นครพนม ตำรวจ สภ.ธาตุพนม แจ้งข้อหาหนัก เจตนาฆ่า หนุ่มวัย 41 ปี ติดยาบ้า คุ้มคลั่ง ทำร้ายชาวบ้าน ลุงอายุ 60 ปี ดวงซวย ถูกทำร้ายสุดเหี้ยม ใช้จอบ มีดดายหญ้า สับจนเสียชีวิต พบภาพจากวงจรปิดในจุดเกิดเหตุเป็นหลักฐานสำคัญ  ญาติร่ำให้สูญเสียเสาหลักครอบครัว เพราะทาสยาบ้า วอนรัฐบาลทบทวน ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด เชื่อ แค่เม็ดเดียวเสพแล้วฆ่าคนได้  ส่วนพ่อผู้ต้องหา ยอมรับเห็นใจครอบครัวผู้สูญเสีย เผยลูกชายเคยติดยา พยายามทำร้ายพ่อมาหลายครั้ง นำไปบำบัดหลายรอบ จนเอือมระอา ขอให้รับโทษทางกฎหมาย

           

เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ความคืบเหน้าเกิดเหตุ นายจิตวัต (สงวนนามสกุล)อายุ 41 ปี ชาวบ้านทรายมูล หมู่ 7 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เสพยาเสพติด พร้อมดื่มสุรา จนหลอนคุ้มคลั่ง ไม่พอใจทำร้ายเพื่อนบ้าน ก่อนที่จะนำ มีดดายหญ้า ด้ามยาว รวมถึงจอบขุดดิน ไปก่อเหตุทำร้าย นายทองสา น้องตุลัง อายุ 60 ปี ชาวบ้าน ในหมู่บ้านเดียวกัน จนเสียชีวิต บริเวณถนนกลางหมู่บ้าน ในพื้นที่ บ้านทรายมูล ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

 

ภายหลังเกิดเหตุมีพลเมืองดีพยายามช่วยชีวิต นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา โดยที่เกิดเหตุพบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด บันทึกหลักฐานไว้ชัดเจน ว่าผู้ต้องหามีเจตนาทำร้ายผู้ตายถึงชีวิต แจนกระทั่งทาง พ.ต.อ.ถวิล คำเกษ ผกก.สภ.ธาตุพนม มอบหมายให้ ทีมสืบสวนลงพื้นที่ จับกุม ผู้ต้องหา พร้อมรวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

  เบื้องต้นทางด้าน พ.ต.ท.ประเสริฐศักดิ์ นวลบัตร สารวัตรสอบสวน สภ.ธาตุพนม ได้สอบสวนเพิ่มเติม  นายจิตวัต (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ชาวบ้านทรายมูล หมู่ 7 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ผู้ต้องหา พร้อมตรวจสอบหายาเสพติด พบสารเสพติดยาบ้า ในปัสสาวะ ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ติดยาบ้ามานานหลายปี ล่าสุดเสพยาบ้า และดื่มสุรา จนเกิดความไม่พอใจผู้ตาย เนื่องจากเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน และผู้ตายชอบดุด่า ข่มขู่ขนฝังใจ จนกระทั่งฉวยโอกาสนำอาวุธมาทำร้ายร่างกาย ยอมรับตั้งใจทำร้ายเอาชีวิต ทั้งนี้ทางตำรวจมีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดชัดเจนเป็นหลักฐาน แจ้งข้อหาหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเสพยาเสพติด

  ขณะเดียวกัน ทางด้าน นางเตือนใจ (สงวนนามสกุล)อายุ 56 ปี ภรรยา และครอบครัว ของผู้เสียชีวิต คือ นายทองสา (สงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตั้งศพบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านพัก ในหมู่บ้านเดียวกันกับคนก่อเหตุ มีบรรดาชาวบ้าน ญาติพี่น้อง เดินทางมาให้กำลังใจไม่ขาดสาย โดยทางครอบครัวผู้ตาย มั่นใจ ผู้ตายเป็นคนร่าเริง ไม่เคยคิดร้ายกับใคร และเชื่อว่าไม่ได้มีปัญหาทะเลาะกับคนก่อเหตุมาก่อน ยอมรับว่ารู้จักกันในฐานะคนบ้านเดียวกัน แต่สาเหตุเชื่อว่า คนก่อเหตุเมายาบ้า คุ้มคลั่ง เพราะการดื่มสุรา จนก่อเหตุทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ผู้ตายกับโชคร้าย สูญเสียชีวิต ขอให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด ถึงแม้ไม่สามารถเลี้ยงร้องอะไรได้ ฝากถึงรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายปรามปรามยาเสพติดต้องดำเนินคดีจริงจัง เพราะหากรัฐบาลปล่อยให้มีการครอบครองยาบ้า ต่ำกว่า 10 เม็ด เป็นผู้ป่วย ปัญหาการแพร่ระบาด และทาสยาบ้าจะต้องก่อเหตุมากขึ้น อยากให้ความสูญเสียของครอบครัว เป็นบทเรียน ไม่อยากให้ผู้บริสุทธิ์ มาตายเพราะทาสยาบ้าอีก

 นอกจากนี้ในส่วนของ นายจักรพันธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี พ่อของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าลูกชายป่วยเสพยาเสพติด มานานกว่า 10 ปี และกลายเป็นผู้ป่วยจิตเวช เคยนำไปบำบัดรักษามาหลายครั้ง แต่สุดท้ายกลับมาเสพยาบ้าอีก จนเอือมระอา ไม่มีทางออก เคยคลุ้มคลั่งทำร้ายพ่อหลายครั้ง โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่เคยไปทำร้ายชาวบ้าน ในในครั้งนี้ไม่คิดว่าจะก่อเหตุทำร้ายชาวบ้าน ในหมู่บ้านเดียวกันจนตาย เชื่อว่าไม่มีเรื่องขัดแย้งส่วนตัว แต่มั่นใจเกิดจากสภาพจิตใจของลูกชายที่ มีอาการจากยาเสพติด ทำได้เพียงให้กำลังใจครอบครัวผู้สูญเสีย ส่วนเรื่องการดำเนินคดีขอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้ลูกชายรับกรรม ไม่ขอสู้คดี