นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กล่าวว่า การประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 2 ที่ประชุมมีความเห็น ได้มีข้อสรุปในเรื่องรัศมีการใช้เงิน โดยให้สามารถใช้ได้ ภายในอำเภอ จากเดิมแค่รัศมี 4 กิโลเมตร เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ไม่ใหญ่เกินไป มีร้านค้าเพียงพอรองรับการใช้จ่าย
อย่างไรก็ดี ยอมรับว่า โดยยังมีความเห็นแตกต่างในเงื่อนไขอีกหลายประเทศที่ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ อาทิ เรื่องกลุ่มที่จะได้รับสิทธิ โดยมาตรการนี้มีข้อเสนอเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งก็ตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นต้องการให้คนเข้าร่วมจำนวนมากๆ อีกข้อเสนอ ก็มีข้อเสนอให้เอาคนรวยออก เพราะบอกว่ารวยแล้วจะไม่นำเงินนี้ไปใช้ในลักษณะของการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่นำเงินไปออมคณะทำงานก็ต้องพยายามหาคำจำกัดความ
ทั้งนี้ จะมีการให้คณะกรรมการตัดสินใจรวม 3 ทางเลือก คือ 1.ให้สิทธิ์เฉพาะผู้ยากไร้ ราว 15-16 ล้านคน โดยใช้ฐานข้อมูลจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณราว 1.5 แสนล้านบาท ,2.ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 25,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 1 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.3 แสนล้านบาท และ3.ตัดกลุ่มผู้มีเงินเดือนเกิน 50,000 บาท และ/หรือ มีบัญชีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทออก เหลือผู้ได้สิทธิ์ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณราว 4.9 แสนล้านบาท
"เมื่อมีความเห็นต่าง เป็นหน้าที่ คณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจ คณะอนุกรรมการ จะไปดูแต่ละกลุ่มครอบคลุมเท่าไหร่ และเสนอคณะกรรมการชุดใหญ่ตัดสินใจรายละเอียด"นาย จุลพันธ์ กล่าว