ม็อบรถโดยสาร ฮึ่ม! บุกยึด ก.พลังงาน จี้ลดราคาก๊าซ NGV พุ่งไม่หยุด ขีดเส้น 7 วัน เมินข้อเสนอเจอกันใหม่ ด้าน พีระพันธุ์ รับลูกเดินหน้าตั้งคณะทำงาน แก้ราคา NGV ทันที
ที่กระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 2 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน กลุ่มรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการรถตู้ รถมินิบัส รถเมล์ รถโดยสาร และรถสองแถวในเขตกรุงเทพฯ -ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง นำรถโดยสารสาธารณะทุกประเภทมารวมตัวกันที่จุดนัดหมาย ริมถนนวิภาวดีรังสิต กระทรวงพลังงาน เพื่อขอเข้าพบ พร้อมยื่นหนังสือถึง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เพื่อร้องเรียนถึงความเดือดร้อนต่อปัญหาราคาค่าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติอัดสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) ในกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ ตามกำหนดการนัดหมายประมาณ 09.00 น.
นางรุ่งเรือง ทองคำ เลขาธิการสมาคมธุรกิจรถตู้ต่างจังหวัด หมวด 2 บขส. กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทยอยเข้าร่วมประมาณ 500 คัน และเป้าสูงสุดที่ 1,000 คัน เพราะต้องวิ่งให้บริการประชาชนช่วงเช้าก่อน ซึ่งได้รับประสานงานว่าการเข้ายื่นหนังสือต่อรมว.พลังงานนั้น จะส่ง น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต ที่ปรึกษารมว.พลังงาน เป็นตัวแทนรับหนังสือ
เบื้องต้นกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารร่วมบริการสาธารณะยืนยันข้อเรียกร้องขอให้ราคาก๊าซเอ็นจีวีอยู่ที่ 12.74 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันอยู่ที่ 19.59 บาทต่อกิโลกรัม รวมถึงขอให้ขยายระยะเวลา ของการใช้บัตรส่วนลดเพิ่มเติมอีก 2 ปี ขอให้ยกเลิกการกำหนดปริมาณการเติมก๊าซเอ็นจีวีที่ไม่สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน และขอให้มีบัตรส่วนลดค่าเชื้อเพลิงที่ใช้น้ำมันดีเซล ของกลุ่มรถโดยสารสาธารณะ
"ทางกลุ่มฯ จะขีดเส้นตายขอความชัดเจนภายใน 7 วัน หากไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจะยกระดับเป็นการหยุดเดินรถในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้งหมดและปักหลักชุมนุมระยะยาว ซึ่งขึ้นอยู่กับผลการเจรจาวันนี้"
ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีสมาคมรถบรรทุกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับตนในเรื่องเดียวกัน ซึ่งตนได้แจ้งว่าจะดำเนินการให้ ทั้งนี้ รวมถึงกลุ่มผู้ขับขี่แท๊กซี่ยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องการที่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ปิดปั๊มแก๊สลงจำนวนมาก ทำให้กระทบต่อการประกอบอาชีพเป็นอย่างยิ่งด้วย ดังนั้น ตนจึงจะตั้งคณะทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบปัญหาและแก้ไขปัญหาพร้อมกันทันที ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายต่างคนต่างไปดำเนินการ ซึ่งคาดว่าปัญหานี้น่าจะผ่อนคลายลง โดยจะให้กระทรวงพลังงานจะแจ้งความคืบหน้าการทำงานเรื่องนี้ให้ผู้เดือดร้อนทราบเป็นระยะต่อไป
ผมได้รับเรื่องร้องเรียนมาแล้ว แต่ละกลุ่มมีปัญหาความเดือดร้อนลักษณะใกล้เคียงกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างครบถ้วน รวดเร็ว และเป็นระบบ ผมจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาทันทีเพื่อตรวจสอบปัญหาและแก้ไขไปพร้อมกันเลยทีเดียว ไม่ต้องรวมกลุ่มมาก็กำลังจะทำอยู่แล้ว เพราะรับทราบปัญหามาก่อน
