เมื่อปี 2563 "แอน จักรพงษ์" หรือ "จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์" ผู้ก่อตั้งธุรกิจสื่อช่อง "JKN " และยังถือครองธุรกิจองค์กร "นางงามจักรวาล" หรือ Miss Universe Organization (MUO) ได้ถูก "นิตยสารฟอร์บส์" ของประเทศสหรัฐอเมริกา จัดอันดับให้เป็นสตรีข้ามเพศที่รวยที่สุดระดับเอเชีย
หลังจากนั้นเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น "บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ JKN ทำหนังสือชี้แจงถึงผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นกู้ สถาบันทางการเงิน คู่ค้า เจ้าหนี้ และผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน ว่า บริษัทขอเรียนให้ทุกท่านทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติให้บริษัทยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ และเสนอผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดย เมื่อวันที่ 9 พ.ย.66 ทาง "บริษัท เจเคเอ็นฯ" ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า คณะกรรมการบริษัทมีมติ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.66 ให้ยื่นคำร้องขอทำแผนฟื้นฟูกิจการ เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพคล่องของบริษัท และได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 ที่ผ่านมา
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ปัจจุบัน JKN และบริษัทย่อย มี 5 ธุรกิจในมือ ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศ 2.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ 3.ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า 4.ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และ5.ธุรกิจการบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล Miss Universe
ทั้งนี้ ผลประกอบการเฉพาะของ “JKN” ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 2/2566 ก็พบว่ามีกำไรทุกปี โดยปี 2562 มีกำไรสุทธิ 252 ล้านบาท, ปี 2563 มีกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท, ปี 2564 มีกำไรสุทธิ 179 ล้านบาท, ปี 2565 มีกำไรสุทธิ 608 ล้านบาท และไตรมาส 2 ปี 2566 มีกำไรสุทธิ 121 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน JKN และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจอยู่ทั้งหมด 5 ประเภท คือ 1.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ในประเทศ 2.ธุรกิจให้บริการและจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ 3.ธุรกิจให้บริการเวลาเพื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์สินค้า 4.ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ และ 5.ธุรกิจการบริหารจัดการลิขสิทธิ์นางงามจักรวาล มีรายได้ต่อปีประมาณ 1-2 พันล้านบาท
นอกจากนี้ JKN ยังมีมูลค่ากิจการ หรือมาร์เก็ตแคปของหุ้น JKN ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นไทย อยู่ในระดับ 2-5 พันล้านบาท โดยตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 2/2566 พบว่า ปี 2562 มีมาร์เก็ตแคป 2,889 ล้านบาท, ปี 2563 มีมาร์เก็ตแคป 4,677 ล้านบาท, ปี 2564 มีมาร์เก็ตแคป 4,920 ล้านบาท, ปี 2565 มีมาร์เก็ตแคป 2,960 ล้านบาท, ไตรมาส 2 ปี 2566 มีมาร์เก็ตแคป 1,753 ล้านบาท
ในขณะที่ข้อมูลจนถึงสิ้นเดือน มิ.ย. 2566 พบว่ามีสินทรัพย์รวมกว่า 12,161 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,433 ล้านบาท หรือ +13.36% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY) แยกหลัก ๆ ออกเป็น เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 112.50 ล้านบาท ลดลง 67.63%, ลูกหนี้การค้าและลูกหนี้อื่น 2,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.40%, ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 451 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.12%, ลิขสิทธิ์รายการ 6,371 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.60%, เครื่องหมายการค้า 1,334 ล้านบาท ลดลง 0.10%
ทั้งนี้ หากสังเกตเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดที่เหลือ 112.50 ล้านบาท ปรับตัวลดลงกว่า 235 ล้านบาท หรือลดลง 67.63% YOY นั้น ตามข้อมูลที่ JKN รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯคือ กระแสเงินสดสุทธิใช้ไปในกิจกรรมลงทุน จำนวน -1,589.18 ล้านบาท เพื่อซื้อลิขสิทธิ์รายการ และหากย้อนกลับไปดูในช่วงปี 2562-2565 จะพบว่าใช้เงินสดในกิจกรรมลงทุนค่อนข้างสูงมากเมื่อเทียบกับกำไรที่ได้ในแต่ละปี โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ปี 2562 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -974 ล้านบาท, ปี 2563 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -2,020 ล้านบาท, ปี 2564 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -2,259 ล้านบาท และปี 2565 กระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมลงทุน -2,847 ล้านบาท
ขณะที่เมื่อเดือน ก.ย.66 ที่ผ่านมา JKN โดย ‘แอน จักรพงษ์’ ได้จับมือกับ "ท็อปนิวส์ ดิจิทัล มีเดีย จำกัด" หรือ TOP NEWS ในการร่วมผลิตรายการประเภทรายการข่าวสารและสาระระหว่าง JKNBL และ TOP NEWS เพื่อออกอากาศทางช่อง JKN18 ด้วย
#แอนจักรพงษ์ #JKN #เจเคเอ็น #ปรับโครงสร้างหนี้ #ศาลล้มละลายกลาง