วันที่ 9 พ.ย.ที่ บช.ภ.2 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็น ทว้ม ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2, พล.ต.ต.ดร.จักษ์จิตตธรรม ผบก.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.อ.เผ่า ภากรรามนุช รองผบก.ภ.จว.นครนายก, พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รองผบก.ภ.จว.นครนายก แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จํานวน 11 ราย เครือข่ายยาเสพติด นายสุทิน หรือนิ่ม โดยจับกุม 1. นายกิตติศักดิ์ หรือ กบ 2.นายสุริยันต์ หรือพอส 3.น.ส.สุธณี หรือจิน4. นายสมพงษ์ หรือพงษ์ 5.น.ส.โสภิตา หรือดาว 6.นายสมชาย หรือเก่ง 7. น.ส.วันสนนัท์หรือหลง 8.นายวชัราวฒุิ หรือโก้ 9.น.ส.น้ำค้าง หรือน้ำ 10. นายกางทอง หรือชาย 11. นายวินัย หรือนัย ลำดับที่1ถึง 5 จับกมุ ตามหมายจับข้อหา “สมคบฯสนับสนุนยาเสพติด” ลำดับ ที่6ถึง 9 อายัดตัวอยู่ในเรือนจำข้อหา “สมคบฯสนับสนุนยาเสพติด” ลำดับ ที่10 และ11จับกุม ในข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาบ้า ” พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 81,400 เม็ด 2. รถยนต์ จำนวน  4 คัน 3. รถจักรยานยนต์จำนวน คัน1คัน บ้านพร้อมที่ดินที่ได้มาจากการจำหน่ายยาเสพติดจาำนวน 2 หลัง รวมมูลค่าทรัพยสินที่ตรวจยึด 6,920,000 บาทโดยจับกลุ่มผู้ต้องหาได้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดสระบุรี

พล.ต.ท.สมประสงค์ กล่าวว่าตามนโยบายของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่มุ่งเน้นปราบปรามยาเสพติดและเร่งรัด ขั้นตอนยึดทรัพยจ์ดัการขบวนการคา้ยาเสพติดโดยเร็ว และแนวทางการบริหารราชการของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เน้นแก้ไขปัญหายาเสพติดในทุกมิติอย่างเป็นระบบ โดยมุ่งเน้นปราบปรามผูผ้ลิตและผู้ค้ายาเสพติดโดยใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด พร้อมท้้งเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดก้น การลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนโดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน  

พล.ต.ต.ธีระชัย  กล่าวถึงพฤติการณ์ในการจับกุม ว่าเมื่อวันที่24 ส.ค. 66 เวลาประมาณ 20.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ระยอง จับกุมนายสมชายหรือเก่ง กับพวกรวม 4 คน พร้อมยาบ้า รวม 758,400 เม็ด ส่งดําเนินคดีสภ.บ้านบึง, สภ.บ่อวิน และสภ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรีเนื่องจากเป็นความผิดหลายพื้นที่ จากการสืบสวนขยายผลทราบว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดของนายสุทิน หรือนิ่ม นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดชลบุรีซึ่งมีหมายจับคดียาเสพติดและหลบหนีไปประเทศเมียนมาร์และได้ลำ เลียงยาเสพติดจำนวนหลายล้านเม็ดมาเก็บไว้ใพื้นที่จังหวัด สระบุรี ก่อนที่จะให้ทีมผู้ต้องหาที่ถูกจับลำ เลียงยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่ภาคตะวันออกจนถูกจับกุม ต่อมาเนื่องจากเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ผบช.ภ.2 ไดส้่งการให้ขยายผลจับกุมเครือข่ายพร้อมใช้มาตราการยึดทรัพย์สินผู้กระทำความผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องท้้งหมด ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดของ นายสุทิน กับพวกรวม 10 ราย ในความผิดฐานสมคบยาเสพติดฯและสมคบฟอกเงินฯและจากการสืบสวนยังทราบว่า มียาบ้าบางส่วนถูกเก็บไว้กับบุคคลในเครือข่ายเพื่อรอจาํหน่าย


