ภูมิธรรมจูงแขนธรรมนัสเคลียร์ใจปมดราม่าปัญหาในกระทรวงเกษตรฯ ยันจบแล้ว ด้านธรรมนัส แจง แบ่งงาน "ไชยา" ไม่มีอะไรกอไผ่ บอกเป็นอำนาจรัฐมนตรีว่าการฯตามรัฐธรรมนูญ ลั่นถ้ายังไม่จบ จ่อริบกรมใหญ่มาดูแลเอง  ขณะที่มีข่าวสะพัด โยกบิ๊กรอยข้ามห้วย นั่งเลขาฯสมช. รอครม.เคาะ 7 พ.ย.นี้
 
    
 ที่ทําเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ได้โอบหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ มาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวร่วมกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ถึงกรณีที่ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ ออกมาระบุมีปัญหาการทำงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องในกระทรวงได้คุยเรียบร้อยไม่มีปัญหา ถือเป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานที่อาจคงมีเรื่องนี้บ้างในแต่ละครั้งแต่ละตอน แต่เป็นเรื่องธรรมดา พร้อมหันไปถามร.อ.ธรรมนัสว่า ถูกหรือไม่ ซึ่งร.อ.ธรรมนัส ตอบคำถามนายภูมิธรรม ว่า ครับ นายภูมิธรรม จึงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ยืนยันเรื่องนี้จบนะ และต่างฝ่ายต่างไหว้ซึ่งกันและกันก่อนแยกออกจากกัน 
    
 ต่อมา  ร.อ.ธรรมนัส ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวันที่ 31 ต.ค. ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) นายไชยาได้มาแจ้งกับตนว่าให้สัมภาษณ์กับสื่อในประเด็นเกี่ยวกับงานในกระทรวง แต่ไม่มีเจตนาพาดพิงถึงรมว.เกษตรฯ ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องเป็นราว ทั้งนี้เมื่อเป็นประเด็นขึ้นมา ตนได้คุยกับผู้บริหารพรรคเพื่อไทย และตนได้เรียนกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ซึ่งนายกฯ ก็บอกว่าเรื่องนี้ไม่มีประเด็นอะไร รวมทั้งได้หารือกับนายภูมิธรรม ซึ่งก็ไม่มีอะไร เป็นเพียงฤดูกาลปรับย้ายข้าราชการระดับต้นและระดับสูง คงจะมีข้าราชการไปพูดคุยกับนายไชยา และเมื่อสื่อมวลชนถามนายไชยา นายไชยาก็เลยตอบ
    
 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อเกิดประเด็น นายไชยาก็ได้โทรศัพท์มาขอโทษที่ทำให้เป็นประเด็น ทั้งนี้ตนอยากจะเรียนสื่อมวลชนว่าเวลาจะถามประเด็นเรื่องการมอบดูแลเรื่องงบประมาณและบุคคล ไม่มีกระทรวงไหนเขาทำกัน เพราะเวลาเกิดประเด็นปัญหาขึ้น คนที่รับผิดชอบคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เป็นเรื่องประเพณีปฏิบัติ สมัยที่ตนเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ที่มี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรมว.เกษตรฯ ก็สามารถทำงานได้ภายใต้กรอบงานที่ได้รับมอบหมาย ดังนั้น ปัญหาที่รัฐมนตรีใหม่หลายคนยังไม่เข้าใจ คือความรับผิดชอบภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ
     
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากนายไชยาออกมาพูดอีกจะทำอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส ตอบว่า ผมได้คุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจก็คงจะต้องมีมาตรการอื่นในการเปลี่ยนแปลงผู้ดูแลกรมต่างๆ โดยผมอาจจะดูว่ากรมไหนที่ใหญ่ๆ ผมอาจจะเอามาดูแลเอง
 
