"สุรินทร์ "จัดทอดยิ่งใหญ่ กฐินช้าง ‘หนึ่งในสุดยอด Sof Power ขนช้างแสนรู้กว่า 50 เชือกร่วมขบวน แห่  “อนุทิน”พร้อมดันการท่องเที่ยว กระตุ้น  ศก.ช่วยชาวช้างฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด- 19 


วันนี้( 4พ.ย. 66) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่ศูนย์คชศึกษา บ้าตากลาง หมู่บ้านช้าง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์  นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานพิธีกฐินช้าง ที่ศูนย์คชศึกษา และโครงการคชอาณาจักร อ.ท่าตูม จว.สุรินทร์ โดยมีน.ส. ผกามาศ เจริญพันธุ์ ส.ส. สุรินทร์ เขต 3 และนางกรรณิกา ผกามาศ อดีตส.ส.สุรินทร์ นายเสนีย์ จิตเกษม อดีต ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และอดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์  ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานครั้งนี้


โดยบรรยากาศภายในงานเป็นอย่างคึกคัก มีแขกผู้ร่วมงานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก  ก่อนเริ่มงานได้มีขบวนแห่กองกฐิน 9 ขบวน ทั้งคนและช้างกว่า 40 เชือก นำโดยนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และแขกผู้มีเกียรติ มาร่วมงาน ประกอบด้วยขบวนปีพาทย์พื้นบ้านบนหลังช้างงาม 5 เชือก ขบวนสถาบันหลักของชาติ

โดยพลายทองใบ พลายคำเมือง พลายโดมอน ขบวนนางรำสุรินทร์สามเผ่า ขบวนต้นบุญกฐินช้าง มีช้างงาม 50 เชือก พร้อมผู้ร่วมขบวน 100 คน ขบวนแห่กฐินโบราณพื้นเมืองสุรินทร์ ด้วยวงขยำรำมะนา ขบวนธงกฐินและวงดนตรีพื้นเมือง ขบวนเครื่องอัฐบริขารกฐิน ขบวนกฐินช้าง FC ของดี Sof Power สุรินทร์ เดินร่ายรำเข้าสู่บริเวณโดมจัดงาน ที่ประดับประดาด้วยธงผ้าไหม และรอบที่นั่งประดับประดาด้วยผลไม้ ประกอบองค์กฐินอย่างสวยงาม 


นายอนุทินกล่าวว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานในวันนี้เป็นวันทอดกฐินที่ยิ่งใหญ่มีช้างเข้าร่วมแห่ในขบวนจำนวนมาก  ซึ่งวัตถุวัตถุประสงค์หลักของงานเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จะทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวมากขึ้น มีคนไทยและคนกัมพูชาเห็นช้างแล้วรู้สึกดีใจ เพราะช้างเปรียบเหมือนสัญลักษณ์ของประเทศ เป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ เป็นนักสู้และมีความอ่อนโยน มีทุกมิติภายในช้าง ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับเรา 

 


นายอนุทินกล่าวว่า ตอนนี้พวกเราต้องเตรียมตัวเข้าสู่ปีใหม่ โดยปีนี้เรามีทั้งรัฐบาลใหม่ และโอกาสใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจชะงักไปเป็นเวลาหลายปี ทุกอย่างกำลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่เป็นปกติที่ไทยมีความพร้อมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว


ขออย่างเดียวให้ทุกคนเคารพกฎหมาย เช่นเรากำลังเปิดให้ขยายเวลาปิดสถานบันเทิง สถานการบริการ แต่เราไม่ได้ขยายเวลาให้ดื่มสุรามากขึ้น แต่เราสามารถอยู่ในร้านอาหารได้พูดคุยกันมากขึ้นเพื่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น รวมถึงสินค้าและบริการที่ไม่ใช่แอลกอฮออล์ก็จะขายได้มากขึ้น รวมถึงต้อนรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น ขออย่างเดียวอย่าให้มียาและมีการอนุญาตให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า20 ปีเข้าสถานบริการ รวมถึงพกอาวุธเข้าสถานบริการ หากปฏิบัติได้ตามนี้ทางรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยพร้อมจะส่งเสริมการประกอบสัมมาอาชีพอย่างเต็มที่ ”นายอนุทินกล่าว   


ด้าน น.ส. ผกามาศ  กล่าวว่า ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงานว่า กิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นได้ด้วยความสามัคคีของประชาชน รวมถึงกำลังขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการทุกกระทรวงในจังหวัดสุรินทร์ ตนคาดหวังว่าการจัดการกฐินช้างในครั้งนี้จะเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีทางพุทธศาสนา อันเป็นรากเหง้าของสังคม รวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในอนาคต ทั้งนี้นายอนุทินยังได้มอบรางวัลให้กับช้างที่ชนะการประกวดประเภทต่าง อาทิ การวาดภาพศิลปบนตัวช้าง การแต่งกายช้างด้วยผ้าไหม สุรินทร์ และการประกวดธิดาช้าง 


น.ส. ผกามาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้สุรินทร์เคยจัดกฐินช้างมาเมื่อปี 64 สืบเนื่องจากไทยต้องเผชิญกับสถานการณ์วิกฤติโควิด-19 และสร้างผลกระทบมากมายร่วมถึงชาวช้างจังหวัดสุรินทร์ ที่ประสบปัญหาตกงาน และกลับมาจากปางช้างทั่วประเทศ

จึงทำให้เกิดความคิดที่จะให้ความช่วยเหลือ ดังนั้นเพื่อให้ชุมชนคนเลี้ยงช้างมีอาชีพที่ยั่งยืน ไม่ต้องพาช้างไปเร่ร่อน ประกอบกับจังหวัดสุรินทร์นั้น มีอริยสงฆ์ที่เป็นที่เคารพบูชาของชาวไทยทั้งประเทศ เราจึงได้นิเริ่มจัดกฐินช้างขึ้น เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสายบุญ โดยมีความคาดหวังว่า งานกฐินช้างนี้จะสามารถต่อยอดเป็นกิจกรรมประจำปีของจังหวัดสุรินทร์ และของประเทศ โดยจะนำไปทอดยัง วัดที่ไม่มีเจ้าภาพทอดกฐิน ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 159 วัด ต่อไป