กรณีพยาบาลสาวรายหนึ่งพบรักกับตำรวจตระเวนชายแดน โดยคบหาดูใจกัน ยังไม่ได้จัดงานแต่ง แต่จดทะเบียนสมรสเรียบร้อย ต่อมาฝ่ายหญิงแฉว่าถูกฝ่ายชายข่มขู่จะเอาคลิปลับของเธอไปลงในช่องทางไลน์ของกลุ่มตร. พร้อมบอกขอมีเมียน้อย ทนไม่ไหวจึงขอแยกทาง ผวากลัวคลิปลับจะหลุดออกมา ขณะที่ฝ่ายชายออกมาโต้กลับหนังคนละม้วน ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง แฉกลับจับได้ว่าฝ่ายหญิงนอกใจทั้งที่ยังไม่จดทะเบียนหย่า  

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 24 ต.ค. 66  ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์สองมุม บุ๋ม ฝ่ายหญิง และ อาร์ต ฝ่ายชาย

ไม่เจอกันนานหรือยัง?

บุ๋ม : ประมาณเดือนสองเดือนได้ที่ไม่คุยกันเลย แต่ก่อนหน้านั้นก็คุยกันบ้าง ในเฟซเขาก็บล็อกหนูค่ะ

เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?

บุ๋ม : รู้จักปี 59 หนูบรรจุเป็นข้าราชการที่รพ.แห่งหนึ่ง เป็นสถานที่คนละรพ.ที่ทำงานครั้งแรก ส่วนฝ่ายชายไปช่วยข้าราชการ ช่วงนั้นเขามีข้อพิพาธระหว่างเขมรกับไทย ก็ไปเล่นเฟซบุ๊กแล้วไปเจอโปรไฟล์เขา หนูไปกดไลก์ให้เขา เขาก็ทักมา ทำให้ได้คุยกัน แล้วก็นัดไปเที่ยวอาทิตย์แรกที่แม่กำปอง เชียงใหม่ด้วยกัน

จากนั้นคบหากัน?

บุ๋ม : คบหากันค่ะ

ตอนนั้นคุณไม่ได้มีใคร?

บุ๋ม : หนูอกหักพอดี หนูเพิ่งเลิกกับแฟนเก่า เขาก็เพิ่งเลิกกับแฟนเก่าเหมือนกัน เริ่มคบหากันปี 59 เราก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ตอนแรกย้ายไปอยู่ในบ้านสวนที่อุบลราชธานี แล้วจัดงานหมั้นปี 64

เลิกเมื่อไหร่?

บุ๋ม : เลิกต้นปีนี้ค่ะ ปี 66

6 ปีที่คบหากัน จากนั้นมีการพูดคุยกัน แล้วตกลงผูกข้อไม้ข้อมือ จดทะเบียนสมรสมั้ย?

บุ๋ม : จดทะเบียนสมรสค่ะ จดมะเบียนสมรสก่อนที่จะจัดงานหมั้น

ผู้ใหญ่สองฝั่งรับรู้กันหมด แต่งานแต่งยังไม่ได้จัด?

บุ๋ม : เราคุยกันว่าจะจัดงานแต่งวันที่ 11 พ.ย. ปี 65 ทีนี้เขาขอเลื่อนงานแต่ง จากที่ตกลงกับญาติหนูไว้ ขอเลื่อนไปเป็นปี 66 เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดด้วย แล้วเขาบอกว่าเงินที่เตรียมไว้จะจัดงานแต่ง

เท่าไหร่?

บุ๋ม : ขอเอาไปลงทุนทำฟิตเนส แต่ง 7 แสน ทอง 10 บาท แหวนเพชร 1 วง ต่างหูเพชร 1 คู่ เงินหมั้นอีกแสนนึงแปดแสน

รวมเงินประมาณ?

บุ๋ม : ล้านกว่าบาท 

เขาบอกเอาเงินไปทำอะไร?

บุ๋ม : ขอไปลงทุนทำฟิตเนสก่อนได้มั้ย พอมีรายได้ค่อยจัดงานแต่งก็ได้ หนูก็ไม่ได้มองว่าต้องรีบจัดงานแต่งหรืออะไร หนูก็ปรึกษาครอบครัว ว่าอาร์ตมาพูดแบบนี้นะ ขอนำเงินไปลงทุนทำฟิตเนศก่อน ขอเลื่อนงานแต่งเป็นปี 66 จริงๆ ตอนแรกญาติผู้ใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย

รวมๆ ก็ 1.2 ล้านที่เขาบอกจะให้เรา?

