วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.ต.วิชัย ขอพึ่งกลาง สวป.สน.บางโพงพาง และ ร.ต.ท.มานิตย์ ตรุษดี รอง สวป.สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ร้านทองแห่งหนึ่ง ปากซอยสาธุประดิษฐ์ 58 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพ จึงเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นห้างทองทองมงคล เลขที่ 622/3 พบประตูกระจกหน้าร้านแตกเสียหาย ภายในร้านพบกระจกที่ตู้โชว์แตก ตรวจสอบพบว่าคนร้ายเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นายสมบัติ อายุ 33 ปี ถืออาวุธคล้ายมีด สวมเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง นุ่งกางเกงยีนส์ขายาว สวมหมวกแก๊ป สะพายกระเป๋า หลังก่อเหตุวิ่งหลบหนีไปทางถนนพระรามสาม แต่ทางประชาชนและเจ้าของร้านช่วยกันล้อมจับคนร้ายไว้ได้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ด้านนายวัชรพล นาควัชระ หลานเจ้าของร้านทอง เปิดเผยว่า เห็นคนร้ายเดินไปมาอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามร้าน จากนั้นได้ไปนั่งอยู่ที่วินรถจักรยานยนต์ แต่ทางคนขี่รถ จยย. เห็นท่าทางมีพิรุท จึงได้ไล่ให้ออกไปจากวิน แต่คนร้ายชักมีดขึ้นมาขู่ จากนั้นก็ข้ามถนนมาที่ร้าน เพื่อทำทีนำทองมาขาย แต่ทางร้านรู้ว่าทองที่คนร้ายนำมาเป็นของปลอม จึงปฏิเสธไป จึงได้ขอให้คนร้ายออกจากร้าน เนื่องจากขณะนั้นสุนัขที่เลี้ยงไว้เริ่มเห่าเสียงดัง แต่คนร้ายยืนยันว่าจะไม่ออก พร้อมขอเงินอีก 20 บาท แต่ก็ไม่สะดวกที่จะให้เงินจำนวนดังกล่าว ก่อนที่คนร้ายโมโหหยิบอาวุธ เป็นเหล็กยาวสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 1 ฟุต ออกมา จากนั้นก็ใช้ด้ามกระแทกที่ตู้กระจกโชว์สินค้า และหยิบแหวนทอง 1 สลึง ไป 1 วง จากนั้นคนร้ายพยายามจะหลบหนี โดยประตูกระจกเป็นประตูไฟฟ้า มีการปิดล็อคอัตโนมัติ คนร้ายจึงใช้เหล็กกระแทกประตูกระจกจนแตกละเอียด ก่อนหลบหนีออกไป
จากนั้นคนร้ายได้วิ่งหลบหนีไปทางถนนพระรามสาม ตนและชาวบ้านจึงได้วิ่งตาม ไปกว่า 1 กิโลเมตร ก่อนไปล้อมจับไว้ได้ที่บริเวณหน้าวัดดอกไม้ จากการตรวจสอบไม่พบแหวนวงดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวคนร้ายมาสอบปากคำที่ สน.บางโพงพาง แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากคนร้ายไม่มีบัตรประชาชน ทั้งยังพูดจาวกวน ให้การไม่รู้เรื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะควบคุมตัวไว้เพื่อตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป