สภาธุรกิจโลก หรือ WBCSD เปิด 11 รายชื่อบริษัทระดับโลกเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดทำรายงานความยั่งยืน เครือซีพีจากประเทศไทยติดอันดับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ชี้มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน สร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน
สภาธุรกิจโลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (World Business Council on Sustainable Development – WBCSD) องค์กรระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนโดย CEO ของธุรกิจชั้นนำมีสมาชิกทั่วโลกมากกว่า 250 องค์กร ได้เผยแพร่รายงาน Reporting Matters ประจำปี 2023 วิเคราะห์และประเมินผลการจัดทำรายงานความยั่งยืนของบริษัทเอกชนจากทั่วโลกที่เป็นสมาชิก WBCSD โดยในปีนี้ได้เปิดรายชื่อ 11 บริษัทชั้นนำที่จัดรายงานความยั่งยืนดีเด่น โดยมีเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี จากประเทศไทย ติด 1 ใน 11 บริษัทที่ได้รับคะแนนสูงสุดเนื่องจากมีความโดดเด่นในการจัดทำประเด็นสำคัญและมียุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนที่ชัดเจนครอบคลุมทุกมิติ รวมถึงมีการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย โดยซีพีได้รับการประเมินในระดับ Top Performer ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
ทั้งนี้ในส่วนของ 11 บริษัทที่ได้รับการประเมินว่าเป็นผู้จัดทำรายงานความยั่งยืนดีเด่นระดับโลกประจำปี 2566 ประกอบด้วย 1.บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด - ประเทศไทย 2.DSM-บริษัทข้ามชาติของเนเธอร์แลนด์ที่ดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพ โภชนาการ 3.EDP-Energias de Portugal-บริษัทสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าของโปรตุเกส 4.Enel S.p.A.ผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติจากอิตาลี 5.Eni S.p.A.บริษัทสัญชาติอิตาลีในธุรกิจน้ำมันและแก๊ส 6.ERM ที่ปรึกษาด้านธุรกิจและบริการด้านความยั่งยืนจากสหราชอาณาจักร 7.Mondi Group บริษัทกระดาษและบรรจุภัณฑ์จากออสเตรีย 8.Novartis บริษัทยาชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ 9.Philip Morris International SA บริษัทผลิตบุหรี่และยาสูบสัญชาติอเมริกัน 10.Solvay S.A. ผู้ผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และพลาสติกของเบลเยี่ยม และ 11.Stora Enso Oyj ผู้ผลิตเยื่อกระดาษของฟินแลนด์
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่ารายงานความยั่งยืนถือเป็นเสาหลักสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง อันเป็นผลมาจากการสร้างความตระหนักรู้วางเป้าหมายกำหนดตัวชี้วัด การสื่อสารขององค์กรและการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นเนื้อเดียวกับการดำเนินธุรกิจ นับเป็นการส่งเสริมความโปร่งใสของการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนนอกจากนั้นการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะจะนำไปสู่การเปรียบเทียบผมการดำเนินการปีต่อปี ทั้งของตัวเองและกับผู้อื่นเกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิดการตรวจสอบติดตามผล ลดความเสี่ยงของ Green Washing หรือการสร้างภาพลักษณ์ด้านความยั่งยืนเพื่อกลบเกลื่อนการประกอบธุรกิจที่ส่งผลในเชิงลบ ขาดความรับผิดชอบ และสุดท้ายกลไกของความโปร่งใสจะก่อให้เกิดการแข่งขันการทำความดีหรือ Race to the Top
นายสมเจตนา ภาสกานนท์ ผู้อำนวยการด้านพัฒนาความยั่งยืน สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาลและสื่อสารองค์กร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (ซีพี) เปิดเผยว่า เครือซีพีมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ WBCSD ยกย่องให้เครือฯเป็นแบบอย่างที่ดีติดท็อปองค์กรธุรกิจชั้นนำระดับโลกในการการจัดรายงานความยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยการคัดเลือกรายงานด้านความยั่งยืนทาง WBCSD ได้กำหนดเกณฑ์การประเมิน 3 ด้านหลักคือ Principles Content และ Effectiveness โดยเครือซีพีได้รับการประเมินว่ามีการปรับปรุงและพัฒนาการจัดทำรายงานด้านความยั่งยืนอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานระดับสากลมาอย่างต่อเนื่อง มีการกำหนดขอบเขตของรายงานที่ครอบคลุมทุกมิติด้านความยั่งยืนทั้งเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม และได้มีการระบุรายละเอียดของมาตรฐานที่ใช้อ้างอิงในการจัดทำรายงาน