บุ๋ม : เขาให้แหวนเพชรกับต่างหูเพชรมาแล้ว กับเงินหมั้น 1 แสน เหลือเงินสินสอด 7 แสน กับทองอีก 10 บาท

เขาเอาตรงส่วนไหนไปทำฟิตเนส?

บุ๋ม : เงินที่เขาเตรียมไว้จะแต่งงานค่ะ เขาลงทุนไปประมาณ 1.2 ล้าน

หลังทำฟิตเนสเป็นยังไง?

บุ๋ม : ตอนแรกก็เป็นความรักที่ดีมากค่ะ เราคบกันมาก็มีความสุขดี ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักทั่วไป หนูลงรูปแฟนแทบจะทุกวัน เพิ่งลบออกหลังเลิกกัน ความสัมพันธ์ของหนูกับเขาราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่มีปัญหาเรื่องแม่เข้ามา เหมือนในละคร

แม่เป็นยังไง?

บุ๋ม : ต้องบอกว่าญาติฝั่งเขาดีกับหนูหมดเลย ยกเว้นแม่เขา (ร้องไห้) วันที่ไปจัดงานหมั้นแม่เขาไม่ยอมออกมาจากห้อง เขาบอกว่าเขาเหม็นกลิ่นคั่วกระเทียม เขาบอกเขาไม่สบาย เขาป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แม่เหม็น ไม่ยอมออกมาเจอญาติ แต่อาร์ตก็รบเร้าให้แม่ออกมาเจอญาติฝั่งหนู พอเจอญาติฝั่งหนู เขาก็พูดกับญาติฝั่งหนูว่าจริงๆ เขาไม่ได้อยากให้ลูกเขาแต่งกับหนู (ร้องไห้) แต่ลูกเขาพูดไม่ฟัง เขาก็ต้องเลยตามเลย เงินที่คุยกันเรื่องงานหมั้น งานแต่ง พวกหนูคุยกันเอง ไม่ได้ให้ญาติผู้ใหญ่ตกลงกัน ความสัมพันธ์ของหนูกับเขาก็ดำเนินมา ทีนี้ทุกครั้งแม่เขาจะบอกว่าเขาไม่สบาย แม่ต้องการอะไรก็จะบอกว่าไม่สบาย

แม่เรียกลูกกลับไปตลอด เหมือนแย่งผัวเราให้ไปหาแม่?

บุ๋ม :   ไม่ค่ะ หนูเข้าใจ ทุกคนรักแม่  แม่เขาเขาก็รัก หนูเข้าใจ หนูก็พยายามรักเขาเหมือนแม่คนนึง ทีนี้แม่เขาบอกว่าไปตามนัดที่รพ.ทุกเดือน ขอเงินกับอาร์ตทุกครั้งที่ไปรพ. โดยให้เหตุผลว่าสิทธิ์เบิกจ่ายตรงไม่ครอบคลุมกับการตรวจของแม่ ซึ่งหนูเป็นเจ้าหน้าที่ในองค์กร หนูพอรู้ แต่หนูไม่ก้าวก่าย เพราะหนูรู้สึกว่าเป็นเรื่องครอบครัว แม่เขา เขาก็รัก ทุกครั้งที่แม่เขาไปรพ. จ่ายเท่าไหร่ หนูหารครึ่งให้ตลอด เพราะหนูรู้สึกว่ารักเขาเหมือนแม่ แต่พอกลับมา ลูกถามว่าหมอให้ยาอะไรบ้าง เป็นอะไรบ้างเขาตอบไม่ได้ หนูด้วยความเป็นลูกสะใภ้ ก็เข้าใจว่าคนแก่อาจไม่รู้ หนูเลยบอกไม่เป็นไร หนูโทรถามเพื่อนให้ หนูก็โทรถามเพื่อนว่าคนไข้ชื่อนี้ๆ เช็กให้หน่อยได้มั้ย รอบหน้าฟอลโลอัปเมื่อไหร่ มียาอะไร ป่วยเป็นอะไร เพื่อนหนูบอกว่าแก คนไข้ไม่ได้เป็นมะเร็ง หนูดีใจมากเลย หนูก็โทรหาอาร์ต บอกว่าแม่เข้าใจผิดนะ แม่ไม่ได้เป็นมะเร็ง ในใจหนูคิดว่าเป็นข่าวที่ดีมาก หนูควรได้รับคำชม อาร์ตก็ดีใจว่าแม่ไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่กลายเป็นว่าแม่เขาอาละวาดบ้านแตกเลย ว่าหนูสาระแน (ร้องไห้) เขาบอกว่าจะไปรู้อะไร เป็นแค่พยาบาล เขาไปตรวจเจอที่ลำปาง แต่แม่บอกว่าเข้าคีโมแล้วผมร่วง ต้องไปบวชที่เชียงใหม่