ด้าน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม (วธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานในกระทรวงวัฒนธรรม ว่า การทำงานของวธ.ต่อจากนี้ ฝ่ายการเมืองจะเป็นทีมกำหนดนโยบาย และให้ทางกระทรวง กรม หรือส่วนที่เกี่ยวข้องทำงานควบคู่กันไป โดยมอบหมายให้ทีมการเมืองทำงานร่วมกับกรมและหน่วยงานในสังกัดวธ. ได้แก่ 1.นายพลภูมิ เกียรติภูมิประเทศ ผู้ช่วยประจำรมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และกรมส่งเสริมวัฒนธรรม(สวธ.) พร้อมประสานงานภาพรวมทั้งภายในและภายนอกวธ. 2.น.ส.เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับกรมศิลปากร และสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) และประสานงานทั้งภายในและภายนอกวธ. 3.น.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับกรมการศาสนา (ศน.) และสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ 4.นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับศูนย์มานุษวิทยาสิริณธรและกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และงานด้านกฎหมายของผู้ตรวจราชการในสังกัดวธ. 5.นายนิติ เนื่องจำนงค์ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับศูนย์คุณธรรม และ 6.นายชัยธัช รัตนจันทร์ ที่ปรึกษารมว.วธ. ดูแลและประสานงานร่วมกับหอภาพยนตร์
    
 นอกจากนี้ วธ.ยังได้รับมอบนโยบายจากนายกรัฐมนตรีที่มอบหมายให้แต่ละกระทรวงดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การดำเนินจัดหางานรองรับคนไทยที่กลับมาจากอิสราเอล โดยดูความเหมาะสมตามภารกิจของแต่ละกระทรวง การแต่งตั้งตำแหน่งต่างๆ ภายในกระทรวงให้มีความโปร่งใส ไม่ให้มีการใช้เส้นสาย โดยให้มุ่งเน้นการประเมินที่ผลงานและความสามารถเป็นหลัก นอกจากนี้ยังเร่งให้ประชาสัมพันธ์ กิจกรรม โครงการ การดำเนินงานของวธ. ให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึงเกี่ยวกับงานของภาครัฐ อาทิ เรื่อง Soft Power ที่ภาครัฐจะสนับสนุนให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
     
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณี พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.66 และยังไม่ได้มีการคัดเลือกใครมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสมช.แทนนั้น ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว. คลัง ให้สัมภาษณ์ถึง ความคืบหน้าการแต่งตั้งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมสมช.ในวันที่ 2 พ.ย.นี้ ว่า ตำแหน่งเลขาธิการสมช. จะเสนอชื่อเข้าที่ประชุมครม.  วันที่ 7 พ.ย.นี้ 
        
ทั้งนี้ มีรายงาน ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) จะมีการเสนอชื่อ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.กมค. ที่เคยรับผิดชอบดูแลงานด้านความมั่นคง ให้โอนย้ายมาดำรงตำแหน่ง ขยับเป็น เลขาธิการสมช. ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงขึ้น เทียบเท่าระดับซี 11 โดยคาดว่าจะมีการเสนอชื่อพล.ต.อ.รอยเข้าที่ประชุมครม.พิจารณาเห็นชอบโอนย้ายมาดำรงตำแหน่ง เลขาธิการสมช.ในวันที่ 7 พ.ย.นี้
     
สำหรับประวัติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เกิดวันที่ 6 ส.ค.2507 จบมัธยมต้น โรงเรียนเซนต์คาเบรียล มัธยมปลายโรงเรียนเตรียมอุดม ปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 40 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 24 ปริญญาตรี นิติศาสตร์ รามคำแหง MPA สหรัฐอเมริกา หลักสูตรหลัก FBI หลักสูตรสืบสวนที่สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย 
     
ประวัติรับราชการที่สำคัญ  รอง สว.ป.2 กก.7 ป., รอง สว.งานนโยบายและแผน ฝ่ายอำนวยการกองตำรวจสันติบาล, นว.ผบก.ประจำ ตร.(ทนท.หน.อำนวนการ) สำนักงานวิทยาการตำรวจ, สว.งาน1 ฝอ.1 ส.1, สว.งาน 4 กก.3 บก.อก.ส., สว.งาน 2 กก.5 ส.1, นว.ผู้ช่วย อ.ตร., นว.(สบ4) รอง ผบ.ตร., ผกก.7 ทล., ผกก.2 บล.ทล., รอง ผบก.ทล., รอง ผบก.สบพ., ผบก.ตม.3, ผบก.ประจำ สตม., ผบก.ทท., รอง ผบช.ก., ผบช.ส., ผบช.ศ., ผู้ช่วย ผบ.ตร., รอง ผบ.ตร.