ธปท.เผยแบงก์พัฒนาระบบจับพฤติกรรมต้องสงสัยเป็นบัญชีม้า สกัดภัยการเงินทันใช้ปีนี้

ธปท.เผยแบงก์พัฒนาระบบจับพฤติกรรมต้องสงสัยเป็นบัญชีม้า สกัดภัยการเงินทันใช้ปีนี้

นายภิญโญ ตรีเพชราภรณ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายกำกับและตรวจสอบความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในสิ้นปี 2566 ธนาคารที่มีโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชันจะสามารถตรวจจับพฤติกรรมต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นบัญชีม้า โดยธนาคารกำลังพัฒนาระบบตรวจจับธุรกรรมเพื่อระงับยับยั้งภัยการเงิน และขณะนี้ได้เริ่มใช้ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลภัยการเงินที่เป็นไปตาม พ.ร.ก.แลกเปลี่ยนข้อมูลและระงับธุรกรรม หรือฟรอดรีจิสทรี้ ดำเนินการโดยบริษัท เนชันแนล ไอทีเอ็มเอ๊กซ์ จำกัด ภายใต้สมาคมธนาคารไทย

โดยเมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เริ่มใช้ระบบแอนตี้ ออนไลน์ สแกม โอเปอเรชัน เซ็นเตอร์(เอโอซี) ซึ่งจะเป็นระบบกลางในการติดต่อสื่อสารประสานงาน หากผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อสามารถโทรฯ ได้เบอร์ 1441 แก้ปัญหาโทรคอลเซ็นเตอร์ธนาคารติดต่อยาก โทรไม่ติด และศูนย์กลางเอโอซียังสามารถประสานและติดตามผลได้ด้วย เป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ ธนาคารและ ปปง. ซึ่งเป็นวันสต็อปเซอร์วิส

ขณะที่สถิติภัยการเงินหลังจากออก พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เมื่อเดือน มี.ค.66 มีการรับแจ้งความออนไลน์ลดลง 25% จากก่อนออก พ.ร.ก.มี 790 เรื่องต่อเดือน แต่เดือน ก.ย.66 เหลือ 580 เรื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการต่างๆที่ ธปท.ร่วมกับหน่วยงานรัฐออกมาป้องกันและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เช่น การกำหนดให้สแกนใบหน้าหากโอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง หรือเกิน 200,000 บาทต่อวัน และยังให้สามารถโทรหาธนาคารต้นทางเพื่ออายัดบัญชีธนาคารได้ทันที โดยยอดที่อายัดบัญชีได้มีสูงกว่าเดิมจากก่อน พ.ร.ก.ออก อายัดได้ 3.9% จากที่ผู้ร้องเรียนโทรเข้ามาให้อายัด แต่หลังจากออก พ.ร.ก.สามารถอายัดได้มากถึง 20.6%

ทั้งนี้เมื่อธนาคารหนึ่งได้อายัดบัญชีที่เรียกว่าบัญชีม้าไปแล้วจะส่งข้อมูลและเชื่อมโยงไปธนาคารอื่นๆให้อายัดทุกบัญชีทุกธนาคาร และหาก ปปง.ได้วิเคราะห์และมีข้อมูลบัญชีม้าจะส่งต่อแจ้งอายัดระงับบัญชีทุกธนาคารเช่นกัน และเรียกลูกค้าที่เปิดบัญชีม้ามาแสดงตัวยืนยันตัวตน ทำให้หากบุคคลที่เปิดบัญชีม้าจะไปเปิดบัญชีธนาคารใหม่ ทางธนาคารจะมีข้อมูลแสดงโชว์ว่าบุคคลนี้เคยเปิดบัญชีม้า ส่วนภัยแอปดูดเงิน เดือน ก.ย.66 มีผู้ถูกหลอกเสียหายลดลง 31% มูลค่าความเสียหายลดลง 53% จากเดือน ธ.ค.65 ผู้เสียหาย 1,828 ราย มูลค่าความเสียหาย 171 ล้านบาท แต่เดือน ก.ย.66 ผู้เสียหายเหลือ 1,353 ราย มูลค่าความเสียหาย 85 ล้านบาท

สำหรับรูปแบบภัยการเงินใหม่ตอนนี้ มิจฉาชีพโทรหาเหยื่อด้วยเบอร์คอลเซ็นเตอร์ธนาคาร จึงขอเตือนอย่าหลงเชื่อ วิธีสังเกตคือถ้าเป็นธนาคารจริงจะไม่ขอให้โอนเงิน หรือไม่ขอข้อมูลส่วนบุคคล หรือไม่ขอให้ทำธุรกรรมการเงินใดๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือเพื่อประสานงานให้ กสทช.หาวิธีแก้ไขปัญหาและรูปแบบของมิจฉาชีพนี้อยู่ ซึ่งปัจจุบันยังพบผู้เสียหายไม่มาก ปัจจุบันมาตรการป้องกันภัยการเงินบนโมบายแบงก์กิ้งแอปพลิเคชันตอนนี้คือ ให้เข้าใช้งานแอปธนาคารด้วย 1 อุปกรณ์ ใช้รหัสผ่าน ใช้การสแกนใบหน้าเข้ามา

โดยบัญชีม้าเป็นผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชี ปัจจุบันมักใช้วิธีเปิดบัญชีออนไลน์ เพราะเปิดง่ายเพียงแค่เคยเปิดบัญชีธนาคารไว้กับธนาคารหนึ่ง และได้เปิดเชื่อมข้อมูลการพิสูจน์และยืนยันตัวตน หรือดิจิทัลไอดีไว้แล้ว เมื่อเลือกเปิดบัญชีกับอีกธนาคาร สามารถขอข้อมูลเชื่อมยืนยันตัวตนได้ทันทีไม่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สาขาธนาคารอีก โดยปัจจุบันธนาคารมีความเข้มงวดในการเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ทำให้ระยะหลังจะเห็นว่าบัญชีม้าเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กเยอะมากขึ้น

#ธปท #บัญชีม้า #มิจฉาชีพ #แอปดูดเงิน #แบงก์ชาติ