"อนุทิน"ตอกย้ำ นายกฯห่วงแรงงานไทยในอิสราเอล วอนญาติกล่อมให้กลับประเทศ ยันรัฐบาลพร้อมเยียวยาเต็มที่ "รองโฆษกรัฐบาล"ระบุแรงงานทุกคนจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน กลับไปทำงานภายหลังสถานการณ์สงบได้แน่นอน
เมื่อวันที่ 29 ต.ค.66 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณี กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้แต่ละจังหวัดไปพบญาติของแรงงานไทยในอิสราเอล เพื่อเกลี้ยกล่อมให้กลับประเทศ ว่า ก็ต้องช่วย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ท่านกรุณาสั่งการด้วยตนเอง มีความเป็นห่วงพี่น้องแรงงานชาวไทยในอิสราเอล และหลายคนก็เป็นตัวประกันด้วย ท่านก็คงมีความกังวลว่า ถ้าหากมีการใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินแล้ว จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับพี่น้องประชาชน จึงตัดสินใจว่าอย่างไรขอให้พี่น้องคนไทยได้กลับมาสู่มาตุภูมิก่อน
โดยรัฐบาลจะเร่งทางรมว.แรงงานทำเรื่องเสนอการเยียวยาให้กับพี่น้องแรงงานชาวไทยในอิสราเอล เพียงแต่ว่า ขอให้กลับมาสู่ประเทศไทยให้ปลอดภัยก่อน นี่คือความเป็นห่วงของนายกรัฐมนตรีก็ขอให้เครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยได้ทำหนังสือ เราสำรวจแล้วว่าแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ มีครอบครัวผู้ใช้แรงงานอิสราเอลจำนวนเท่าไร จึงช่วยกันขอให้ญาติๆ ชวนกันกลับมา เพื่อให้ความมั่นใจว่า เอาชีวิตปลอดภัยไว้ก่อน แล้วรัฐบาลจะเยียวยาช่วยเหลือให้มากที่สุด นี่คือความประสงค์ของท่านนายกรัฐมนตรี
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ ณ ประเทศอิสราเอล เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์การสู้รบ อาจมีแนวโน้มที่จะขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตของพี่น้องแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอล และกระทบต่อกระบวนการอพยพพี่น้องแรงงาน
ปัจจุบันมีพี่น้องแรงงานบางส่วน ที่ยังมีความกังวลถึงค่าจ้างที่ยังไม่ได้รับ หรือกังวลว่าจะไม่สามารถเดินทางกลับไปทำงานได้ภายหลังจากสถานการณ์สงบลง รัฐบาลโดย กระทรวงแรงงานขอยืนยันให้ความมั่นใจกับพี่น้องแรงงานว่า พี่น้องแรงงานทุกคนจะได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน และจะสามารถกลับไปทำงานภายหลังสถานการณ์สงบได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ทางกระทรวงแรงงาน ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ในการหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเพิ่มเติม สำหรับพี่น้องแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ในครั้งนี้อย่างเต็มที่
รัฐบาลวอนให้พี่น้องแรงงานไทยพิจารณาทบทวนให้ถี่ถ้วนในการเดินทางกลับประเทศไทย ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตเป็นสิ่งแรก โดยรัฐบาล ได้เตรียมพร้อมในการอพยพพี่น้องแรงงานไทยกลับสู่ประเทศได้อย่างปลอดภัยในเวลาที่รวดเร็วที่สุด สามารถแจ้งความประสงค์มายังสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันทีที่: รร. David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501 โทรศัพท์ศูนย์พักพิง : 050-443 8094, 053-557-4115 โทรศัพท์สถานทูตฯ : 055-271 2201, 053-245 2826, 054-636 8150 นายคารม กล่าวย้ำ
ด้าน นายดนุพร ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคมีความห่วงใยพี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอล เป็นอย่างมาก จากสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอลกาซา ซึ่งจากการติดตามและประเมินสถานการณ์โดยกระทรวงการต่างประเทศล่าสุด ณ วันที่ 28 ต.ค. พบว่ากองทัพอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบที่รุนแรงยิ่งขึ้น และยังมีความเป็นไปได้ว่า การสู้รบจะขยายพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลต่อการเดินทางภายในประเทศ และกระทบต่อกระบวนการอพยพอย่างมีนัยสำคัญ
นายดนุพร กล่าวว่า พรรคจึงขอเรียกร้อง ดังนี้ 1.ขอวิงวอนให้พี่น้องแรงงานไทยในอิสราเอล และพี่น้องประชาชน ตัดสินใจกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด กลับมาบ้านของเรา มาตั้งหลักที่บ้านของเราก่อน เพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตพี่น้องประชาชนที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ 2.ขอให้พี่น้องคนไทยที่ยังรอรับค่าแรง และยังมีความลังเล กังวลว่ากลับแล้วจะไม่สามารถมีรายได้เท่าเดิม ขอให้กลับมาตั้งหลักที่ไทยก่อน รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดหางานสำหรับเกษตรที่มีทักษะและมีรายรับที่เหมาะสม ทางการอิสราเอลเอง ก็พร้อมที่จะตอบรับแรงงานกลับเข้าทำงานทันทีที่สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติทุกเมื่อ เพราะเกษตรกรไทยมีความสามารถในการเกษตรสูง จึงยังเป็นที่ต้องการของอิสราเอล และ 3.ขอให้นายจ้างแรงงานไทย ยินยอมให้แรงงานกลับมาที่ประเทศไทยก่อน รวมถึงขอให้นายจ้างเองพาแรงงานไทยกลับบ้านเราด้วยกัน ที่อิสราเอลยังเปิดโอกาสสำหรับแรงงานจากประเทศไทยเสมอ
พี่น้องประชาชนคนไทยในอิสราเอลที่ต้องการกลับไทย ขอให้แจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ทันที ที่ รร. David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501 โทรศัพท์ศูนย์พักพิง : 050-443 8094, 053-557-4115 และโทรศัพท์สถานทูตฯ : 055-271 2201, 053-245 2826, 054-636 8150 นายดนุพร กล่าว