วันที่ 30 ต.ค.66 พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. รักษาราชการรอง ผบ.ตร. ซึ่งได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เข้าคุมงานสืบสวนสอบสวน การติดตามล่าตัวนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง ได้เรียกผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้งหมด ในพื้นที่ รักษาราชการผู้ช่วย ผบ.ตร. ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ผู้บังคับการนครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล  ผู้บังคับการสืบสวน ภ.8 ภ.9 รองผู้บังคับการ ทุกหน่วย ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผู้กำกับการ 5 กองปราบปราม ผู้กำกับการ 6 จนไปถึงพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีในแต่ละส่วนและมีรายงานว่าอาจมีการกำหนดเป้าหมายในการปฏิบัติการบางอย่าง โดยการเข้าไปประชุมไม่อนุญาติให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีและผู้สื่อข่าวเข้าร่วมรับฟังหรือติดตามข้อมูล ก่อนเข้าประชุม พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รักษาราชการ รอง ผบ.ตร. กล่าวเพียงว่า จะเรียกประชุมทุกหน่วยก่อน แล้วจะเปิดเผยข้อมูลภายหลัง

ส่วนที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายจักรี หรือบิ๊ก และนายจีรวุฒิ หรือปอย สองผู้ต้องหาชออกจากห้องควบคุม สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อไปขออำนาจศาลฝากขัง ที่ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากทั้งคู่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่วานนี้ในพื้นที่พัทลุง และตรัง หลังจากนั้นถูกคุมตัวมาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยวันนี้ครบกำหนดในการผลัดฟ้องฝากขังนัดแรก ก่อนหน้าที่จะมีการคุมตัวไปฝากขัง พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รักษาราชการ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้เข้าพูดคุยข้อมูลจากทั้งคู่แต่ไม่เป็นที่เปิดเผย

ขณะที่เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องพันธนาการผู้ต้องหาทั้งคู่แล้วคุมตัวออกจากห้องควบคุมเพื่อไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหา โดยเจ้าหน้าที่ได้เปิดโอกาสให้นายจีระวุฒิหรือปอยพบกับภรรยาซึ่งต่างนิ่งเงียบไปทั้งคู่ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน ก่อนจะถูกคุมตัวไปนายจักรีหรือบิ๊ก ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะฝากความอะไรถึงใครหรือไม่ นายจักรีตอบเเพียงสั้นๆว่าไม่ฝากอะไรใครแล้ว และเมื่อถามว่าจะฝากถึงแป้งหรือไม่นายจักรีตอบว่าอยากให้เข้ามอบตัวยิ่งนานไปยิ่งอันตราย และไม่ขอพูดถึงใครอีกเช่นเดียวกับนายจีรวุฒิ หรือปอยที่มีท่าทีผ่อนคลาย บอกว่าไม่ฝากอะไรใครแล้วเช่นกัน อยากยิ้มให้ก่อนเดินขึ้นรถไป

เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามล่าตัวนายเชาวลิต  หรือเสี่ยแป้ง นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ อย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้เชื่อว่าเสี่ยแป้ง ได้หลบหนีและกบดานซ่อนตัวอยู่กับลูกน้องคนสำคัญ คือนายสุทธิวัศน์ หรือหนอน ทุ่งลาน อายุ 28 ปี ผู้ขับขี่เก๋งสีดำนำหน้ารถของเสี่ยแป้ง ออกจากโรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช

เจ้าหน้าที่พบว่านายสุทธวัฒน์ หรือหนอน ทุ่งลาน มีประวัติโชกโชนเช่นเดียวกัน เพิ่งพ้นโทษคดีค้ายาเสพติดและครอบครองอาวุธสงครามร้ายแรกมาได้ไม่นาน จากการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเมื่อ วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562  ถูกเจ้าหน้าที่ ตชด.43 ล่อชื้อ จับกุมตัวนายอุกฤษฎ์ อายุ 22 ปี และนายสุทิวัส หรือหนอน ขุนณรงค์ ได้พร้อมอาวุธปืนและยาบ้า ในพื้นที่ ต.ควนมะพร้าว อ.เมือง จ.พัทลุง พร้อมขยายผล 

และเมื่อไปตรวจค้นที่บ้านในพื้นที่ ต.ตำนาน สามารถยึดยาบ้าที่ชุกซ่อนอยู่ในสวนหลังบ้าน โดยการขุดหลุมฝั่งไว้ 3,100 เม็ด พร้อมด้วยอาวุธปืนขนาด .32 -1 กระบอก และอาวุธปืนสงครามชนิด เอ็ม16 อีก หนึ่งกระบอกพร้อมแม๊กกาซีน โดยศาลได้จำคุกในคดียาเสพติด 4 ปี แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าคดีครอบครองอาวุธสงครามศาลได้ยกฟ้อง

เจ้าหน้าที่ยังพบข้อมูลด้วยว่า ตั้งแต่ก่อนถูกจับนายสุทธิวัฒน์ เป็นนักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ทั้งยังเป็นคนสนิทลูกน้องคนสำคัญของนายเชาวลิต หลังจากที่นายเชาวลิต ถูกศาลจำคุกได้ไปอยู่ในเรือนจำพัทลุง นายสุทธิวัฒน์ เป็นลูกน้องคนสำคัญในเรือนจำคอยดูแลนายเชาวลิต จนกระทั่งนายเชาวลิตถูกสั่งย้ายเรือนจำ และเมื่อนายสุทธิวัฒน์พ้นโทษ ยังวนเวียนติดต่อกับนายเชาวลิตเรือยมาจนกระทั่งมาเป็นตัวจักรสำคัญในการก่อเหตุช่วยนายเชาวลิตหลบหนี

ข้อมูลการสืบสวนล่าสุด ยังระบุด้วยว่า หลังจากที่มีการกระจายแยกย้ายกับหลบหนี นายเชาวลิตหรือเสี่ยแป้ง ขึ้นรถเก๋งสีดำคันที่นายสุทธิวัฒน์ หรือหนอนขับขี่ และเชื่อว่าขณะนี้นายสุทธิวัฒน์ กบดานอยู่กับนายเชาวลิตมีการติดอาวุธครบมือ มีพื้นที่เคลื่อนไหวอยู่แถบเทือกเขาบรรทัด