เรื่องแม่เกี่ยวอะไรกับเขา?

บุ๋ม : เกี่ยวค่ะ เพราะความสัมพันธ์มันพังลง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะแม่ ทุกคนรักแม่ แม่เขามายืนด่าหนูที่ฟิตเนส (ร้องไห้) กูอุ้มท้องลูกกูมา 9 เดือน มึงเป็นใครมาเสี้ยมลูกกู (ร้องไห้) ตอนนั้นหนูหวังดี หนูเข้าใจว่าเป็นข่าวที่ดีมาก เท่านั้นไม่พอ เขาบอกว่าหนูทำของใส่ลูกเขา จะเอามีดมาแทงหนู (ร้องไห้) หนูถามว่าเหตุผลอะไรทำให้แม่เข้าใจว่าหนูทำของใส่ลูกแม่ เขาบอกว่าหนูตากกางเกงในไว้ชั้น 2 (ร้องไห้) ฟิตเนสเป็นอาคารที่เอาไปตากข้างนอกไม่ได้ แล้วชั้น 2 เป็นดาดฟ้า หนูก็เอาไปตากไว้ที่ชั้น 2 แล้วที่หนูเสียใจมากในความสัมพันธ์ครั้งนี้ คือแม่จะเอามีดมาแทงหนู (ร้องไห้) แทงมาครั้งนึงแล้ว แต่หนูหลบทัน

อาร์ตรู้มั้ย?

อาร์ต : แม่ไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนั้น

บุ๋ม : ไม่เป็นไรค่ะ เขาจะพูดอะไรก็ได้ เขาเอามีดมาแทงหนูครั้งนึง แต่หนูหลบเลยไม่โดนที่โต๊ะกินข้าว ครั้งที่สองเขาจะวิ่งมาแทงอีก อาร์ตเป็นคนไปดึงไว้ หนูก็วิ่งไปอยู่ในห้องและโทรหาครอบครัว ยายหนูเพิ่งตาย เพิ่งรับศพมาจากศรีสะเกษ ต้องเอาศพมาวางไว้ที่บ้าน (ร้องไห้) ยังไม่ได้จัดการศพอะไร เขามาหาหนูที่อุบลฯ ก่อน ญาติหนูถามว่าเกิดอะไรขึ้น อาร์ตบอกญาติหนูว่าเพราะหนูจะเอาขวดไปตีแม่เขาก่อน แม่เขาถึงเอามีดมาแทงหนู (ร้องไห้)

หลังเขาเอาเงิน 1.2 ล้านทำฟิตเนสแล้วเป็นยังไง?

บุ๋ม : ธุรกิจเริ่มมีรายได้ มีมูลค่า พฤติกรรมเขาเริ่มเปลี่ยนไป แรกๆ หนูยืนยันเลยว่าเราทำมาด้วยกันทั้งหมด ตั้งแต่เซ็นเอกสาร ถมที่ดิน ถางป่า ทำทุกอย่างมาด้วยกัน พอธุรกิจมีรายได้ รายได้เริ่มแตะแสน ตอนแรกหนูเป็นแอดมิจเพจกับเขาและดูแลกิจการทั้งหมด หลังๆ มาอาร์ตเด้งหนูออกจากการเป็นแอดมิน หนูเคยถามเขา เขาบอกว่าไม่อยากให้หนูมายุ่ง ปกติหนูเช็กยอดว่าแต่ละวันมีรายได้เท่าไหร่ เขาก็ไม่ให้หนูไปยุ่งที่เคาน์เตอร์ และขอหนูว่าถ้าจะมาฟิตเนสห้ามใส่ชุดพยาบาลมา เดี๋ยวคนมาฟิตเนสจะรู้ว่าเป็นหนู ให้ใส่ชุดธรรมดาและให้มาหลังสองทุ่ม ไม่ให้หนูไปออกกำลังกายในฟิตเนส ให้หนูอยู่แค่ในตัวบ้านที่ฟิตเนส พฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากประสบความสำเร็จ

อาร์ตก็ออกกำลังกายอยู่ที่นั่นด้วย?

