"นายกฯ"เผยได้รับรายงานคนไทยในอิสราเอลเสียชีวิตเพิ่ม 2 ราย "ปานปรีย์"ระบุภาพรวมเสียชีวิต 33 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 18 ราย ย้ำเจรจาปล่อยแรงงานถูกจับ-เร่งอพยพกลับบ้าน ด้าน"กองทัพอากาศ"ขน 145 คนไทยในอิสราเอลกลับถึงไทยเรียบร้อย เตรียมบินต่อ 29 ต.ค.นี้ ขณะที่ร่าง 7 แรงงานไทยถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้วเช่นกัน 


 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 26 ต.ค.66 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล ว่า ได้รับรายงานว่ามีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน ส่วนการเจรจาก็ยังคงมีการเจรจาอยู่อย่างต่อเนื่อง

 ด้าน นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าสถานการณ์คนไทยในอิสราเอล ระหว่างเดินทางเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อย่างเป็นทางการ ว่า ล่าสุดได้รับรายงานมีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มขึ้นรวมเป็น 33 รายแล้ว ผู้บาดเจ็บ 18 คน เท่าเดิม ส่วนคนที่ถูกจับตัวไปมีการตรวจสอบแล้วอยู่ที่ 18 คน จากเดิม 19 คน โดยลดลง 1 คน เนื่องจากตัวเลขมีความคลาดเคลื่อนกับยอดผู้เสียชีวิต เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการนำยอดผู้เสียชีวิต 1 คน ไปรวมกับยอดผู้ถูกจับตัวไป จึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ซึ่งร่างผู้เสียชีวิต ขณะนี้ ทางการอิสราเอล พิสูจน์อัตลักษณ์ ยืนยันเป็นคนไทยได้แล้ว 24 คน
 
ยืนยันว่ารัฐบาลยังคงเดินหน้าอพยพคนไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการจัดทีมออกเจรจาให้การปล่อยตัวประกัน ควบคู่กันในเวลานี้ โดยไปเจรจากับประเทศที่สามารถประสานให้มีการปล่อยตัวประกันได้เร็วที่สุด
 
ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน6 เครื่องบิน A340-500 ของกองทัพอากาศเที่ยวบิน Fujairah 1 ที่เดินทางไปอพยพคนไทยในอิสราเอล เดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมี พล.อ.อ.ณรงค์ อินทชาติ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้การต้อนรับ ซึ่งผลการปฏิบัติภารกิจเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามที่กองทัพอากาศวางแผนไว้

 ทั้งนี้คนไทยในอิสราเอลที่เดินทางกลับสู่ประเทศไทยมีจำนวน 145 คน แบ่งเป็นชาย 141 คน และหญิง 4 คน โดยก่อนการเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ได้มีการตรวจร่างกายเพื่อตรวจสอบความพร้อมบินของผู้โดยสารโดยทีมแพทย์ทหารอากาศ และการตรวจความปลอดภัยก่อนขึ้นเครื่องบินโดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนอากาศยาน และมีลูกเรือดูแลอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางการบิน ซึ่งเมื่อเดินทางถึงสนามบินดอนเมือง ผู้โดยสารจะผ่านกระบวนการตรวจร่างกาย การตรวจคนเข้าเมือง การตรวจสอบสิทธิ และการให้การปรึกษาด้านกฎหมาย ก่อนเดินทางไปยังสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒย์ (สถานีกลางบางซื่อ) ต่อไป
 
สำหรับการอพยพคนไทยในเที่ยวบินต่อไป (Fujairah 2) ของกองทัพอากาศวางแผนนำ A340-500 จำนวน 1 เครื่อง ปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง ในวันที่ 29 ต.ค. เวลาในการออกเดินทางโดยประมาณ 09.00 น.
 วันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 09.50 น. เครื่องบินของสายการบินอิสราเอล เอลอัล เที่ยวบินที่ LY083 ได้ลำเลียงร่างของแรงงานไทย 7 คน ที่เสียชีวิตจากเหตุสงครามในอิสราเอล และผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากสนามบินในกรุงเทลอาวีฟ มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว โดยมีคนในครอบครัวของผู้เสียชีวิตมารอรับศพ เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดต่อไป

 โดยที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานเขตปลอดอากร ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้มีการทำพิธีไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน โดยมีนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย และตัวแทนจากทุกภาคส่วนเข้าร่วมพิธี
 
สำหรับรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้ง 7 ราย มีดังนี้  1.นายธีรพงษ์ กลางสุวรรณ ภูมิลำเนา 151 หมู่ 5 ต.หนองไผ่ อ.หนองหาร จ.อุดรธานี เดินทางไปทำงาน เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.63 2.นายพิรุฬห์ ทานนท์พิมพ์ ภูมิลำเนา 68 หมู่ 6 ต.ท่าลี อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี ไปทำงานเมื่อวันที่ 25 มี.ค.64 3.นายศักดิ์สิทธิ์ โคตมี ภูมิลำเนา 93 หมู่ 3 ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ไปทำงานในปี 61 4.นายศักดา สุรคาย ภูมิลำเนา 43 หมู่ 5 ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย ไปทำงานเมื่อวันที่ 6 ต.ค.65 5.นายอภิชาติ กุสะรัมย์ ภูมิลำเนา 131/291 หมู่ 4 ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น ไปทำงานเมื่อวันที่ 6 ก.ค.65 6.นายศรีทัศน์ กาเหว่า ภูมิลำเนา 86 หมู่ 21 ต.นาบ่อคำ อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ไปทำงานเมื่อวันที่ 11 ก.ย.65 (7.) นายนิติกร แซ่ว่าง ภูมิลำเนา 80 หมู่ 16 ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ไปทำงานเมื่อวันที่ 16 เม.ย.64