โฆษกรัฐบาลชื่นชมผลงานการปราบปรามยาเสพติด ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และตำรวจ ร่วมมือปราบปรามผู้มีอิทธิพล-ยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยตามนโยบายรัฐบาล
วันนี้ (7 พ.ย.66) นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อวันที่ 6 พ.ย.66 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลจับกุมยาเสพติดรายสำคัญ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด ซึ่งตรวจยึดจับกุมได้บริเวณถนนเลียบลำน้ำปิง ใต้สะพานเฉลิมพระเกียรติ ถนนป่าตัน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมผู้ต้องหา 3 คนนั้น ถือเป็นการดำเนินการอย่างจริงจังและเข้มแข็งของทุกภาคส่วน ในการร่วมมือกันปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญอย่างมากในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เกิดผลในเชิงประจักษ์ชัดเจนและยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทย โดยเฉพาะผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการยึดทรัพย์เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพ เป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคมและพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน
ทั้งนี้ในส่วนของผู้เสพยาเสพติด ตัวเลขยืนยันเป็นทางการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า มีประมาณ 6 แสนกว่าคน โดยที่อันตรายที่สุดคือผู้เสพเป็นจิตเวช คือมีอาการจิตหลอน ไปทำร้าย ฆ่า ทำลายทรัพย์สิน มีประมาณ 3 หมื่นกว่าคน ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายนำคนกลุ่มนี้มารักษาโดยสาธารณสุข และตามสถานชุมชนต่าง ๆ ต้องมีสถานในการฟื้นฟูผู้เสพยา เพื่อให้กลุ่มคนกลุ่มนี้จะได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และกลับมาเป็นคนที่ดีในสังคม ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวทุกฝ่ายและทุกคนต้องร่วมด้วยช่วยกัน ชัยชนะอยู่ที่ชุมชน อยู่ที่หมู่บ้านต้องช่วยกัน ส่วนกรณีเรื่องการครอบครองยาเสพติดนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ย้ำว่าเม็ดเดียวก็เป็นผู้ค้ายาเสพติดได้ เพราะไม่ใช่เอาตัวยาเสพติดมาเป็นเกณฑ์ แต่ต้องเอาพฤติกรรมมาเป็นเกณฑ์ เช่น หากครอบครองต่ำกว่า 5 เม็ด แต่สืบพบว่าเป็นผู้ค้าก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานะผู้ค้าต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ได้ย้ำถึงศักยภาพประเทศไทยว่ามีความเข้มแข็งในการปราบปราม แม้ประเทศไทยไม่มีโรงงานผลิตยาบ้า แต่ที่สำคัญและเป็นปัญหาใหญ่คือยาเสพติดถูกผลิตในสามเหลี่ยมทองคำประเทศเพื่อนบ้าน โดยก่อนปี 2565 ยาเสพติดเข้ามาทางภาคเหนือ พื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5-6 ประมาณ 80% คือประมาณ พ.ศ.2546 ประเทศไทยสามารถจับกุมยาบ้าได้ 70 กว่าล้านเม็ด แต่ปัจจุบันจับกุมยาเสพติดยาบ้าได้ถึง 500 ล้านเม็ด ทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปสู่คนไทย โดยเมื่อก่อนพบว่ายาเสพติดจะทะลักมาทางภาค 5 (ทางภาคเหนือ) ซึ่งในปีที่แล้วเจ้าหน้าที่มีการสกัดกั้นอย่างดี ทำให้ขบวนการยาเสพติดจึงมีการเปลี่ยนเส้นทาง อ้อมไปทางภาคอีสานคือ 55% จะเข้ามาทางภาคเหนือ และอีก 45% จะมาทางภาคอีสาน ดังนั้นรัฐบาลปัจจุบันจึงมีนโยบายที่จะแก้ปัญหายาเสพติดให้ครบวงจร ให้มีผลภายในระยะเวลา 1 ปี โดยนายกรัฐมนตรีได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ประกาศในบางพื้นที่ให้มีระยะเวลาในการปราบปรามระยะเวลา 1 ปี โดยจะตั้งศูนย์บัญชาการสกัดกั้นป้องกันปราบปรามยาเสพติด รวมทั้งสารตั้งต้น สกัดทางภาคเหนือ ซึ่งจะมี จ.เชียงใหม่ และเชียงราย 11 อำเภอ และภาคอีสาน จ.นครพนม อีก 4 อำเภอ โดยเจ้าหน้าที่จะคุมเข้มให้มีประสิทธิภาพ เอกภาพ ทั้งด้านการข่าวและการร่วมมือกัน
#โฆษกรัฐบาล #ยุติธรรม #ผู้มีอิทธิพล #ยาเสพติด #สังคมไทย