ทะยานกันแบบไม่หยุด สำหรับตัวเลขรายได้ “สัปเหร่อ” หนึ่งในหนังจักรวาลไทบ้าน ที่ตอนนี้แตะไปเกือบๆ จะ 600 ล้านไปแล้ว เพราะนอกจากผู้กำกับจะเดินสายขอบคุณกับปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่อีกหนึ่งคนที่ถูกพูดถึงก็คือ “บักเจิด” พระเอกของเรื่อง ที่รับบทโดย “เน็ค นฤพล” จากนักร้องสังกัด แกรมมี่โกล์ด สู่ตำแหน่ง พระเอก 600 ล้าน มาพูดถึงความสำเร็จครั้งนี้ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 พร้อมเล่าเหตุการณ์ถูกผีปลุกกลางกองถ่าย รวมไปถึงถูกผู้หญิงไดเร็ก ชวนทำคลิป OnlyFans อีกด้วย

ตอนนี้ได้ฉายาว่า “พระเอก 600 ล้าน”?

“มันไม่ใช่ฝันเลย เพราะเราไม่เคยฝัน ว่ามันจะมีวันนี้ เขินทุกครั้งที่คนเรียกเราว่าพระเอก 600 ล้าน เพราะตัวละครในหนังเรื่องนี้เป็นพระเอกทุกคน และผมก็เขินทุกครั้งที่เขาบอกว่าเราคือ เดอะพระเอก เพราะก่อนหน้านี้คนก็รู้จักเราบ้าง ว่าเราเป็นนักร้อง ค่ายแกรมมี่โกลด์ ถามว่าผมภูมิใจกับตำแหน่งพระเอก 600 ล้านไหม ผมก็ขอบคุณ ผมเป็นแค่ตัวประกอบคนนึงเท่านั้น แต่ผมดีใจสุดคือแม่มาชื่นชมผม วันนั้นมีงานไปที่บุรีรัมย์ พอเราลงเครื่องมา ก็มีคนมารอเยอะ ไอ้เราก็คิดว่าเขาคงมารอคนที่จะมาแข่ง มอเตอร์จีพีที่บุรีรัมย์แน่ๆ แต่พอเราออกมาจากที่รับกระเป๋า ก็มีคนวิ่งมารุมเรา เรียกชื่อพี่เจิด แม่ก็โทรมาถามว่าเห็นลงเครื่องนานแล้ว แต่ทำไมยังมาไม่ถึงสักที ก็บอกไปว่ามีคนเข้ามารุมถ่ายรูป เราเลยถามแม่ ว่าภูมิใจไหม จากเด็กบ้านนอก ทำงานร้านสะดวกซื้อ เขาก็บอกว่าภูมิใจมากๆ” 

 

ชีวิตเปลี่ยนไปไหม?

“ผมมีผลงานเพลง คนรู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง เพลงที่ออกมาเจอโควิดพอดี ก็เลยไม่ได้มีความรู้สึกว่าเรากำลังมีกระแส แต่พอหนังออนแอร์ไป เราก็คุยกับตัวเองว่านี่ชีวิตกูจริงๆ เหรอ เดือน พย. ผมมีงานเต็มทุกวัน  บางวัน 2-3 งาน เดือน ธค. ก็จะเต็มแล้ว ไม่มีใครเรียกผมว่าเน็ค เรียกผมว่าเจิดอย่างเดียว (ยิ้ม) ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนไปจนมีถามกับตัวเอง อย่างปกติเป็นเน็ค เราไปตลาดมีคนถ่ายรูปคนนึง แค่นี้ เราเดินซื้อของ ก็มีความสุขแล้ว อย่างน้อยมีคนจำได้ แต่วันนี้มีคนเดินเข้ามาแสดงความยินดีด้วย เราก็ภูมิใจด้วย ยกมือไหว้ขอบคุณครับ เราเดินไปไหนมาไหน มีคนรู้จักเราแล้วเหรอ และมีคำพูดจากพี่มนต์แคน ว่าตอนที่เรายังไม่มีชื่อเสียง เราต้องตักตวงความสุขในแต่ละวันให้มากที่สุด แต่วันใดเรามีชื่อเสียงขึ้นมา มันจะไม่ได้พักได้ผ่อน เลยทำให้ที่ผ่านมาผมดื่มหนักมากครับ พอมาวันนี้ก็พักดื่มไปเลย” 

แต่พอดังแล้วก็โดนคุกคามทางเพศ?

“ทีแรกก็ตื่นเต้นกับการที่เขา DM มา พอเห็นข้อความปุ๊ป ก็เข้าไปดูโปรไฟล์ ปกติเราก็แค่เข้าไปตอบขอบคุณครับ แต่คนนี้ DM เข้ามาบอกว่า สนใจรับงานโอลี่แฟนหรือเปล่า อ่านไปก็สตั้น ว้าว! แปลกใหม่ มันก็น่าสนใจอยู่นะ (ยิ้ม) เราก็ศึกษามาพอสมควร (หัวเราะ) ผมก็ตอบไปว่าไม่รับครับ ซึ่งทุกคนก็รู้ว่าผมเป็นคนขี้เล่น แต่หลังจากนั้น  เขาก็ยังทักมาว่า มีหมวกให้ใส่ มีแว่นให้ใส่ ไม่ต้องกลัวหลุดนะ ทีมงานเราจะเก็บความลับให้ คนที่ดูคลิปไม่รู้แน่ๆ ว่าเป็นเน็ค แต่ถ้าผมรับ คนจะจำเล็บผมได้ (หัวเราะ ) แต่ที่แปลกๆ อีก ก็คือส่งรูปมาให้ผมดู ผมก็ว้าว มันอลังการมากครับ พอเปิดไปถ่างมาขนาดนี้เลยเหรอ ซึ่งผมไม่ได้ส่งกลับ เพราถ้าเขาเป็นโรคหัวใจ เห็นรูปที่ผมส่งกลับไป เขาตายได้เลยนะครับ (ยิ้ม) แต่ก็ลบบทสนทนาทิ้งหมดแล้ว แต่ก็จะบอกว่าเชิญชวนไม่ให้หมกหมุ่นกับเรื่องนี้ แม้ผมจะดูน่าขย้ำบ้าง แต่อย่าส่งอะไรแบบนี้มาเลย รักกันสนับสนุนผมแบบนี้ตลอดไป ไม่ใช่จะบอกว่าโอลี่แฟนไม่ดีนะ มันดี มันสามารถสร้างรายได้ให้หลายๆ คน แต่ว่าผมยังไม่รับทำครับ”  

 

เริ่มดัง สิ่งที่กลัวที่สุดคือกลัวใจตัวเอง?

“ครูสลาเคยพูดกับผมว่า ดังมาเมื่อไร สิ่งที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่คนรอบข้าง แต่มันคือใจของเราเอง  อย่างโอลี่แฟน ถ้าเราหวั่นไหวหน่อย เขาเข้ามาด้วยเหตุผลอะไร บางคนอาจจะเข้ามาด้วยเหตุผลบางประการ ถ้าเรามีแฟนแล้วก็อย่าไปเรื่อย” 

ตอนนี้หัวใจเป็นไงบ้าง?

“ตอนนี้ก็มีคนคุยๆ อยู่ ในสถานะคนคุยที่รู้ใจมากครับ คุยกันสักพักนึง เป็นคนนอกวงการ เขาเป็นคนเข้าใจผมทุกเรื่อง ผมไม่ชอบตอบไลน์ ไม่ตอบแชท ผมชอบให้โทรมา ก็เลยอยากบอกทุกคนว่ามีอะไรให้โทรมา เพราะขนาดแฟนผมแชทมา ผมยังไม่ตอบเลย (ไหนบอกว่าเป็นแค่คนคุย แต่นี่เรียกแฟนแล้ว?) เป็นคนคุยด้วยที่จะขยับเป็นแฟน เรายังไม่เหมาะกับเขา ยังไม่ได้มีเวลาไปดูแลเขา แม้ผมจะเป็นพระเอก 600 ล้าน แต่มันก็ไม่ใช่เงินผม (ยิ้ม) แต่ตอนนี้ก็กำลังจะสร้างเนื้อสร้างตัว  ซึ่งตอนเจอกันคือตอนนั้นเขาทำน้ำหกใส่รองเท้าตัวเอง เราเห็นเพื่อนเรารองเท้าเปื้อน เราก็ก้มลงไปเช็ดและถอดรองเท้าให้เขาก่อน ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้ชอบอะไรกันเลย สุดท้ายหลังๆ ได้คุยกัน เขาก็บอกว่าซีนนี้ประทับใจมากที่สุด เราเป็นคนซื่อๆ บอกว่าชอบก็ชอบเลย (เราอยากบอกอะไรเขา?) ก็ขอเก็บเงินสักพักนึง พอมีค่าสินสอด ถ้าพร้อมกันทั้งคู่ ถ้าเธอไม่มีใคร เราไม่มีใคร ก็จะให้แม่ไปขอครับ”

 

ตอนนี้เราดังมาก เขาหึงเราไหม?

“ก็น่าจะนะครับ อย่างตอนหนังดังใหม่ๆ มีน้องนักศึกษามากอดเอว เราก็เกาะไหล่ ถ่ายรูป เขาเห็นรูป ก็ทักว่า มือๆ เขาถามว่ามันต้องขนาดนี้เหรอ เราก็บอกไปว่าตามน้ำไป(ยิ้ม)” 

 

อย่างตอนถ่ายทำ “สัปเหร่อ” เห็นว่าเจอผีมาปลุกกลางกองถ่าย?

“ต้องบอกก่อนว่าหนังเรื่องนี้เขาถ่ายในสถานที่จริงๆ ป่าช้าจริง เมรุเผาศพจริงๆ วันนั้นเขาถ่ายกันอยู่ ผมง่วง ก็เลยไปนอนตรงที่เขาวางศพไว้ นอนไปสักพักนึง รู้สึกว่ามีคนมาปลุกแบบแรงมาก ตอนแรกจะไม่ลืมตา เพราะมันยังเหลืออีก 2 ฉากกว่าเราจะเข้า ซึ่งฉากนี้ต้องถ่ายทำอีกนาน และเราเป็นคนขี้เล่นด้วย นึกว่าทีมงานมาหยอกกันเฉยๆ เพราะมาเขย่าตัวเราว่าตื่นๆ พอตื่นขึ้นมาจะด่าแบบเล่นๆ ว่าคนจะนอน พอลืมตาขึ้นมา ไม่มีใครอยู่ใกล้เลย มันเพียงไม่กี่วิ เรายังรู้สึกว่ามีคนมาจับมือเพื่อให้เราตื่น จากง่วงๆ ตอนนั้น วันนั้นทั้งวันไม่นอนเลย เราก็เลยขอขมาเพราะว่าเราอาจจะมาในสถานที่ใหม่ หรือว่าก่อนหน้านั้นเราไปฉี่ เราอาจจะไปฉี่ผิดที่ก็เป็นได้”

และฉากไหนยากที่สุด?

“คือฉากที่ต้องร้องไห้ ถ้าถามว่าเราร้องได้ไหม 5-4-3-2-1 เราร้องได้ แต่ในหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับคือต้องเต พอเราร้องได้ เขาก็บอกว่าคัท เดินมาจับเข่า และพูดว่า ไอ้เน็คครับ ไม่ได้อยากได้เน็คร้องไห้ อยากได้บักเจิดร้องครับ พ่อบักเจิดตาย พ่อบักเจิดตาย เท่านั้นแหละ เราก็เก็ทเลยว่าเขาต้องการอารมณ์แบบไหน”

 

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

คลิปสัมภาษณ์ เน็ค นฤพล https:// https://youtu.be/AA3UorOnljc