เมื่อวันที่ 16 ต.ค.66 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊คระบุว่า  

“จตุพร” เชื่อ“อุ๊งอิ๊ง”นั่งหัวหน้า พท. ดันเพื่อไทยเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาก ได้แค่เอาคนอายุน้อยไปสู้กับพรรคอายุน้อย จับตากดดัน“เศรษฐา”โดดเดียว คาดปลายปีถึงต้นปีหน้าการเมืองเปลี่ยน 

เมื่อ 27 ต.ค. 2566 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ โดยเชื่อว่า แม้อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวทักษิณ ชินวัตร ถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย คงไม่อาจทำให้พรรคเปลี่ยนแปลงได้มากนัก เพียงแต่ปรับภาพลักษณ์พรรคใม่ โดยเอาคนอายุน้อยมาสู้กับพรรคคนอายุน้อยเท่านั้น

อีกทั้ง เห็นว่า การเมืองเป็นภาพมายา ตั้งแต่มีพรรคเพื่อไทยมา หัวหน้าพรรคมีคนเดียวเท่านั้น ที่เหลือเป็นหัวหน้าพรรคสมมุติกันหมด แต่การเลือกอุ๊งอิ๊ง ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคครั้งนี้ เป็นเพียงหัวหน้าพรรคสมมุติเหมือนตัวจริงเพื่อมาพลิกเกมใหม่จากได้เป็นรัฐบาล แต่เสียงเลือกตั้งกลับตกต่ำมากที่สุด

“ผมไม่เชื่อว่า พรรคเพื่อไทยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แม้อุ๊งอิ๊งเป็นหรือไม่เป็นหัวหน้าพรรคก็เท่าเดิม เพียงต้องการเอาอายุน้อยไปสู้อายุน้อย แต่สถานการณ์ขณะนี้ พรรคเพื่อไทยเผชิญกับความบอบช้ำทางการเมือง ทั้งคำพูดและการกระทำทั้งหมด จะถูกต่างพรรคนำไปใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งหน้า”

นายจตุพร ย้ำว่า รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำเกิดจาก รธน. 60 และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ทำให้เกิดขึ้น โดย สว.สาย พล.อ.ประยุทธ์ โหวตให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ และมีภาพปรากฎจึงเป็นเพียงมายา แต่ข้างหลังภาพคงซ่อนอะไรไว้ อาจเป็นข้อตกลงแลกประโยชน์กับการโหวตเป็นนายกฯ

นอกจาก เห็นว่า อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านายเศรษฐา จะเป็นคนที่น่าเห็นใจที่สุด โดยจะเจอแรงกดดันทุกทิศทาง เพราะไม่มีองคาพยพทางการเมืองเป็นของตัวเอง และภายในพรรคยังมีแต่มายาภาพแสดงความน่าเชื่อถือ เมื่ออุ๊งอิ๊ง เป็นหัวหน้าพรรคยิ่งทำให้มายาภาพคนในพรรคกระทำต่อนายกฯ ค่อยๆ เลื่อนลางไป

"อุ๊งอิ๊งได้เป็นหัวหน้าวันนี้ ไม่เห็นมีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งที่ผ่านมาการเดินงานการเมืองจึงเป็นเพียงกลยุทธ และต้องการหลีกเลี่ยงกฏหมายเลือกตั้งที่ควบคุมแต่กรรมการบริหารพรรค อีกอย่างการไปเป็นประธานยุทธศาสตร์ต่างๆ หรือเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อหลีกหนีกรณียุบพรรค และกรรมการบริหารพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่วันนี้เดินมาถึงจุดที่ต้องออกหน้าเอง"

นายจตุพร กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2549 เรื่อยมา คนในตระกูลชินวัตรสามารถเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ทุกเมื่ออยู่แล้ว แต่วันนี้ทำไมต้องมาออกตัวกัน อย่างไรก็ตาม ผลพวงจากการการโหวตของ สว.สายพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นคำตอบของทุกสิ่งอย่าง และการโหวตนี้อาจได้ตกลงกันไว้เป็นเวลานานเท่าใดไม่มีใครรู้ ดังนั้น ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ไม่รู้การเมืองจะเกิดสถานการณ์อะไรขึ้นมาอีก

"ถ้าคิดเพียงจะเป็นที่หนึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าแล้ว ไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าพรรคในเวลานี้เลย แต่ถึงที่สุดการเมืองไม่แน่นอน สามารถพลิกเปลี่ยนได้เป็นชั่วโมง อีกทั้งการเมืองไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และทุกเรื่องไม่ใช่เรื่องง่าย” 

นายจตุพร ว่า อุ๊งอิ๊ง ไม่ใช่คนใหม่ทางการเมืองแล้ว แต่เป็นคนเก่าที่อายุน้อย เพราะเคยผ่านมรสุมทางการเมืองมาแล้ว ทั้งขึ้นปราศรัยหาเสียงมากมาย แต่ไม่ได้เป็นไปตามคำพูดเลย แล้วจะฝากความหวังไว้กับนักการเมืองได้อย่างไร ดังนั้น ในเวลาที่เหลือการเลือกตั้งยังยาวไกล การมาเป็นหัวหน้าพรรคจึงอาจรองรับสถานการณ์อื่นในวันข้างหน้า

ประเทศไทยต้องมาก่อน