หนุ่มกู้ภัย มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม ขี่จักรยานยนต์ เตรียมจะไปเอารถกระบะส่งกุ้ง ระหว่างทางถึงทางโค้งมืดมีเก๋งสวนทางมาเสียหลักชนประสานงาอย่างจังทำให้เจ้าตัวเสียชีวิตคาที่ โดยจุดดังกล่างเป็นทางโค้งและไม่มีไฟส่องสว่างเป็นปัญหาของผู้ใช้รถใช้ถนนมานาน เพื่อนกู้ภัยบอกเสียคนหนุ่มพ่อลูกอ่อนใจบุญร่วมอุดมการณ์ช่วยสังคมไปอีกนาน 

วันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 00.05 น.  ร.ต.ท. อำนาจ  ดุลพักขิม  ร้อยเวร  สภ.บางหลวง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม  ได้รับแจ้งเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถเก๋ง มีผู้เสียชีวิตที่ถนนพลดำริ ม.5 ต.ไผ่หูช้าง อ.บางเลน จ.นครปฐม จึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมจุดกำแพงแสน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณก่อนถึงโค้งวัดไผ่หูช้าง เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า หมายเลขทะเบียน 1กข  9025 กาญจนบุรี ล้อมอยู่กลางถนนห่างมาเล็กน้อยพบร่างชายนอนเสียชีวิตจมกองเลือดไหลนองเต็มพื้นถนนลาดยางสวมกางเกงขาสั้นลายและสวมเสื้อแขนสั้นลาย จากการตรวจสอบเอกสารในตัวพบบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมจุดกำแพง  อส.1442 จุดกำแพงชื่อนายฉัตรชัย  (ดรีม) หวงเอี่ยม อายุ 22 ปี สภาพร่างกายศรีษะแตก ขาขวาหักผิดรูป กระดูกต้นคอ เลือดไหลนองพื้น โดยเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยจุดกำแพงแสน ได้พบภาพที่สะเทือนใจเนื่องจากเป็นทีมงานที่ช่วยกันในการช่วยเหลือสังคมอยู่เป็นประจำ

โดยในที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้าสีขาว ยี่ห้อวีออส หมายเลขทะเบียน ฌฮ 492 กทม. สภาพจากการถูกชนด้านหน้ารถพังเสียหาย โดยมีชาย-หญิงนั่งมาด้วยกันซึ่งมีอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลในที่เกิดเหตุพร้อมทั้งให้อาสามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมจุดกำแพงทำการเก็บร่างผู้เสียชีวิตนำไปชันสูตรเบื้องต้นที่โรงพยาบาลบางเลนในส่วนรถที่ประสบอุบัติเหตุพร้อมประสานรถยกเพื่อนำรถไปเก็บไว้ที่สภ.กำแพงแสนเพื่อรอการตรวจสอบอีกครั้ง 

จากการสอบถามทราบว่าผู้ตายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากอำเภอกำแพงแสนขับมุ่งหน้าไปทางอำเภอบางเลนเพื่อไปขับรถกระบะบรรทุกกุ้งไปส่งที่แพปลาในอำเภอบางเลนส่วนรถเก๋งคันดังกล่าววิ่งมาจากบางเลนเข้ากำแพงแสน เป็นทางสวนกันซึ่งเมื่อมาถึงถนนเป็นช่วงโค้งวัดไผ่หูช้างทำให้รถเสียหลักประสานงาดังกล่าวและจุดที่เกิดเหตุมีไฟส่องสว่างไม่เพียงพอช่วงกลางคืนจะมืดมากเป็นปัญหาต่อการขับขี่ของผู้ใช้รถ 

ทั้งนี้เพื่อนกู้ภัยในทีมงานบอกว่าผู้ตายเป็นหัวเรือหลักของครอบครัวและเพิ่งมีลูกเล็กอายุเพียง 3 ขวบ โดยเป็นคนนิสัยดีเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและชอบออกปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือสังคมในการออกดูเหตุต่างๆ บ่อยครั้งในพื้นที่อำเภอกำภแพงแสน ก่อนจะมาประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้