วอนรัฐบาลอพยพด่วน 24 ชั่วโมง จี้ กต.รับผิดชอบหากมีคนเสียชีวิต อธิบดีกรมการกงสุลยันปลอดภัยแน่ แถมข้าวปลาอาหารพอเพียง-ข้อมูลสวนทางกับปากคำเหยื่อ

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีที่คนไทยไม่น้อยกว่า 200 คนถูกหลอกไปทำงานต้มตุ๋นออนไลน์ในเมืองเล่าก์ก่าย เขตปกครองพิเศษโกก้าง ภาคเหนือของรัฐฉาน ประเทศพม่าติดกับชายแดนจีน และต้องเผชิญกับสถานการณ์การสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างกองทัพพม่าและทหารของ 3 กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ซึ่งเรียกตัวเองว่า The Brotherhood Alliance ประกอบด้วย กองทัพโกก้าง (Myanmar National Democratic Alliance Army-MNDAA) กองทัพตะอางหรือปะหล่อง (Ta’ang National Liberation Army-TNLA) และกองทัพอาระกัน (Arakan Army-AA)

ทั้งนี้เมื่อเวลา 17.15 น.ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สัมภาษณ์คนไทย 2-3 คนที่ตกเป็นเหยื่อของแก๊งจีนเทาและได้รับความช่วยเหลือมาพักไว้ในค่ายทหารพม่าในเมืองเลาก์ก่าย โดยเหยื่อกลุ่มนี้เล่าว่าตลอดทั้งคืนวันที่ 8 มีการสู้รบอยู่ตลอดเวลาและมีเสียงระเบิดใกล้ค่ายทหารขึ้นทุกที และในช่วงเช้าจนถึงเย็นก็ยังมีเสียงระเบิดต่อเนื่อง ทำให้คนไทยที่หลบภัยอยู่ในค่ายทหารพม่าต่างรู้สึกกังวลใจ

“ทราบมาว่าคนไทยอีกกลุ่มหนึ่งที่ถูกจีนเทากักตัวไว้ในตึกพิกัด 9 กำลังวุ่นวาย เพราะคนจีนที่เป็นเจ้าของกิจการได้ขนเงินหนีไปแล้ว แต่ยังมีทหารคุมอยู่ด้านล่างไม่ยอมให้คนไทยหนีออกมา แต่ในบางจุดก็สามารถกรูกันออกมาได้ โดยมี 40 คนที่หนีกระจัดกระจายกันไป แต่สามารถรวมตัวกันได้ 17 คนซึ่งกำลังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ที่คาดว่าจะปลอดภัย ขณะที่วันนี้ได้มีรถมาขนคนจีนออกไปจำนวนมาก ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในค่ายทหารต่างรู้สึกไม่สบายใจเพราะมีระเบิดลงทั้งวัน บางครั้งลงห่างจากค่ายไม่ถึง 500 เมตร”เหยื่อจีนเทารายนี้กล่าว

พวกเขายังให้ข้อมูลด้วยว่า การอาศัยอยู่ในค่ายทหาร ไม่ได้มีข้าวปลาอาการสมบูรณ์เหมือนที่กระทรวงการต่างประเทศอ้าง โดยพวกตนมีอยู่ 164 คน แต่กลับได้รับข้าวกล่องเพียงวันละ 100 กล่องต้นๆ ทำให้ไม่เพียงพอ บางคนจึงต้องอดข้าว และได้รับเพียง 1 มื้อ เมื่อฝากทหารพม่าไปซื้อข้าวของบางทีก็ไม่ได้รับ แต่เขาไม่คืนเงินให้ บางทีปลากระป๋องหรือนมก็หมดอายุ แม้แต่ผ้าห่มในยามค่ำคืนก็ไม่พอทั้งๆที่อากาศหนาวมาก

“สถานการณ์ตอนนี้ตกอยู่ในภาวะสงคราม ลูกระเบิดลงใกล้ค่าย บางทีเราต้องวิ่งหลบหนีลูกปืน ตอนกลางคืนบางคนไม่กล้าไปเข้าห้องน้ำต้องฉี่ใส่ขวด เขาไม่มีแผนการซ้อมหนีภัย ทหารพม่าก็ทำตัวปกติเหมือนเดิม เราต้องวิ่งหลบไปในบังเกอร์ซึ่งมีแค่ 2 จุด ล่าสุดเขาขุดหลุมเอาระเบิดไปฝังติดกับห้องพักของพวกเราซึ่งอันตรายมาก เขาไม่มีการแจ้งบอก เราต้องดูแลตัวเอง เขาห้ามเราออกจากค่ายไปซื้อของ”เหยื่ออีกรายหนึ่ง กล่าว และว่า เมื่อวานมีคนป่วยจนหมดสติจึงมีการนำไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้ค่ายทหาร ขณะเดียวกันมีผู้หญิงท้อง 7 เดือนและมีอาการเจ็บท้องน้อย แต่ทหารก็ไม่ช่วยอะไร

“ที่บอกว่าอาหารการกินที่นี่สมบูรณ์ พวกเรามีภาพประกอบยืนยัน ในข้าวกล่องก็มีแต่ผัก ไม่มีเนื้อหมูเลย บางวันก็ข้าวบูด บางวันไม่ได้กินข้าว โรงครัวเขาก็ไม่ให้เราทำอาหาร”เหยื่อ 2-3 คนย้ำ

