วันนี้ (4 พ .ย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางลงพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง พร้อมด้วย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ,นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะลงพื้นที่แหลมฉบัง โดยมี นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย , นายสนธยา คุณปลื้ม ประธานที่ปรึกษาเมืองพัทยา และนางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง ให้การต้อนรับ
โดยนายกรัฐมนตรี เดินทางจากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ขบวนรถพิเศษ 995 กรุงเทพ -แหลมฉบัง ที่ชานชาลาที่ 5 มายังสถานีรถไฟแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อไปตรวจเยี่ยมท่าเรือแหลมฉบัง และพูดคุยประเด็นศักยภาพของพื้นที่สำหรับการรองรับสินค้าอุตสาหกรรมหนักในการนำเข้าและส่งออกของท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมมอบนโยบาย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ รัฐบาลกำลังเดินหน้าขับเคลื่อนการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก EEC โดยกำหนดเป้าหมายเร่งด่วนภายใน 99 วัน 8 ด้าน “ลงมือทำจริง” เพื่อดึงเงินลงทุนจากทั่วโลก ผ่านอุตสาหกรรมเป้าหมายใน 5 คลัสเตอร์หลัก คือ การแพทย์ ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) BCG บริการ ซึ่งได้ให้แนวนโยบาย ขอให้เร่งรัดการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ให้เป็นไปตามแผนการก่อสร้าง ตามระยะเวลา และเป้าหมาย หากติดปัญหาเรื่องใดขอให้รีบหารือกันระหว่าง กทท. และเอกชนผู้รับเหมา การก่อสร้างจะต้องคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป ทั้งด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนโดยรอบท่าเรือ มุ่งสู่การเป็นท่าเรือสีเขียว เน้นใช้พลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนและการต่อยอดพัฒนาสู่การใช้และผลิต Green Hydrogen ซึ่งจะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เป็น Green Port 100% แห่งแรกของประเทศไทย