สองครอบครัวหัวอกคนเป็นพ่อ  ครบ 1 เดือนที่ลูกชายถูกจับเป็นตัวประกัน สองครอบครัวสุดแสนทรมาน 1 เดือนเหมือนหนึ่งปีหรือมากกว่านี้ พูดทีไรน้ำตาจะไหล วอน"ฮามาส"ปล่อยตัวประกันคนไทย วันนี้นายกเศรษฐาแจ้งข่าวเห็นตัวประกันแล้วยังมีชีวิตอยู่ หัวอกคนเป็นพ่อวอนนายกฯขอให้ได้เห็นภาพลูกชายด้วยบ้าง ขณะญาติขอร้องมิจฉาชีพอย่าเลย  ญาติทุกข์ใจอยู่แล้วอย่าซ้ำเติมหลอกกันอีกเลย

วันนี้ (6 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  วันที่7พ.ย.2566จะครบ 1 เดือนกับการที่กลุ่มฮามาสจับตัวประกันคนไทย หลังบุกเข้าไปทางตอนใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา ทุกวันนี้ครอบครัวของแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันทั้งผุ้เป็นพ่อแม่และญาติๆ ความรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น รอวันจะได้ยินข่าวดีลูกชายจะถูกปล่อยตัวออกมา บางคนกินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักลด ไม่เป็นกะจิตกะใจในการทำงาน

 

เช่นเดียวกันกับนายพรชัย อ่างแก้ว อายุ 52 ปีพ่อของนายอนุชา อ่างแก้ว ชาวบ้านดอนพิลา ต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี แต่ละวันได้แต่นอนและนั่งเฝ้ารอข่าวลูกชายจากทางการว่าจะปล่อยตัวประกัน พร้อมกันนี้ได้โทรศัพท์ไปยังนายชุมพร จิระชาติ พ่อของนายมณี ชาวอ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ที่ถูกจับเป็นตัวประกันกลุ่มเดียวกัน ต่างคนต่างปรับทุกข์บอกกันว่า พ่อเอ๊ยเราหัวอกเดียวกัน ต่างคนต่างให้กำลังใจกัน อย่าคิดมาก

นายพรชัย เปิดเผยว่า " 1 เดือนเต็มที่ลูกชายคือนายอาร์ตถูกจับเป็นตัวประกัน บอกตรงๆ ทุกวันนี้พ่อกินไม่ได้นอนไม่หลับ น้ำหนักผมลดไป 3 กิโลกรัม แต่ละวันก็คิดถึงแต่ลูกชาย พูดกับนักข่าววันไหน น้ำตาจะไหลทุกที ผมห่วงลูกชายมาก ที่เขาไปทำงานก็เพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว และอยากสร้างฐานะ แต่มาเจอเหตุการณ์แบบนี้  1 เดือนเหมือน 1 ปีหรือมากว่านนี้ที่แสนจะทรมาน ลูกชายเขาไม่เคยเรื่องราวแบบนี้ ทำให้นอนไม่หลับ หลับตาไปก็คิดถึงแต่หน้าลูกชาย นึกถึงหน้าลูกตลอดว่าตอนนี้ลูกจะลำบากขนาดไหน ผมขอยกมือไหว้วอนฮามาสปล่อยตัวคนไทยทุกคนด้วยเถิดครับ ขอปล่อยตัวลูกชายมาพบหน้าพ่อหน้าแม่ ลูกชายและเพื่อนๆไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมเกิดมา 52 ปีไม่เคยคิดว่าช่วงเวลาที่รอคอยลูกทรมานมาก และที่ท่านนายกฯ ท่านบอกว่า ท่านเห็นภาพตัวประกันปลอดภัย พ่อก็ดีใจแต่จะเป็นไปได้ไหมท่านนายกฯ ส่งรูปตัวประกันมาให้พ่อแม่ได้ดูบ้าง อย่างน้อยก็ชื่นใจว่าลูกยังอยู่" พ่อพรชัยพูดไปก็น้ำตาไหลออกมา

