ส่งท้ายปิดสมัยประชุม!! สภาฯไฟเขียว ตั้งกมธ.ศึกษา เปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร เอ็นเตอร์เทนเมนต์ “โรม” แฉ นักการเมืองบางพรรคเก็บต๋งค่ามาพรีเซนต์งานกับกมธ.สภาฯชุดก่อน อึ้ง บริษัทหนึ่งเอี่ยวค้ามนุษย์-ยาเสพติด เจ้าของบริษัทติดคุกไทย เคยเข้ามาพรีเซนต์งานด้วย
เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2566 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานงานว่า ในช่วงเย็นของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ พิจารณาญัตติ เรื่อง ขอให้สภาฯตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ เพื่อแก้ปัญหาบ่อนการพนันผิดกฎหมาย และเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ที่มี สส.หลายพรรคเสนอ อาทิ นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นายนนท์ ไพศาลลิ้มเจริญกิจ สส.นนทบุรี พรรคก้าวไกล และนายชัชวาลล์ คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอมาทำนองเดียวกัน
ทั้งนี้ที่ประชุมเปิดให้ สส.แสงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่อภิปรายสนับสนุน โดยนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายสนับสนุนตั้งกมธ. เช่นกัน แต่ต้องขอเตือน เพราะได้ยินแว่วๆ มีการจ่ายเงินให้นักการเมืองบางท่าน เพื่อเข้ามาพรีเซนต์งานในกมธ.ลักษณะเดียวกัน ที่ตั้งในสภาผู้แทนราษฎรชุดก่อน ซึ่งกมธ.ชุดที่จะตั้งในครั้งนี้ ต้องระวังไม่ให้เกิดขึ้นอีก และมีบริษัทหนึ่งที่แถวชายแดน จ.ตาก เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ค้าอวัยวะ เจ้าของบริษัทถูกจับติดคุกในไทย สุดท้ายบริษัทนี้เคยมาพรีเซนต์งานในกมธ.ของสภาฯได้อย่างไร ถ้าไม่ควบคุม เราจะตกเป็นเครื่องมือ การเข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะ ยาเสพติด จำเป็นต้องกลั่นกรอง ผู้นั่งเป็นที่ปรึกษา ต้องมีความร่วมมือจากหน่วยงานความมั่นคง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ซ้ำรอยคราวที่แล้วอีก อย่างไรก็ตาม ตนเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า ถ้าเราเปลี่ยนจุดยืนให้ไทยมีคาสิโนได้ จะนำไปสู่การล่มสลายของบ่อนการพนันรอบประเทศไทย เงินของคนไทย จะเข้าสู่รัฐบาลไทย ใช้ประโยชน์พัฒนาประเทศต่อไป
มานายชัชวาลล์ คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า ประเทศเราทุกอย่างดีหมด แต่กลับปล่อยให้คนไทยออกไปเล่นนอกประเทศกันหมด ทำให้เราสูญเสียรายได้ไปเยอะ ตนเสนอเรื่องนี้ตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว และไปออกทีวีช่อง 9 คนไม่เห็นด้วยก็ด่ากันเยอะ แต่ตนเห็นว่าทำอะไรที่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศชาติก็จะทำ และรัฐบาลชุดที่แล้วก็ได้พิจารณาเรื่องนี้กันมาพอสมควร คิดว่าน่าจะให้มีสัก 5 แห่ง คือภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก และภาคกลาง ถ้าลงทุนแห่งเล็กๆก็ประมาณ 1 หมื่นล้าน ขนาดกลางประมาณ 5 หมื่นล้าน ขนาดใหญ่ก็ประมาณ 1 แสนล้าน จะทำให้คนไทยมีงานทำ ไม่ต้องไปหางานทำที่ตะวันออกกลางในตอนนี้ที่เกิดสงคราม ก็มีความวิตกกังวลกัน ตนคิดว่าถ้าเราทำในประเทศเรา จะมีการสร้างงานโดยที่คนไทยเราไม่ต้องออกไปทำงานในต่างประเทศ สร้างในประเทศของเราเอง
“ผมไม่ได้คุยเมื่อ 30 ปีที่แล้วมีคนมาลงทุนให้ที่ประเทศกัมพูชา แต่ผมไม่ไป เล่นในเมืองไทยดีกว่า ถูกจับก็เสียค่าปรับไป ดีกว่านำเงินไปต่างประเทศ ทำให้เวลานี้ทางประเทศกัมพูชาเจริญกว่าเรา ถ้าเราทำได้ก็จะมีรายได้เข้าประเทศมหาศาล ดังนั้นถ้ารัฐบาลกล้าตัดสินใจ ไม่ต้องกลัวอะไร ในเมื่อเราทำถูกต้อง เราไม่ได้ทุจริตหรือคดโกงใคร ไม่ต้องไปกลัวใคร ทำอะไรก็ทำ เมื่อ 30 ปีที่แล้วผมเสนอทางทีวีโดนด่าน่าดู แต่ผมไม่กลัว ผมไม่วิตกเลย เพราะถ้าคิดว่าเราทำดีแล้วไม่ต้องไปกลัวใคร ขอฝากไว้แค่นี้ ไม่ต้องดูอะไรมาก ในวันข้างหน้ามีอะไรก็รีบทำ”นายชัชวาลล์ กล่าว
จากนั้นเวลา 20.32 น. ภายหลังการอภิปรายเสร็จสิ้นเเล้ว เมื่อไม่มี สส.ผู้ใดคัดค้าน หรือเห็นเป็นอื่น นายนายวันมูหะมัดนอร์ ประธานในที่ประชุม อาศัยข้อบังคับ 88 ให้ตั้งกมธ.วิสามัญฯ ดังกล่าว จำนวน 60 คน พิจารณาศึกษาให้แล้วเสร็จ ภายใน 90 วัน จากนั้นนายวันมูหะมันอร์ ประธานในที่ประชุมได้สรุปผลงานของการประชุมสภาฯสมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. – 30 ต.ค.66 พร้อมขอบคุณสมาชิกที่ให้ความร่วมมือในการประชุมสภาฯ และวิป 2 ฝ่ายที่ประสานงานอย่างดี ทำให้การประชุมเรียบร้อยกว่า 99%
จากนั้นว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รักษาราชการเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ปิดการประชุมสมัยประชุมสภาฯ สามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง 2566 ตั้งเเต่วันที่ 31 ต.ค.2566 จากนั้นได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 20.56 น.