บุ๋ม : แต่เขาไม่ให้หนูใช้ฟิตเนส

ผู้หญิงชื่นชอบเขามั้ย?

บุ๋ม : เขาส่งรูปมาให้หนูเองว่ามีผู้หญิงเข้าหาเขา เขาส่งมาหมดเลย แต่เขาเปลี่ยนไป

ยืนยันว่าเขาพูดเรื่องแม่ไม่จริง?

อาร์ต : ไม่จริงครับ  

ความสัมพันธ์จบตอนไหน?

บุ๋ม : แม่เขาเอามีดมาแทงหนู แล้วหนูให้ญาติมารับกลับไป แม่เขาบอกว่าถ้าหนูยังอยากคบกับอาร์ตต่อให้หนูไปกราบเท้าเขา เพราะว่าหนูผิด ป้าหนูถามว่าจะทำมั้ย หนูบอกว่าถ้าทำแสดงว่าหนูรับผิด แต่ถ้าให้หนูทำเพราะหนูเป็นลูกสะใภ้ หนูเป็นเด็กหนูจะทำแต่ถ้าให้ทำเพราะบีบบังคับให้หนูรับผิดหนูไม่ทำ เพราะมันไม่ใช่ ป้าก็ถามว่าจะทำมั้ย แต่มีคำนึงที่จี้ใจญาติฝั่งหนู เขาบอกว่าหนูแค่ลูกชาวนา เป็นแค่พยาบาล เงินเดือนก็แค่นั้น (เสียงสั่นเครือ) ญาติหนูที่ไปด้วย ยายหนูน้ำตาไหลเลย บอกว่าก็เลี้ยงเรามาด้วยความรัก ภูมิใจในตัวหลาน (ร้องไห้) ถ้าทางแม่อาร์ตว่าไม่ดีพอ เป็นแค่ลูกชาวนา ทางเราก็จะเอาเรากลับ วันนั้นหนูก็ขนของกลับเลยค่ะ (ร้องไห้) ไม่ได้ขอโทษ แต่หนูไปแจ้งความข้อหาพยายามฆ่า เพราะญาติหนูบอกว่ากลัวเขาจะมาคุกคาม เพราะพฤติกรรมก้าวร้าวมาก ขึ้นมึงกู ชี้หน้า

ทำไมถึงเลิกกับเขา?

บุ๋ม : ตอนนั้นเขายังไม่มีผู้หญิงอื่นค่ะ มามีตอนที่หย่ากันแล้ว แล้วเขาขอให้หนูกลับไป

พอแจ้งความแม่เขา แล้วเกิดเหตุการณ์อะไร?