นางใบ อ่างแก้ว อายุ 77 ปี ย่าของนายอนุชา บอกว่า "ถึงตอนนี้ย่าก็เป็นหลานชาย ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร คิถึงหลานชายจนขาอ่อนไม่มีกำลังใจเดิน ตอนนี้ก็มาอยู่เป็นเพื่อนลูกชายมานอนด้วยทุกคน ท่านนายกฯ บอกว่าเห็นหน้าตัวประกันแล้วปลอดภัย ย่าก็ดีใจ และอยากเห็นหน้าหลานชายด้วย หากอาร์ตเห็นย่าทางทีวี อยากจะบอกหลานว่า ย่าคิดถึงหลานมาก อยากเห็นหน้า ย่าจะไหว้หมดให้ปล่อยตัวออกมา มาหาย่านะลูก"

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่อ.พิบูลย์รักษ์ จ.อุดรธานี พบกับนายคำสี พาที พ่อของนายเกียรติศักดิ์ พาที หรือ ท็อป ตัวประกันที่ถูกจับอีกคน โดยพ่อคำสี ยังมีสีหน้าเศร้า กับเวลา 1 เดือนเต็มที่รอฟังข่าวลูกชาย พ่อคำสีบอกว่า" ทุกวันก็รอฟังข่าวลูกชาย หลับได้ไม่เต็มอิ่ม ผมอยากได้เห็นหน้าเขา อายุพ่อ 62 ปีแล้ว อยากให้เขามีชีวิตถูกปล่อยตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย ขอให้พ่อตายแทนก็ยังได้"

ส่วนป้ากัญญา พาที ป้าของท็อป บอกว่า "คิดถึงหลานชายมาก ตั้งแต่เกิดพ่อแม่เขาแยกทางกัน ก็มีป้าเป็นคนเลี้ยงหลานคนนี้เขาเป็นเด็กดี ตอนนี้เป็นห่วงมาก 1 เดือนที่แสนทรมานที่รู้ข่าวหลานถูกจับเป็นตัวประกัน อยากจะได้ยินข่าวดี ปล่อยตัวประกันหลานชายกลับบ้านบ้าง"

 

ส่วนนายแสวง พาที น้าของนายเกียรติศักดิ์ บอกว่า" เมื่อวานผมได้รับโทรศัพท์ บอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ฯหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายทางสถานทูตอิสราเอลแจ้งมาบอกว่า นายเกียรติศักดิ์ พาที เสียชีวิตแล้ว รอรับศพได้เลย ญาติทุกคนที่อยู่ต่างพากันตกใจร้องไห้กันหมด แต่ตนสงสัยว่า จะเป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตจริงหรือไม่ ต่อมาเขาก็บอกว่าจะให้เจ้าหน้าที่สถานฑูตโทรหา ไม่นานก็มีคนโทรมาแต่ไม่ใช่เบอร์จากประเทศอิสราเอล เหมือนเบอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุกคนก็คิดว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะหลังจากตนเองสอบถามข้อมูลกลับไป เขาก็อ้ำอึ้ง เหมือนไม่มีข้อมุลกับหลานชายเลย กลัวว่าเขาจะมาเรียกเอาค่าใช้จ่ายในการส่งศพกลับมา และเมื่อโทรกลับไปยังเบอร์ดังกล่าวกลับบอกว่าไม่เกี่ยวข้องอยู่เชียงราย อยากจะบอกว่าหากเป็นมิจฉาชีพอย่ามาทำแบบนี้ ครอบครัวก็ทุกข์ใจอยู่แล้ว อย่ามาซ้ำใจเพื่อหลอกเอาเงินเลย และญาติของตัวประกันที่จ.นครพนมก็เจอ อยากให้ทางหน่วยงานรัฐช่วยแจ้งข่าวสารให้ทางญาติๆ โดยตรง เพราะญาติๆ ยังทุกข์ใจอยู่แล้วไหนจะมาเจอมิจฉาชีพหลอกเอาเงินอีก ทำให้ทุกคนไม่สบายใจ"