พวกเขาบอกว่า ความต้องการด่วนคืออยากให้อพยพพวกตนภายใน 24 ชั่วโมงเพราะขณะนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายมากๆ บางครั้งทหารยิงเข้ามาเฉียดจนดินกระเด็นโดนหลังคาพัก ทำให้บางคนต้องแอบใต้เตียง บางคนวิ่งไปหลบในห้องส้วม จึงอยากให้ช่วยเหลือเร่งด่วน

“ชีวิตพวกเราตอนนี้เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย ถ้าพวกเราเป็นอะไรไป ทางสถานทูตไทยต้องรับผิดชอบ เพราะพวกเราขอความช่วยเหลือและให้ข้อมูลไปนานแล้ว แต่ก็ไม่เห็นท่านทำอะไร คลิปวีดีโอต่างๆ เราก็ส่งไปให้ เราไม่ได้ตั้งใจจะมาที่นี่แต่เราถูกหลอก อยากให้เห็นใจเราด้วย ไม่ใช่เห็นเราเป็นคนอื่น เราอยากให้เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศไทยติดต่อมา แต่เขาไม่แยแสหรือสนใจพวกเราเลย พวกเราเป็นเหยื่อ”ชาวไทยผู้โชคร้ายกล่าว

ช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นางกาญจนา ภัทรโชค  อธิบดีกรมสารนิเทศในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ และนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล แถลงข่าวถึงการช่วยเหลือคนไทยที่ถูกหลอกจากกลุ่มจีนเทาไปทำงานที่เมืองเล่าก์ก่าย โดยนายรุจกล่าวว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้รายงานจาก สถานเอกอัครราชทูตไทย(สอท.)ประจำย่างกุ้งว่าคนไทย 162 คนรับการช่วยเหลือจากทหารและตำรวจเมียนมาและจัดที่พักพิงไว้ในค่ายทหาร โดยช่วยจากอาคารในเมืองเล่าก์ก่าย ซึ่งตนและพล.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ได้หารือกันและเดินทางไปที่กรุงย่างกุ้ง โดยทางการเมียนมาบอกว่าได้ให้การช่วยเหลือและพาไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันเมียนมายอมรับว่ารอบเมืองเล่าก์ก่ายมีการต่อสู้กันอยู่โดย 3 กลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์โจมตีทหารพม่า และยังมีการสู้รบถึงปัจจุบัน โดยทางการเมียนม่าได้เสริมทหารและเครื่องบินเข้าไปพอสมควร

นายรุจกล่าว่า เมืองเล่าก์ก่ายเป็นเมืองเศรษฐกิจอยู่ห่างจากชายแดนจีน 5 กิโลเมตรซึ่งเป็นประตูการค้าจีน ควบคู่กับสถานบันเทิง แสกมเมอร์ต่างๆ โดยมีชาวต่างชาติถูกชักจูงให้มาทำงานบริเวณนี้เยอะ โดยทหารพม่าได้ช่วยเหลือคนไทย 162 คนและเพิ่มอีก 2 คน โดยตำรวจพม่าได้รับความร่วมมือจากทหารโกก้างอีกกลุ่มหนึ่งที่ดูแลเมืองเล่าก์ก่าย โดยเมืองเล่าก์ก่ายถูกล้อมด้วยการสู้รบ ทางการพม่าจึงต้องพิจารณาว่าจะพาคนไทยออกมาอย่างไร เขาต้องพาเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปเพื่อจำแนก โดยคนไทย 164 คนส่วนใหญ่ไม่มีหนังสือเดินทางเพราะถูกยึดไว้ ดังนั้นเราต้องออกเอกสารให้คนไทยเหล่านี้ และเส้นทางการพาออกมาต้องขึ้นอยู่กับทหารพม่า ถ้าเข้าไปจีนก็ต้องขอวีซ่าและมีเรื่องของยานพาหนะที่จะขนคนไทยเหล่านี้ด้วย

“นอกจากทำงานกับทางการเมียนมา จีน เรายังได้ทำงานร่วมกับเอ็นจีโอ เช่น มูลนิธิปวีณา มูลนิธิเอ็มมานูเอล ผมมีโอกาสคุยกับคุณอุ้ยซึ่งเป็นตัวแทนคนไทยในค่าย ได้ถามทุกข์สุขว่าทุกคนปลอดภัยดีมั้ย เขาบอกว่าปลอดภัยดี ยังได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเขาก็ดีใจ เขาไม่มีอะไรทำก็หาเกมเล่น ส่วนเรื่องอาหารการกินก็มีครบ ทางเมียนมาจัดข้าวกล่องให้ตลอด จึงไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน คุณอุ้ยยังเล่าว่าได้ซื้อหมูมา 1 ตัวให้ทหารพม่านำมาปิ้งย่างกันและแบ่งให้ทหารพม่าและคนไทยในนั้นด้วย ทุกคนมีขวัญและกำลังใจดี  ผมให้กำลังใจบอกเขาว่ารัฐบาลกำลังหารือเพื่ออพยพคนไทยกลุ่มนี้ออกมา เราต้องดูสถานการณ์ในแต่ละวัน นอกจากนี้ทางกรมการกงสุลได้เปิดหมายเลขด่วน 3 หมายเลข 06-40198530, 06-40198907 และ 09-96164786 เพื่อเป็นช่องทางให้ญาติตรวจสอบรายชื่อได้” นายรุจกล่าว