บุ๋ม : เขาโทรหาหนูก่อนที่จะหย่า ช่วงนั้นหนูน้ำหนักลดไป 6 กิโล กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ทำงานแทบไม่มีจิตวิญญาณ หนูไม่กินข้าวจนเพื่อนร่วมงานซื้อข้าวมาให้ เขาโทรหาหนูบอกว่ามึงออกจากชีวิตกูได้มั้ย กูเจอคนที่ดีกว่ามึงแล้ว คนที่คู่ควร มึงไม่คู่ควร (ร้องไห้) มึงเป็นแค่พยาบาล มึงไม่สวย (ร้องไห้) ไม่มีอะไรดี เขาทั้งหล่อและรวย เขามีทุกอย่างในชีวิต เขาบอกเขาจะเริ่มต้นกับคนใหม่ จะพาคนใหม่มาฟิตเนส มาบ้าน เขามาไม่ได้เพราะเต็มไปด้วยของๆ หนู มึงช่วยหย่ากับกูได้มั้ย (ร้องไห้) ตอนนั้นหนูไม่อยากหย่า เพราะหนูรักเขา หนูก็ยืนยันว่าไม่อยากหย่า หนูยื้อจนไม่รู้จะยื้อยังไง ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไง หนูเจ็บจนหนูเริ่มซึมเศร้า หนูเริ่มมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย หนูคุยกับแม่ก็เลยตกลงกันว่าให้เขามาหย่า พอหนูหย่าตอนบ่าย เย็นมาเขาก็มาง้อ แต่เขาไม่เจอหนู เขามาตามที่หอ ที่บ้าน ที่ทำงาน หนูเลยคิดว่าถ้าเขายังรักหนู ทำไมเขาถึงทำกับหนูตอนนั้น เขาทำเหมือนเขารักมาก มาร้องห่มร้องไห้ให้หนูกลับไป เขาบอกว่าถ้าหนูไม่สบายใจไปอยู่กับแม่ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปอยู่ที่อื่น เช่าหอให้อยู่ก็ได้ หนูก็ถามว่าทำไมเขาถึงบอกกับญาติหนูว่าหนูยกขวดใส่เขาก่อน เขาบอกว่าเขาขอโทษ เขาเห็นญาติหนูมาเยอะ เขากลัวว่าญาติหนูจะว่าแม่เขา หนูก็ไปปรึกษาแม่หนู แม่หนูบอกว่าคนเราพลาดกันได้ เราควรให้โอกาสเขาครั้งนึง หนูก็ให้โอกาสและกลับไป

หย่าไปแล้วนะ?

บุ๋ม : หย่าไปแล้ว สองวัน พอหนูกลับไป เขาบอกว่าหนูต้องยอมรับนะ เพราะหนูมีคนอื่น หนูยืนยันว่าเรื่องความสัมพันธ์เกิดหลังจากที่หย่า ส่วนของเขาเขายืนยันว่าหนูมีก่อน

หมายความว่า พอหย่ากัน คุณไปมีคนอื่น?

บุ๋ม : ก็หนูหย่าแล้ว

สองวัน?

บุ๋ม : ใช่ค่ะ ก่อนหน้านั้นมีคุยในฐานะเพื่อนค่ะ

พอหย่าก็เปลี่ยนสถานะเลย?

บุ๋ม : หนูก็คุยกับเขาค่ะ

วันที่ 3 เขามาง้อ เขาบอกว่ากลับมาอาจไม่เหมือนเดิม เพราะเขารู้ว่าคุณมีคนอื่น?

บุ๋ม : เขาบอกว่าเขาจะมีคนอื่นเหมือนกัน หนูต้องยอมรับนะ เพราะหนูมีคนอื่น ถ้าหนูกลับมาอยู่ตรงนี้ เขาก็จะมีเมียน้อย

หย่าสองวันคุณมีคุณอื่น?

บุ๋ม : เพราะหนูหย่าแล้ว หนูจะเริ่มต้นใหม่ก็ไม่แปลก เพราะหนูผ่านความเสียใจมา 4 เดือนแล้ว

จากนั้นยังไงต่อ?

บุ๋ม :   เขาก็ส่งรูปผู้หญิงอื่นมาเรื่อยๆ จนหนูรู้สึกว่าไม่โอเค ถ้าเขาไม่รักหนูไม่เป็นไร ถ้าคิดว่าไม่ดีพอไม่เป็นไร เลิกกับหนูไปเจอคนที่คู่ควรได้เลย หนูบอกว่าหนูรักเขา แต่จะปล่อยให้เขาไปเริ่มต้นใหม่ อย่าทำร้ายกัน เพื่อย่ำยีจิตใจหนูแบบนั้น พอหนูจะเริ่มต้นกับใครใหม่เขาก็ตามระรานหมดเลย

อาร์ต  เข้าเรื่องแม่เลย ปัญหาเกิดอะไรขึ้น?

อาร์ต : จากกรณีแฟนเก่าผมบอกว่าแม่ไม่ได้ป่วย จริงๆ แม่ป่วยจริง ได้รับการผ่าตัดอยู่รพ. ประมาณ 4 รอบ ป่วยจริง ผ่าคอ ผ่าท้อง เพราะมีก้อนเนื้อแข็งๆ คล้ายมะเร็ง ที่เขาบอกว่าแม่ถือมีดไปแทงเขาไม่เป็นความจริงนะครับ ปกติที่ผ่านมา ผัวเมียอยู่ด้วยกันก็มีทะเลาะเบาะแว้งเป็นธรรมดา แม่ผมก็ไม่ใช่คนทำอะไรแบบนั้น ถ้าเขากล่าวหาว่าแม่ผมทำ ก็ให้เขาแสดงหลักฐานออกมา ไม่ใช่พูดลอยๆ ออกมาแบบนี้

มีหลักฐานมั้ย?

