ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ พร้อมนายกเหล่ากาชาด  หัวหน้าส่วนราชการ  ร่วมพิธีฌาปนกิจศพหนุ่มแรงงานเหยื่อสงครามอิสราเอลที่เสียชีวิตถูกส่งกลับภูมิลำเนารายแรกของจังหวัด   ท่ามกลางความอาลัยของครอบครัวโดยเฉพาะแม่วัย 75 ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียลูกอันเป็นที่รัก   หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานพร้อมติดตามเงินช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิให้ครอบครัวผู้สูญเสีย 

  (4 พ.ย.66)  บรรยากาศที่วัดโพธิ์ย่อย  ตำบลบลบ้านยาง  อำเภอลำปลายมาศ   จังหวัดบุรีรัมย์  นายนฤชา    โฆษาศิวิไลซ์   ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์   พร้อมด้วยนางวาทิณี   โฆษาศิวิไลซ์    นายกเหล่ากาชาดจังหวัดบุรีรัมย์    หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน   นายอำเภอ    ผู้นำท้องถิ่น   กำนัน  ผู้ใหญ่บ้าน   ชาวบ้าน  และญาติพี่น้อง  ได้ร่วมพิธีฌาปนกิจศพ นายจรูญ   ชาติดำดี    อายุ 40 ปี  หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบระหว่างกลุ่มฮามาสกับกองกำลังอิสราเอล  ที่ถูกส่งกลับมาถึงบ้านเกิด  ต.บ้านยาง อ.ลำปลายมาศ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา   

  โดยบรรยากาศพิธีฌาปนกิจศพของนายจรูญ  เป็นไปด้วยความโศกเศร้าอาลัยของครอบครัว  โดยเฉพาะนางจันทร์    วิเศษสัตย์  อายุ 75 ปี  ผู้เป็นแม่ที่ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก  และเป็นเสาหลักที่คอยส่งเสียเลี้ยงดูผู้เป็นแม่   

  โดยนายจรูญ   ผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนสุดท้อง   จากลูกทั้งหมด 4 คน พี่สาว 3 คนแต่งงานมีครอบครัวบางคนไปอยู่ต่างจังหวัด  ส่วนนายจรูญ   เคยแต่งงานแต่หย่าร้างกับอดีตภรรยา  ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล เพื่อหวังหาเงินสร้างเนื้อสร้างตัวและเลี้ยงดูแม่ที่อยู่ในวัยชรา   แต่ไปทำงานได้แค่ 2 ปีกว่า  ก็เกิดเหตุสู้รบ แล้วขาดการติดต่อกับครอบครัวเมื่อวันที่ 7 ต.ค.66  ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สู้รบกันวันแรก   ก่อนจะมีรายชื่อว่าเป็นผู้เสียชีวิต   และถูกส่งกลับภูมิลำเนาเป็นรายแรกของจังหวัดบุรีรัมย์  

    ซึ่งวันนี้เบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์  ก็ได้เป็นตัวแทนมอบเงินฌาปนกิจหมู่บ้านให้กับนายจรูญ ผู้เสียชีวิต   ส่วนเงินช่วยเหลือเยียวยาจากทางภาครัฐ  ทางหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจะเป็นผู้ติดตามเรื่องให้   โดยนายจรูญ  เป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ  ก็จะได้รับเงินจากกองทุนฯ รวมถึงเงินกรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยก่อนครบสัญญาจ้างจากเหตุสงคราม        นอกจากนั้น ทางอิสราเอลยังมีสวัสดิการตามกฎหมาย กรณีเสียชีวิต  ผู้เป็นแม่  จะได้รับเงินทุกเดือน   ส่วนก็จะได้รับเงินเดือนทุกเดือนเช่นกัน จนกว่าภรรยาจะแต่งงานใหม่ และบุตรจะได้รับจนอายุครบ 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งจำนวนเงินเดือนที่จะได้รับก็ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน

​​​​​​​