นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ มนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) เตรียมเข้าหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้ทบทวนการแบ่งประเภทการจัดเก็บรายได้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง (ภาษีที่ดินฯ) เพื่ออุดช่องโหว่เอื้อภาษีรายใหญ่ ส่งผลให้ภาษีที่จัดเก็บได้มีมูลค่าลดลง โดยขณะนี้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีใหม่ โดยในปีที่ผ่านมามีการจัดเก็บ 90% ทำให้รายได้ของกทม.กลับมาใกล้เคียงกับของเดิมแล้ว อย่างไรก็ตามการพิจารณาต้องใช้ดุลพินิจของท้องถิ่นร่วมด้วย เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการชำระภาษีที่ดิน ส่วนเรื่องอัตราต้องหารือกันอีกครั้ง
ส่วนการแก้ไขหนี้ภาคครัวเรือนไทย หลังจากที่ได้มอบนโยบายให้ธนาคารออมสินถึงเป็นสถาบันการเงินของรัฐ เป็นตัวกลางเข้าไปรวมหนี้ ผ่านบริหารสินทรัพย์ หรือ AMC เพื่อเร่งช่วยเหลือ และแก้ไขหนี้ครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นหนี้ดี และหนี้เสียทั้งระบบนั้น ล่าสุด พบว่า มีธนาคารพาณิชย์มีความสนใจเข้าร่วมโครงการ ซึ่งธนาคารออมสินก็จะดำเนินการให้ เชื่อว่า ระดับหนี้ครัวเรือนไทยจะลดลงได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ ระดับหนี้ครัวเรือนทั้งระบบมีทั้งหมด 15-16 ล้านบาท หรือ 90%ของจีดีพี เป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) อยากให้ระดับหนี้ครัวเรือนลดลงมาอยู่ในกรอบวินัยการเงินการคลังที่ดี คืออยู่ในระดับ 80% มีเอ็นพีแอลเกือบ 10% หรือประมาณ 1.5-1.6 ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็นของธนาคารออมสินจำนวนมาก ดังนั้นจัดการของออมสินดู Pilot Project
สำหรับ การดูแลแรงงานไทยในอิสราเอลนั้น นายเศรษฐา ทวิสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เน้นย้ำให้ดูแลแรงงานที่ไปทำงานในอิสราเอลอย่างใกล้ชิด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางรัฐบาลพยามชักชวนแรงงานกลับไทย รวมทั้งให้เร่งดูแลแก้หนี้สินแรงงานไทยที่มีอยู่ในระบบ หากเป็นแรงงานภาคเกษตรจะมอบหมายให้ธอส.เข้าไปดูแลช่วยเหลือแก้ไขหนี้ ส่วนแรงงานที่อยู่นอกเหนือภาคเกษตรมอบหมายให้ธนาคารออมสินดูแล ส่วนหนี้ภาครัฐอื่นๆ สามารถผ่อนปรนได้ทันที
“แรงงานที่ไม่ได้เป็นลูกหนี้ ภาคเกษตร เราก็มีโครงการช่วยเหลือที่ ธอส. และออมสิน กำลังคุยกันอยู่ โดยได้บอกให้ทำออกมาเป็นแพ็คเก็ตเดียวกัน เงื่อนไขเดียวกัน โดยให้ระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ให้ยาวที่สุด และดอกเบี้ยต่ำที่สุด เพื่อช่วยเหลือให้ได้มากที่สุด” นายกฤฎษา กล่าว