วันที่ 28 ตุลาคม 2566 วงการบันเทิงเศร้าอีกครั้ง หลังจาก "บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์"เผยข่าวร้ายผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่าดาราอาวุโส "มานพ อัศวเทพ"เสียชีวิตแล้ว 

"ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ด้วยการจากไปของ อามานพ อัศวเทพ รายละเอียดผมจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ"

 

ต่อมาได้แจ้งอีกว่า "แจ้งข่าว​ อามานพ อัศวเทพ วันนี้เวลา 16.00 น รดน้ำศพ ที่วัดเจ้าอาม บางขุนนนท์ ตลิ่งชัน ขอเชิญเพื่อนพ้องคนในวงการบันเทิง รดน้ำที่วัดโดยพร้อมเพียงกันครับ"

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่วัดเจ้าอาม ถนนบางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร ที่ศาลา2 

โดยนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ได้เปิดเผยว่า ตนเองได้เดินทางไปรับร่าง คุณอามานพ ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมกับอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญ โดยหลังจากทราบเรื่อง โดยก่อนหน้านี้ตนเองมีประชุม เรื่องละครเฉลิมพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่9 ก็เลยต้องมาดำเนินการเรื่องนี้ก่อน เพื่อตอบแทนบุญคุณและได้ส่งท่าน

ในส่วนภาพยนตร์เรื่องแรกที่ได้เล่นร่วมกัน เรื่องข้ามากับพระ ส่วนบทที่แสดง คุณพ่อมานพ เล่นเป็นเสือ ส่วนตนเองเล่นเป็นลูก ความรู้สึกในช่วงแรกที่ได้เจอกัน คุณพ่อมานพได้ชื่นชมตนเองในเรื่องการแสดงซึ่งในบทมีการขี่ม้าและป้องกันคุณพ่อ ซึ่งแสดงเป็นเสือด้วยกันโดดเข้าไปบังกระสุนซึ่งอยู่กันหลายรอบ จนไปบอกกับคนอื่นว่าเรานี่แข็งแรง จนทำให้ได้เป็นพระเอกในปัจจุบัน โดยส่วนใหญ่ก็จะบอกจะสอนกันเรื่อยมา 

โดยก่อนที่จะป่วยตัวท่านเองก็ยังเล่นเวดให้กับทางภรรยาท่านดู ว่าตัวท่านเองนั่นยังแข็งแรงอยู่ โดยหลังจากนั่นท่านก็ป่วย เช้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้าอยู่ 3 วัน ก็จะเสียชีวิตอย่างสงบ  ตัวท่านเองเป็นคนที่เล่นกล้าม โดยหนังและสุดท้ายที่ได้แสดงเป็นเรื่องทองดีฟันขาว ส่วนตัว ตนเองกับคุณอามานพรูปร่างลักษณะและการไว้หนวดเคราจะคล้ายๆกัน โดยปกติถ้าคุณอาไม่มีงานแสดงก็จะอยู่บ้านใช้ชีวิตแบบสมถะ โดยครั้งล่าสุดที่เจอกันในงานศพเพราะแอ๊ดสมบัติ เมทะนี   

ทางด้านนายไพโรจน์ สังวริบุตร อดีตพระเอกดัง และผู้กำกับผู้สร้างภาพยนตร์ กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จัก ผูกพันกับอามานพ มาตั้งแต่ก่อนที่อาเข้าวงการบันเทิงสมัยเป็นทหารเรือ   เมื่อได้มีโอกาสร่วมงานกัน   อามีใจรักทุ่มเทกับงาน ด้านการแสดง ทุกๆ เรื่องตอนที่ไปเล่นหนังจอง บิณฑ์  เรื่อง ข้ามากับพระ  เมื่ออายุ 84ปี ก็เล่นเต็มที่  และ อายังขอบ  ทำเมนู น้ำเต้าหู้มาเจกจ่ายคนในกองถ่าย เป็นประจำ 

โดยจะมีการสวดพระอภิธรรม เป็นเวลา3วัน และจะมีการประชุมเพลิง วันที่ 31 ตุลาคม 2566 ในเวลา 16.00 น.