นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เผยว่า ตามที่มีประเด็นและข้อถกเถียงในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเจ้าของรถควรพกสมุดคู่มือทะเบียนรถไว้ในรถยนต์หรือไม่ และหากไม่พกสมุดคู่มือทะเบียนรถจะมีความผิดตามกฎหมายและมีค่าปรับ 2,000 บาท นั้น กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอชี้แจงว่าใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือที่ประชาชนมักเรียกว่าสมุดคู่มือทะเบียนรถ เป็นเอกสารสำคัญประจำรถที่ออกให้โดยกรมการขนส่งทางบก เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของรถและแสดงรายละเอียดของตัวรถ เช่น ชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ของรถ (เจ้าของรถ) ยี่ห้อของรถ หมายเลขตัวรถ รวมถึงประวัติการโอนรถและเสียภาษีประจำปี ฯลฯ โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สำคัญที่ต้องมีติดรถไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานเมื่อเรียกผู้ขับรถตรวจสอบ

แต่ทั้งนี้การเก็บใบคู่มือจดทะเบียนรถฉบับจริง ใบอนุญาตขับรถ รวมทั้งบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถไว้ในรถ ก็เสี่ยงถูกมิจฉาชีพลักขโมยเอาไปกระทำการโดยมิชอบ เช่น ปลอมแปลงเพื่อสวมทะเบียน  หรือเสี่ยงที่เอกสารสำคัญดังกล่าวจะสูญหายได้เช่นกัน โดยกรมฯแนะนำให้เจ้าของรถพกสำเนาใบคู่มือจดทะเบียนรถ (หน้าที่ปรากฏชื่อเจ้าของรถและรายละเอียดตัวรถ) แทนฉบับจริงไว้ในรถ รวมถึงต้องติดแผ่นป้ายทะเบียนและเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) ให้ถูกต้อง เห็นได้อย่างชัดเจน เพื่อใช้เป็นหลักฐานแสดงต่อเจ้าพนักงานหากถูกเรียกตรวจสอบ  

รองอธิบดีกรมขนส่งฯ กล่าวว่า หากผู้ขับรถไม่แสดงใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือสำเนาต่อเจ้าพนักงานที่เรียกตรวจสอบขณะขับรถ มีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 42 ผู้ขับรถต้องได้รับใบอนุญาตขับรถและต้องมีใบอนุญาตขับรถและสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถในขณะขับรถเพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที

ทั้งนี้หากผู้ใดขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาตขับรถและสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท รวมถึงผู้ขับรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนและไม่มีเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) จะมีความผิด มาตรา 11 รถที่จดทะเบียนแล้ว ต้องมีและแสดงแผ่นป้ายและเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี (ป้ายวงกลม) เพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงานได้ทันที หากผู้ใดไม่จัดให้รถที่จดทะเบียนแล้วมีและแสดงแผ่นป้ายและเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปี  ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท 

"กรมขนส่งฯดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล กระทรวงคมนาคม ในการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐให้เป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยในปี พ.ศ.2567 กรมขนส่งฯ มีแผนพัฒนาแอปพลิเคชันDLT Vehicle Taxให้สามารถแสดงใบคู่มือจดทะเบียนรถและเครื่องหมายการเสียภาษีประจำปีทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น"