เมื่อวันที่ 8 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ต.ศิธา ทิวารี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก น.ต.ศิธา ทิวารี - Sita Divari ระบุว่า...

#SoftPower คือการนำอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thainess)มาผสมผสานกับรูปแบบของสากลโลกนิยม (Global Mindset)เพื่อโปรโมทชื่อเสียงประเทศไทยให้โด่งดังไปไกลทั่วโลก

หนัง #สัปเหร่อไทบ้าน คือ 1ในตัวอย่างของหนังไทย ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในยุคนี้ (ลงทุน 10ล้าน ขายได้ร่วม 700ล้าน)

ผมเข้าใจในสิ่งที่ผู้กำกับหนัง #สัปเหร่อ เอ่ยถึงรัฐบาล ซึ่งมั่นใจว่าเขาไม่ได้มีเจตนาจะไปดิสเครดิต หรือจะไม่ผูกมิตรกับผู้ใหญ่ในรัฐบาล

แต่เขาต้องการให้รัฐบาลเข้าใจอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และผลักดันซอฟพาวเวอร์อย่างจริงจัง ถึงขั้นยอมถล่มตัวว่าไม่รู้จัก #ซอร์ฟพาวเวอร์ ทั้งๆที่ผลงานที่ ผกก.ต้องเต และทีมงานไทบ้านทำนั้น เป็น SP. ที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศไทย อย่างประเมินค่ามิได้

เช่นเดียวกับ สิ่งที่ลิซ่า, มิลลิ และศิลปินท่านอื่นผลักดัน รวมถึงหัตถกรรมพืื้นบ้าน, วิถีชีวิตแบบไทย, อาหาร, เครื่องดื่ม, สุราพื้นบ้าน, แหล่งท่องเที่ยว, สถานบันเทิง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็น Thainess ทำให้ทั้งโลกรู้จัก #Thailand และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาเที่ยวและอุดหนุนสินค้าของคนไทย

ช่วงเวลาเดียวกันนี้ ยังมีภาพยนตร์ Animation ของไทยอีก1เรื่องคือ Mantra Warrior ที่นำวรรณกรรมรามเกียรติ์ มาปรับให้เข้ากับยุคสมัย โดยลงทุนสร้างไปร่วม 200ล้าน แต่มียอดขายแค่ 10ล้าน± เท่านั้น

การผลักดันซอฟพาวเวอร์ ให้ได้ประโยชน์ต่อคนไทย นอกจากถ่ายรูปกับผู้ประสบความสำเร็จแล้ว รัฐบาลต้องช่วยเหลือ, ให้คำแนะนำ, สนับสนุนและเยียวยา ผู้ที่พยายามผลักดัน ซอฟพาวเวอร์ไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยที่วันนี้อาจจะยังไม่ใช่วันที่เขาประสบความสำเร็จก็ได้

ขอแสดงความยินดีกับอุตสาหกรรม#หนังไทย ที่ประสบความสำเร็จและขอให้กำลังใจ #ภาพยนตร์ไทยที่รอคอยการสนับสนุน จากภาครัฐอยู่ครับ