ที่ปรึกษานายกฯแย้มแหล่งที่มาเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท คาดคงได้ใช้ก.ย.ปีหน้า ผ่าน แอปเป๋าตัง ด้านองอาจ ชี้ เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท อยู่ในสภาพ วัวพันหลัก ไม่รู้จะหาเงินจากไหนมาแจก ควรรู้ตั้งแต่วันประกาศนโยบายหาเสียง ส่วน ซูเปอร์โพล เผย ปชช. เชื่อมั่นแจกเงินดิจิทัล สูงถึงร้อยละ 71.0
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 30 ต.ค.66 นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ได้เป็นประธานเปิดการเสวนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อ "นานาทัศนะกับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท : เป้าหมายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ภายใต้ความท้าทายและพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปของประเทศ" จัดโดยคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา ร่วมกับ คณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมือง และการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา และคณะกรรมการ(กมธ.)วิชาการของวุฒิสภา
ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า โครงการนี้มีหลายอย่างที่ต้องมีการปรับเปลี่ยน เช่นการให้สิทธิประชาชน 56 ล้านคน หลายฝ่ายเห็นว่าไม่ควรแจกคนรวย เพราะการให้เงินคนรวยไม่ได้เป็นการกระตุ้นเศรษฐ กิจ เนื่องจากคนรวยจะเอาเงินในส่วนนี้ทดแทนค่าใช้จ่าย และเก็บเงินของตัวเองไว้แทน แต่ถ้าให้คนที่พอมี จะสามารถนำ ไปใช้หนี้ ดังนั้นตัวเลขประชาชนที่ได้สิทธิจะเหลือ 40 กว่าล้านคน ซึ่งยังไม่รวมผู้ที่ไม่มาลงทะเบียนอีก จึงเชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เงินจากงบประมาณ แต่คงไม่ถึง 500,000 ล้านบาท โดยผ่านการอนุมัติจากสภาฯ ซึ่งงบประมาณดังกล่าวจะมีความล่าช้า ไม่น่าจะทันในเดือนก.พ.67 แต่จะสามารถใช้ได้ในช่วงเดือนก.ย.แทน ส่วนเงื่อนไขที่จะใช้เงินได้ในระยะ 4 กม. คงไม่มีแล้ว แต่จะให้อยู่ในอำเภอหรือเขตเดียวกัน เพื่อให้เกิดการกระจายอย่างทั่วถึง
รัฐจำเป็นต้องแจกเงินเป็นเงินดิจิทัล เพื่อบังคับให้มีการใช้จ่าย ส่วนคนที่จะมาขึ้นเงินก็ต้องลงทะเบียนและเสียภาษีด้วย ทั้งนี้การแจกเงินอาจจะได้ไม่พร้อมกัน และอาจจะได้ใช้เงินในช่วงที่มีวันหยุด เช่นปีใหม่ หรือสงกรานต์ เพื่อเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยว และเชื่อว่า 90% น่าจะกลับไปใช้ แอปพลิเคชัน เป๋าตังค์ เนื่องจากมองว่าการพัฒนาระบบขึ้นมาใหม่ต้องใช้เวลานานและยุ่งยาก
ด้าน นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเพจ องอาจ คล้ามไพบูลย์ ระบุตอนหนึ่งว่า ปรากฏการณ์นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตแจกเงิน 10,000 บาทให้คนอายุ 16 ปีขึ้นไปทุกคนที่พรรคเพื่อไทยจัดอีเวนต์ปราศรัยหาเสียงไว้อย่างยิ่งใหญ่เมื่อ 6-7 เดือนก่อน จนถึงขณะนี้เป็นแกนนำรัฐบาลมาแล้วกว่า 2 เดือนยังไม่สามารถเริ่มลงมือทำตามที่หาเสียงไว้ได้ นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต จึงอยู่ในสภาพวัวพันหลัก ชักเข้าชักออก แต่ยังบอกไม่ได้ว่าจะเอาเงินมาจากแหล่งใด นายกฯ จึงควรเร่งทำความจริงให้ปรากฎ ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาแจก ก่อนที่ปัญหาจะบานปลายจนยากที่จะเดินหน้าต่อไปได้
ขณะที่ ซูเปอร์โพล ได้ทำการศึกษาเงินดิจิทัล ในความปลอดภัยของประชาชน บนโลกไซเบอร์ ระหว่างวันที่ 20 - 28 ต.ค.66 โดยเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจครอบคลุมทั่วประเทศจากนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พบว่า ระดับความเชื่อมั่นของประชาชนสูงถึงร้อยละ 71.0 ไม่เชื่อมั่นร้อยละ 29.0 แต่เมื่อสอบถามถึงการสนับสนุนให้รัฐบาลลงทุนระหว่างความมั่นคงของชาติ กับการแจกเงินพบว่า ใกล้เคียงกันในสามกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถาม คือ ร้อยละ 35.5 สนับสนุนการลงทุนด้านความมั่นคงของชาติ ร้อยละ 31.2 สนับสนุนด้านการแจกเงินดิจิทัล และร้อยละ 33.3 ไม่มีความเห็น