อย่างที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นหนึ่งในของแถมที่ผู้ซื้อได้รับจากผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ ไม่ว่าจะซื้อด้วยเงินสดหรือผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน ทำให้ในปีแรกผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องดำเนินการเรื่องประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจเอง แต่อย่างไรก็ตามประกันรถยนต์ประเภทนี้มีอายุอยู่ได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น หากต้องการต่อประกันรถยนต์ก็ต้องซื้อประกันกับบริษัทประกันภัยด้วยตัวเอง ซึ่งหนึ่งในปัญหาสำคัญที่ทำให้หลายคนลังเลยังไม่ตัดสินใจต่อประกันนั้นหนีไม่พ้นเรื่องราคาของประกันชั้น 1 ที่สูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่น จนอดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามว่าจำเป็นไหมที่ต้องต่อประกันชั้น 1 สามารถเลือกประกันประเภทอื่นแทนได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบมากฝาก รับรองเป็นคำตอบที่ถูกใจคนมีรถทุกคนแน่นอน
ความแตกต่างของประกันแต่ละประเภท
นอกจาก ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันภาคสมัครใจ ปัจจุบันยังมีประกันอีก 4 ประเภทที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน โดยแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างทั้งเรื่องราคาและความคุ้มครอง ดังนี้
-
ประกันรถยนต์ประเภทที่ 1
เหตุผลที่ประกันรถยนต์ประเภทที่ 1 ได้รับความนิยมคือ ความคุ้มครอง เพราะประกันชั้น 1 ครอบคลุมรถยนต์ที่ทำประกันกรณีที่มีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงรถยนต์ของคู่กรณี โดยครอบคลุมทั้งเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต ค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ ค่าซ่อมแซมรถยนต์ ค่าชดเชยความเสียหายที่เกิดกับทรัพย์สินของบุคคลภายนอก นอกจากนั้นยังครอบคลุมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ น้ำท่วม รถสูญหาย ส่วนบริการเสริมอื่น เช่น บริการรถลาก รถให้ยืมระหว่างซ่อม เงินชดเชยค่าเดินทางระหว่างซ่อม ขึ้นอยู่โปรโมชั่นของบริษัทประกันภัยแต่ละแห่ง
-
ประกันรถยนต์ประเภทที่ 2 พลัส
ถือว่าเป็นประกันรถยนต์อีกหนึ่งประเภทที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน สำหรับประกันรถยนต์ประเภทที่ 2 พลัส หรือ ประกันชั้น 2 พลัส จะมีราคาถูกกว่าประกันชั้น 1 เกือบครึ่ง แต่ได้ความคุ้มครองครอบคลุมเหมือนกับประกันชั้น 1 ทั้งความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ ผู้โดยสาร ความเสียหายของทรัพย์สินภายนอก รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรม ไฟไหม้ และน้ำท่วม ต่างกันตรงที่ต้องเป็นอุบัติเหตุที่มีคู่กรณี เป็นการชนกันระหว่างยานพาหนะทางบกหรือรถชนคนเท่านั้น หากเป็นการชนแล้วหนีหรือหาพยานไม่ได้ รถยนต์ที่ทำประกันจะไม่ได้รับความคุ้มครอง
-
ประกันรถยนต์ประเภทที่ 2
สำหรับประกันรถชั้น 2 คือ รูปแบบประกันที่มีมาก่อน ประกันชั้น 2 พลัส จึงให้ความคุ้มครองตรงกันในส่วนของความคุ้มครองเรื่องค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บในรถยนต์ของผู้ทำประกันและคู่กรณี รถไฟไหม้ รถสูญหาย และความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของคู่กรณี แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของผู้ทำประกัน
-
ประกันรถยนต์ประเภทที่ 3 พลัส
หากผู้ใช้รถมีความชำนาญในการขับขี่และมีโอกาสสูญหายน้อย ประกันรถยนต์ประเภทที่ 3 พลัส หรือ ประกันชั้น 3 พลัส ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน เพราะให้ความคุ้มครองค่าซ่อมรถ ค่ารักษาพยาบาลกับผู้ทำประกันและคู่กรณี เฉพาะกรณีอุบัติเหตุจากรถยนต์ชนรถและรถชนคนที่มีคู่กรณีเท่านั้น แต่ประกันรถยนต์ประเภทนี้จะไม่คุ้มครองความเสียหายกับรถยนต์ของผู้ทำประกัน ภัยธรรมชาติ ไฟไหม้ หรือกรณีรถสูญหาย