โดยในปีนี้เครือฯ ได้รับการประเมินผลภาพรวมรายงานความยั่งยืนของเครือฯประจำปี 2022 ที่เป็นแบบอย่างที่ดีมีความโดดเด่นใน 3 ด้านสำคัญคือ 1) มีกระบวนการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน (Materiality Assessment) ในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Double และ Dynamic มาประยุกต์ใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งช่วยให้เครือฯ มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับประเด็นด้านความยั่งยืนและเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นตามสถานการณ์และช่วงเวลา 2) เครือฯ มียุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนที่ชัดเจน รวมถึงแผนการดำเนินงาน มีการแสดงผลกระทบด้านการเงินและหลักฐานการดำเนินงานสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการประกาศเป้าหมายนำองค์กรสู่ Net Zero ในปี 2050 ที่ชัดเจน โดยได้มีการจัดทำแผนกำหนดขอบเขตการปล่อยก๊าซเรือนกระจกครอบคลุม 3 ขอบเขตสำคัญทั้งระยะสั้นและยาว ถือเป็นสิ่งแสดงความมุ่งมั่นขององค์กรพร้อมสะท้อนความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะชนในวงกว้าง 3) เครือฯมีการกระบวนการสร้างความผูกพันกับผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยเครือฯ ดำเนินการสำรวจความผูกพันของผู้มีส่วนได้เสียเป็นประจำทุกปีเพื่อรวบรวมความคิดเห็นและข้อมูลเชิงลึกจากผู้มีส่วนได้เสียของเราโดยตรง อีกทั้งยังเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย
สำหรับปีนี้เครือฯได้เปิดตัวรายงานความยั่งยืนประจำปี 2022 ภายใต้แนวคิด “ผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อพรุ่งนี้ที่ดีกว่า” เพื่อเปิดเผยผลการดำเนินงานที่มุ่งมั่นและตั้งใจในการขับเคลื่อนเป้าหมายยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนสู่ปี 2030 ของเครือฯ รวมทั้งสิ้น 15 เป้าหมาย ภายใต้กรอบการทำงาน 3 เสาหลักคือ Heart - Health - Home ที่ครอบคลุมทุกมิติของความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) โดยนำเสนอผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรมทั้งในแง่ของความสำเร็จ และในด้านของความท้าทายที่เครือฯ และบริษัทในเครือฯ ต้องเผชิญอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนแผนงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในอนาคต โดยในรายงานฉบับนี้เน้นย้ำไปที่การพัฒนาใหม่ๆของเครือซีพี และความก้าวหน้าในหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเป้าหมายยุทธศาสตร์ด้านความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์
รายงานฉบับนี้ยังเปิดเผยผลการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับบริบทการดำเนินงาน และผลกระทบภายนอกที่อาจมีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงจัดการความเสี่ยงขององค์กร โดยผลจากการวิเคราะห์ได้รวมเข้าไปในกระบวนการประเมินประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืนแบบ Double และ Dynamic ซึ่งจะช่วยให้เครือฯ มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหัวข้อความยั่งยืนที่มีความสำคัญ ทำให้การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียมีประสิทธิภาพดีขึ้น สามารถจัดการความเสี่ยง ระบุโอกาส ปรับปรุงการรายงาน และสร้างมูลค่าระยะยาวได้ดีขึ้น แนวทางนี้ทำให้บริษัทเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ขับเคลื่อนผลกระทบเชิงบวกและลดผลกระทบเชิงลบทั้งต่อการดำเนินงานและสังคมในวงกว้าง
นอกจากนี้ เครือซีพี ได้จัดทำรายงานเฉพาะเรื่องเพิ่มเติมอีก 6 ฉบับ ได้แก่ 1.Double and Dynamic Materiality Assessment Report 2022 2.Stakeholder Engagement Report 2022 3.Sustainability Performance Report 2022 4.Sustainable Development Goals (SDGs) Report 2022 5.Task Force on Climate-related Financial Disclosure (TCFD) Report 2022 และ 6.Biodiversity (TNFD) Report 2022 โดยปีนี้ถือเป็นปีแรกที่เครือซีพีได้จัดทำ Biodiversity (TNFD) Report 2022 ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของเครือซีพี
#WBCSD #เครือซีพี #สภาธุรกิจโลก