วันนี้( 3 พ.ย.66)  พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รรท.เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รรท.ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ รรท.รอง ผบช.ภ.1, ว่าที่ร้อยตรี อากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญฯ ปปส.ภ.1, พ.อ.สุพจน์ สวาคฆพรรณ และ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอำพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี/หัวหน้า ชปส.ศอ.ปส.ภ.1 ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวนประมาณ 4,000,000 เม็ด โดยมี เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว ณ ตำรวจภูธรภาค 1 

พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวจับกุมขบวนการลักลอบขนยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามายังพื้นที่ภาคกลาง โดยได้นำของกลางซึ่งเป็นยาบ้าจำนวน 4,000,000 เม็ด มาจัดแสดงประกอบการแถลงข่าว 

โดยขบวนการดังกล่าวเป็นปฏิบัติการร่วมกันของชุดปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรภาค 1 ชุดที่ 3 / หน่วยข่าวกรองทางทหาร / ศูนย์ปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ / และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด สามารถสกัดจับได้ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย ได้แก่ นายสุรชาติ มูลสาร // นายวิรงค์ เปรี้ยววงษ์ //นายวิรอน เปรี้ยววงษ์ // นายพงศ์อิทธิพล ขวานคร // และนายณัฐสิทธิ์ สักการี สามารถสกัดจับรถบรรทุกขนาดเล็กขนยาบ้าจำนวน 8 กระสอบ 2,000 มัด รวมประมาณ 4 ล้านเม็ด พร้อมสามารถสกัดจับรถกระบะ 2 คันทำหน้าที่เป็นรถนำขบวนและรถปิดท้ายขบวน 

ปฏิบัติการดังกล่าวสืบเนื่องจากการขยายผลการจับกุมเมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย พร้อมของกลางเป็นยาบ้าประมาณ 1,600,000 เม็ด ในพื้นที่จังหวัดสระบุรี จากการสืบสวนขยายผลพบว่า เป็นขบวนการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้ามาส่งยังพื้นที่ภาคกลาง ทางตำรวจภูธรภาค 1 จึงได้เฝ้าระวังและติดตามจนสามารถได้เบาะแสว่า ขบวนการชุดเดียวกันนี้จะลำเลียงขนยาเสพติดอีกครั้งในวันที่ 31 ตุลาคม โดยใช้รถบรรทุก 4 ล้อทำหน้าที่เป็นยานพาหนะลำเลียงยาเสพติด โดยมีรถกระบะ 2 คัน ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลำเลียงจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผ่านทาง จ.สระบุรีและพระนครศรีอยุธยา เข้ามายังพื้นที่ภาคกลาง 

กระทั่งวันที่ 1 พฤศจิกายน เวลาประมาณ 15:20 น ชุดปฏิบัติการ ได้สังเกตเห็นว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าวพักจอดรถอยู่ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใน ต.ลำไทร อ.วังน้อย  จ.พระนครศรีอยุธยา จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์และเข้าจับกุม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 5 ราย พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 หรือยาบ้า จำนวน 8 กระสอบ 2,000 มัด รวมประมาณ 4 ล้านเม็ด ซุกซ่อนอยู่ในรถบรรทุก พร้อมด้วยอาวุธปืน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 14 นัด 

ทางชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งยังพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย เพื่อดำเนินคดีในข้อหา ร่วมการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 // มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต // และพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากไม่สามารถสกัดจับยาเสพติดล็อตนี้ หากกระจายสู่ตลาดจะมีมูลค่าสูงถึง 40 ล้านบาท และจะเป็นภัยต่อสังคมประเทศชาติอย่างมาก 

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 5 รายให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่า รับจ้างขนยาเสพติดเป็นคราว ๆ ไป โดยที่ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง อย่างไรก็ตาม จากการขยายผลเพิ่มเติม พบว่าขบวนการดังกล่าว มีตัวผู้สั่งการเป็นคนไทยอยู่ในฝั่งประเทศลาว คอยรับยาเสพติดที่ผลิตจากสามเหลี่ยมทองคำส่งข้ามชายแดนแม่น้ำโขงที่ จ.นครพนมเข้ามายังประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมและติดตามตัวผู้สั่งการมาดำเนินคดีต่อไป 


พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยถึงกรณีที่มีภาพแชร์ในโซเชียลมีเดียเป็นรูปเม็ดยาเสพติดที่แกะสลักเป็นรูปพระพุทธรูปว่า เรื่องนี้ได้ตรวจสอบเบื้องต้นจากการข่าวแล้ว น่าจะเป็นรูปยาอีมากกว่า แต่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าจริงเท็จอย่างไร เพราะอาจจะเป็นภาพ Fake News ที่แชร์ในโซเชียลมีเดียก็เป็นได้ จึงขอฝากเตือนระวังว่า การแชร์ภาพดังกล่าว หากเป็นข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ 

ทั้งนี้ตลอดการปฏิบัติงานจับกุมยาเสพติดของทุกหน่วยงาน ยังไม่เคยพบมีการทำยาเสพติดให้มีรูปลักษณ์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาแต่อย่างใด อย่างมากก็เป็นรูปการ์ตูนสีสันต่าง ๆ แต่ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นยาบ้าที่แกะสลักเป็นรูปพระพุทธรูปจริง ก็จะมีความผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน 

นอกจากนี้ยังเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือในเรื่องของการเพิ่มกฎการถือครองยาบ้าจำนวนเท่าใดถือว่าเป็นผู้ค้าซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ น่าจะได้คำตอบว่า สรุปแล้วจะใช้จำนวนเท่าใด แต่ทางฝั่ง ป.ป.ส.ยืนยันว่า จะเสนอเกณฑ์การครอบครองเกิน 5 เม็ดขึ้นไปเป็นผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งหากมีการเคาะในที่ประชุมในช่วงบ่ายวันนี้ ก็เตรียมที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อออกกฎกระทรวงต่อไป