-
ประกันรถยนต์ประเภทที่ 3
ปิดท้ายกันด้วยประกันรถยนต์ประเภทที่ 3 หรือประกันรถชั้น 3 ซึ่งเป็นประกันรถยนต์ภาคสมัครใจที่มีราคาถูกที่สุด แต่ให้ความคุ้มครองเฉพาะค่ารักษาพยาบาลซึ่งจะได้รับทั้งผู้โดยสารในรถยนต์ของผู้ทำประกันและคู่กรณี ส่วนค่าซ่อมรถจะคุ้มครองเฉพาะรถของคู่กรณีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ปัจจุบันจึงทำให้ได้รับความนิยมน้อยกว่า ประกันรถยนต์ชั้น 3 พลัส
ประกันรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใครบ้าง
จากข้อมูลประเภทของประกันรถยนต์จะเห็นได้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองมากที่สุด ครอบคลุมค่าเสียหายให้กับรถยนต์ ผู้โดยสาร และสิ่งของทุกชิ้นที่ได้รับความเสียหาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประกันรถชั้น 1 เหมาะกับผู้ขับขี่ที่มีคุณสมบัติดังนี้
-
มือใหม่หัดขับ
ถึงแม้ว่าตามกฎหมายแล้วไม่มีการบังคับให้คนมีรถต้องเสียเงินทำประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ในกรณีเป็นมือใหม่หัดขับที่ยังขาดความชำนาญในการขับขี่ แนะนำว่าควรเลือกทำประกันรถชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมในทุกกรณี ย่อมทำให้ผู้ขับขี่อุ่นใจและมั่นใจมากกว่าประกันประเภทอื่นที่ยังขาดความคุ้มครองในบางกรณี
-
เป็นรถยนต์ที่ใช้งานเป็นประจำ
แน่นอนว่ารถยนต์ที่มีการใช้งานเป็นประจำย่อมมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนและสึกหลอมากกว่ารถยนต์ใช้งานน้อย ดังนั้นหากมีประกันรถยนต์ชั้น 1 จะช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องของค่าซ่อม ค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชยต่อคู่กรณี อีกทั้งยังมีบริการเสริมอื่น ๆ ที่ทำให้การเดินทางไม่สะดุด ซึ่งต่างจากประกันประเภทอื่นที่ไม่มีบริการในส่วนนี้
-
ขับขี่ไปบนเส้นทางที่มีความเสี่ยงเป็นประจำ
ถนนแคบ ถนนขรุขระ ถนนในช่องเขา ถนนในเขตชุมชนที่มีผู้อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และถนนเปลี่ยว เป็นลักษณะถนนที่เพิ่มโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 จึงเปรียบเสมือนการเตรียมความพร้อมรับมือกับทุกความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ หรือรถสูญหาย
เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการซื้อประกันรถชั้น 1 ที่เรานำมาฝาก ซึ่งหากถามว่าจำเป็นต้องซื้อประกันรถชั้น 1 หรือไม่ คำตอบคือขึ้นอยู่กับความสมัครใจของเจ้าของรถยนต์ แต่ถ้าหากเป็นรถใหม่หรือรถที่ใช้งานเป็นประจำการเลือกประกันรถชั้น 1 จะเพิ่มความรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากอยากประหยัดค่าใช้จ่ายหรือเป็นรถที่ใช้งานน้อย ประกันรถชั้น 2 พลัส ชั้น 2 และ 3 พลัส ถือเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน ส่วนกรณีรถยนต์อายุเยอะ ไม่ค่อยได้ใช้งาน หรือสถานที่เก็บมีความปลอดภัยโอกาสสูญหายน้อย แนะนำให้เลือกเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 3 จะตอบโจทย์ได้มากกว่า สำหรับผู้ที่กำลังมองหาประกันรถยนต์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการความคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม SCB Protect คือบริษัทนายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยแบบครบวงจรมีประกันรถยนต์ให้เลือกได้ตรงตามความคุ้มครองที่ต้องการและเหมาะสมกับงบประมาณที่มี หากต้องการข้อมูลประกันเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ https://online.scbprotect.co.th/