บุ๋ม : มีพยานบุคคล เป็นคนที่เคยร่วมทำฟิตเนสกับเขา เขาอยู่ในเหตุการณ์ ไปแจ้งความ คนนี้เป็นพยาน

อาร์ต : ตร.รับทำคดีมั้ย

บุ๋ม : เขาลงบันทึกประจำวัน เพราะเขาคิดว่าเป็นเรื่องผัวเมีย แต่ญาติหนูมาด้วย เป็นพยานในเหตุการณ์ตอนทะเลาะกัน ตอนแทงมีอาร์ตอยู่ในเหตุการณ์

อาร์ต : ไม่เป็นความจริงครับ แม่ไม่เคยถือมีดแทง แม่อายุ 50 กว่า ไม่ค่อยแข็งแรง ได้รับการผ่าตัดตั้งหลายครั้ง  

 

คุณเอาเงิน 1.2 ล้านไปเปิดฟิตเนสจริงมั้ย?

อาร์ต : เงิน 1.2 ล้านมาจากผมกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจครับ

เป็นเงินที่จะเอาไปแต่งงานกับเขามั้ย?

อาร์ต : ไม่ใช่ครับ กู้มาลงทุนครับ

แล้วเงินที่จะไปแต่งเขาต่างหาก?

อาร์ต : ผมบอกเขาว่าหลังกิจการฟิตเนสเจริญรุ่งเรือง ผมจะเก็บเงินไปแต่งเขาทีหลัง แต่ก็เกิดเหตุการณ์เขาไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นก่อน

ระหว่างที่มีทะเบียนสมรสเหรอ?

อาร์ต : ใช่ครับ เปิดแชตที่ผู้หญิงคุยกับผู้ชายได้เลย

คุณได้มาจากไหน?

อาร์ต : ผมได้จากโทรศัพท์เขา ผมถ่ายไว้เมื่อวันที่ 15 ก.พ.

อันนี้คือตอนที่?

อาร์ต : มีผมอยู่ และเขาก็แอบคุยกัน วันที่ 19 ก.พ. ก็มีแชตที่คุยกันช่วงก.พ. 25 ก.พ. ฝ่ายหญิงลงสตอรี่กับผู้ชาย

คุณหย่ายัง?

อาร์ต : ยังไม่หย่า หย่าวันที่ 8 มี.ค. แต่เขามีพูดคุยกันก่อน แล้วมีบันทึกเสียงคำรับสารภาพของผู้ชายด้วย เปิดบันทึกเสียงเลยครับ

คลิปเสียงถามว่าได้กันกี่ครั้ง ผู้ชายบอกว่าได้ครั้งเดียว ผิดก็ยอมรับ ถ้ารู้ก่อนคงไม่ไป?

อาร์ต : นี่ผมคุยกับผู้ชาย และมีแชตที่คุยกับผู้ชาย

เขาบอกไม่รู้ว่ามีทะเบียน?

อาร์ต : แต่ผู้หญิงบอกว่าเขาโสด มีที่ผู้หญิงรับสารภาพด้วย

หลายคนอาจมองว่าเป็นผู้ชายทำไมเอาเรื่องมาเปิด มันเป็นไทม์ไลน์ และปกป้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง?

อาร์ต : เพราะเขาหาว่าผมขอมีเมียน้อย ส่งรูปผู้หญิงคนอื่นให้เขาดู ผมก็เลยต้องเล่าไทม์ไลน์แรกให้ฟังก่อน เรื่องไปแจ้งความแม่ไม่มีมูลความจริง

บุ๋ม : ไม่ใช่ไม่มีมูลความจริง อาร์ตโทรมาขู่หนูบอกว่าถ้าสมมติหนูไม่ถอนแจ้งความ เขาจะตามมายิงทั้งพ่อแม่หนู

อาร์ต : ผมไม่เคยพูดครับ

บุ๋ม : หนูมีแชตค่ะ

อาร์ต : ดูเวลาและวันที่ด้วยนะ

อาร์ตคุยกับผู้ชายเดือนก.พ. จับได้ว่าคุยกับผู้ชายคนอื่นและไปบอกว่ารัก หย่าเดือนมี.ค. แล้วคุยเคลียร์ใจกับผู้ชาย ?