ต่อมาวัน ที่8 พ.ย. 66 เวลา 06.00 น. ตำรวจภูธรภาค2ได้เปิดยทุธการ ปิดล้อมตรวจค้นทลายเครือข่ายยาเสพติดของ นายสุทิน กับพวกโดยขอหมายค้นจากศาลจังหวัดชลบุรีจำนวน 3จุด และขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสระบุรีจำนวน 3 จุดเข้าทำการตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้จำนวน 5 รายและผู้ตู้องหาที่เก็บยาไว้รอจำหน่ายจำนวน 2ราย รวม 7รายอีกท้้งได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมก่อนหน้าซึ่งอยู่ในเรือนจำ จำนวน 4 ราย รวมเป็นจาํนวน 11 ราย ปรากฎตามรายชื่อข้างต้น และตรวจยึดทรัพย์สินซึ่งเชื่อว่าได้มาจากการค้ายาเสพติดรวมมูลค่า 6.92 ล้านบาท อายัดบัญชีธนาคารบุคคลที่เกี่ยวของจำนวน 10 บัญชีมีเงินหมุนเวียนในบัญชี 23ล้านบาทเศษ 
ในส่วนของ นายสุทินหรือนิ่มฯ หัวหน้าเครือข่ายดังกล่าวอยู่ระหว่างหลบหนีจะได้ดำเนินการติดตาม จับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกราย  พ.ต.อ.สง่า ทางธรรม ผกก.สภ.เมืองนครนายก ,พ.ต.ท.กิตตินันท์ศรีม่วงรองผกก.ป.สภ.เมืองนครนายก ,พ.ต.ต.วรีศกัด์ิบาลโสง สวป.สภ.เมืองนครนายกจับกุมนายพงษปกรณ์ ,นายหิรัญ และ น.ส.มณีรัตน์ ในข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำ เพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยไม่ได้รับอนุญาตพร้อมด้วยของกลางยาเสพติดใหโ้ทษประเภทที่1 (ยาไอซ์) จำนวน 42กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่กระโปรงหลังรถและในยางอะไหล่รถโดยจับกุมได้ที่บริเวณแยกสามสาว ม.1 ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก 
พฤติการณ์ในการจับกุมเมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 เวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.เมืองนครนายก  ต้้งจุดตรวจจุดสกัดตามสั่งการของผู้บังคับัญชา ที่บริเวณแยกสามสาว ม.1 ต.ท่าช้าง อ.เมืองจ.นครนายก พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าหมายเลขทะเบียน กล7500 ลพบุรีขับเข้าจุดตรวจจุดสกัด พฤติการณ์มีพิรุธต้องสงสัยว่าจะมีสิ่ง
ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้น พบนายพงษ์ ปกรณ์ฯ(ผู้ขับขี่) นายหิรัญและน.ส.มณีรัตน์ตรวจค้นรถพบยาเสพติดใหโ้ทษประเภทที่1 (ยาไอซ์) จาํนวน 42กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่กระโปรงหลังรถและในยางอะไหล่รถ จึงแจ้งขอ้กล่าวหาดำ เนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามนายหิรัญฯ รับว่า ตนเองได้รับว่าจ้างจากนายบอส ให้นำยาเสพติดของกลางไปส่ง ในราคา 50,000 บาท โดยนายบอสให้ตนเองนำรถยนต์เก๋ง ไปจอดทิ้งไว้รอเพื่อรับยาเสพติดบริเวณ ซอย 7 ต.โคกตูม อ. เมือง จ.ลพบุรี แล้วจะมีนายโต โต้ นำรถยนต์ของตนเองไปใส่ยาเสพติดแล้วจะนำรถมาคืนไว้จุดเดิม และแจ้งให้ ตนเองกลับไปรับรถยนต์ตามจุดเดิม ต่อมาตนเองได้เดินทางไปรับแล้วได้เดินทางกลับบ้านไปรับนายพงษ์ ปกรณ์ฯ และ น.ส.มณีรัตน์  ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรีและได้ออกเดินทางเพื่อจะไปส่งยาเสพติดที่ทับช้างรีสอร์ท ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรีเพื่อรอบุคคลมารับยาเสพติดต่อไป แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน ซึ่งในคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนหาตัวผู้บงการและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป