วันที่ 27 ต.ค. 2566 ที่ห้องแกรนด์บอลรูม 1-2 โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ถนนราชดำริ เขตปทุมวันกรุงเทพฯ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานเปิดงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาเปิดตัว “คู่มือเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียน และมาตรฐานผลกระทบ SDG”  โดยกล่าวตอนหนึ่ง ว่า  คิดว่า คู่มือดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศไทย ไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน​ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ​มาก​ยิ่งขึ้น​  โดยปี 2065 นโยบายคาร์บอน เป็นนโยบายระดับประเทศทุกระดับรวมถึงยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี  แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และแผนและยุทธศาสตร์ของทุกกระทรวงทบวงกรม ภายใต้กติกาใหม่ของการค้าการลงทุนระหว่างประเทศและวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน

ถือเป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับการให้ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเป็นวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนและถือเป็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก  ที่กำลังจะกลายเป็นบรรทัดฐานของการทำธุรกิจและการลงทุน ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวถูกมองเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวตามบรรทัดฐานใหม่ได้อย่างทันท่วงที และอาจทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันไป อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมองสิ่งนี้ว่าเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยและภาคเอกชนในการปรับเปลี่ยนกระบวนการ ทั้งในภาคการผลิต การบริการและพลังงานการเกษตรป่าไม้รวมถึงภาคการเงิน ตลาดทุน เพื่อคงความสามารถในการแข่งขันที่ยั่งยืนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ให้กับภาคธุรกิจและประเทศไทยภายใต้บรรทัดฐานใหม่ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตและยั่งยืนเพื่อความมีเสถียรภาพอย่างแท้จริง 

นายกฯ กล่าวต่อว่า เวลานี้จำเป็นจะต้องอาศัยความร่วมมืออย่างแข่งขันและสร้างสรรค์จากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงภาคประชาสังคม และส่วนอื่นๆในระบบเศรษฐกิจ ให้เกื้อหนุนกันอย่างรอบด้าน  ซึ่งในบทบาทของภาครัฐกระทรวงการคลัง มีบทบาทสำคัญในการออกนโยบายด้านการเงินและการคลัง กำกับการดูแล เพื่อมุ่งหน้าสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในมิติเศรษฐกิจกระทรวงการคลังส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องครอบคลุมและยั่งยืนผ่านการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ เช่น การส่งเสริมการเข้าถึงการให้บริการทางการเงินผ่านสถาบันทางการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงการเปิดโอกาสให้กับผู้ประกอบการให้บริการทางการเงินประเภทใหม่อย่างพิโกไฟแนนซ์ 

นายกฯ กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังได้มอบนโยบายทางภาษีต่างๆทั้งการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในประเทศ โดยการภาษีเพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์เกษตรที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ จัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของภาครัฐและกำหนดให้ทุกหน่วยงานของภาครัฐจัดซื้อจ้างรถไฟฟ้าหรือ EV มาใช้ในส่วนราชการแทนรถยนต์เดิมๆที่จะหมดอายุลง  ​ ขณะที่การพัฒนาตลาดอยากให้ไทยเป็น ซัพพลายเชนทั้งหมด โดยได้มีการปรับไปใช้  เพื่อพัฒนาให้เราเป็นที่หนึ่งในอาเซียนซึ่งเป็นนัยยะสำคัญ 

และจากการที่ตนได้เดินทางไปในหลายๆได้เชิญให้บริษัทระดับโลกมาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งถือว่าประเทศเราเป็นต่อกว่าประเทศคู่แข่งไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย หรือเวียดนาม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีส่วนสำคัญในการผลักดันยกระดับขีดความแข่งขันของประเทศไทยให้ดีขึ้น เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทยให้ดีขึ้นในระยะยาว