เมื่อวันที่ 1 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ มูลนิธิกระจกเงา โพสต์ข้อความระบุว่า
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ตามศาลชั้นต้น “จำคุกตลอดชีวิต”
ผอ.โรงเรียนที่ตกเป็นผู้ต้องหา
ฆาตกรรมน้องหลิว สาวโรงงานวัย 19 ปี
ปี 2555 น้องหลิว ออกจากบ้านไปทำงาน
ที่นิคมอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี
จากนั้นหายตัวไปอย่างลึกลับนาน 8 ปี
จนครอบครัวแจ้งเรื่องมาที่มูลนิธิกระจกเงา
ให้ช่วยตามหาลูกสาวที่หายไป
ครอบครัวเป็นชาวบ้านธรรมดา
ไม่รู้จะทำอย่างไรในการตามหา
ประกอบกับมีคนส่ง sms ลวง
ว่าน้องหลิวไปทำงานต่างประเทศ
ที่บ้านไม่ต้องเป็นห่วง
จึงทำให้ครอบครัวรอน้องหลิวกลับมา
เราเริ่มต้นจากประสานงาน
ตรวจข้อมูลในระบบราชการทั้งหมด
ไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ
ไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ
และเมื่อประเมินจากข้อมูลเชิงลึก
ถึงเรื่องราวก่อนหายตัวไป
คาดว่าน้องหลิวอาจไม่มีชีวิตอยู่แล้ว
เราวางแผนค้นหาศพนิรนาม
โดยตระเวนไปตามโรงพยาบาลต่างๆ
เกือบ 10 แห่งในพื้นที่ 4 จังหวัด
ในรัศมี 200กม.จากจุดสุดท้ายที่หายไป
เพื่อขอดูข้อมูลศพนิรนามเพศหญิง
ในห้วงปี 2555-2558
จนพบข้อมูลศพนิรนามทั้งหมด 3 ศพ
แต่มีอยู่ 1 ศพที่ใกล้เคียงน้องหลิวที่สุด
โดยเฉพาะห้วงเวลาที่พบศพ
ใกล้กับช่วงที่น้องหลิวหายตัวไป
โดยศพดังกล่าวมีรอยสักที่ข้อเท้า
เหมือนกับรอยสักของน้องหลิว
กระทั่งผลดีเอ็นเอยืนยัน
ศพหญิงนิรนามที่ถูกยิงและทิ้งไว้ในไร่อ้อย
ที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว
คือ น้องหลิว ที่หายตัวไปกว่า 8 ปี
ความยากของคดีอยู่ที่พยานหลักฐาน
ที่ลบเลือนตามกาลเวลากว่า 8 ปี
และผู้ต้องสงสัยซึ่งคบหากับน้องหลิว
เป็นข้าราชการ
ทีมงานจึงเริ่มต้นคดีโดยประสาน
ตำรวจสอบสวนกลาง
ลงพื้นที่ร่วมสืบสวนสอบสวน
และที่สำคัญ พ.ต.อ.สาธิต มิตรรัก
ผกก.สภ.วัฒนานคร เจ้าของพื้นที่ในขณะนั้น
ได้ทำสำนวนสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด
รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องด้วยตัวเอง
16 พ.ย.2565 ศาลชั้นต้น
ตัดสินจำคุกผู้ต้องหาตลอดชีวิต
และเมื่อวานนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ให้จำคุกตลอดชีวิตผู้ต้องหา
พอจะยืนยันถึงความแน่นหนาและรัดกุม
ของพยานหลักฐานได้เป็นอย่างดี
ศพนิรนาม ได้กลับมามีชื่อนามสกุล
คนหายได้กลับบ้าน
และคืนความยุติธรรมให้ครอบครัวน้องหลิว
:
ขอขอบคุณ
พลตำรวจโทปัญญา ปิ่นสุข
พลตำรวจตรีวาที อัศวุตมางกุร
พันตำรวจเอกสมรภูมิ ไทยเขียว
พันตำรวจเอกสาธิต มิตรรัก
ดาบตำรวจเทพเมธี มีประเสริฐ
และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องทุกท่าน