อาร์ต : หลังจับได้ ผมก็ร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน ประมาณ 3-4 เดือนกว่าจะทำใจได้ ผมให้โอกาสฝ่ายหญิงหนึ่งครั้งแล้ว ไม่พอ ยังมีครั้งที่สอง ที่สาม จนผมบอกว่าผมทนไม่ไหวแล้ว ทนความเสียใจไม่ได้แล้ว ต้องมูฟออนแล้ว ผมก็เลยต้องมีแฟนใหม่ รูปผู้หญิงที่ผมส่งให้เขา คือแฟนใหม่ เกิดขึ้นหลังจากหย่า 3-4 เดือน

ช่วงหย่าคุณตามง้อเขามั้ย?

อาร์ต : ง้อครับ เพราะเขาก็ขอโอกาสจากผม ผมก็ให้โอกาส

บุ๋ม : เขาบีบบังคับให้หนูโทรหาต้น ผู้ชายกรณี แล้วให้บอกต้นว่าหนูเลือกเขา 

อาร์ต : อย่าไปพูดถึงบุคคลที่สามดิ

บุ๋ม : หนูหย่ากับเขา วันที่ 8 ช่วงบ่าย หนูก็ไปหาต้นเลย แล้วส่งใบหย่าให้เขาว่าหนูหย่าแล้ว หนูบอกว่าหนูไม่ไหวจริงๆ เขาบอกว่าถ้าไม่ไหวก็มาเขาก็ได้ หนูเดินทางไปหาต้น แต่อาร์ตตามมาง้อ

ตกลงใครง้อใคร?

อาร์ต : ผมไปหาฝ่ายหญิง ผมยอมรับว่ารักฝ่ายหญิงมาก ผมก็ให้โอกาสเขา เขาก็ขอโอกาสจากผม ไม่ใช่ผมง้อเขาอยู่ฝ่ายเดียว

บุ๋ม : หนูบอกเขาว่าหนูมีคนใหม่แล้วนะ ความสัมพันธ์ถึงขั้นนี้ เขาบอกว่าเขารับได้ ถ้าหนูกลับมาเขาจะไม่พูดเรื่องต้น จะไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ เรามาเริ่มต้นกันใหม่

อาร์ต : ยอมรับว่าพูดจริง นั่นคือผมให้โอกาสเขา

บุ๋ม : พอหนูกลับไป อาร์ตไปเที่ยวทุกวัน

อาร์ต : ก่อนไปเที่ยว 4 เดือนหลังจากนั้น ช่วงเขาไปมีคนอื่นก่อน ผมให้โอกาสเขาก็ไม่ได้ไปไหน จนเขาทำครั้งที่สอง ผมมีหลักฐานชัดเจน มีรูปที่เขาอยู่ด้วยกัน ผมไปถ่ายเขาอยู่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง

บุ๋ม : ไม่ใช่ ตัวเองต้องพูดให้จบ ที่ไปคุยกับบุคคลที่สามตอนแรกเขายอมรับเขาคุยจริง เพราะตัวเองให้เขาออกจากชีวิต เพราะบอกว่าเขาไม่ดีพอ

อาร์ต : ถ้าอยากให้ตัวเองออกจากชีวิต แล้วเขาจะไปตามง้อทำไม

บุ๋ม : ถึงไม่เข้าใจไงว่าตัวเองทำแบบนั้นทำไม

อาร์ต : ผมไม่เคยขอให้เขาออกจากชีวิตนะครับ แม้แต่เขามีชู้ ผมยังให้โอกาส

บุ๋ม : ตัวเองจะใช้คำว่ามีชู้ไม่ได้ค่ะ ยอมรับว่าคุยกับต้นมาก่อน แต่ความสัมพันธ์เกิดหลังจากหย่า

อาร์ต : ไม่จริงครับ

บุ๋ม : ตัวเองถามนำต้น บอกต้นเองถ้าต้นตอบแบบนี้ จะลดร้ายให้กลายเป็นดี จะไม่เอาเงินจากต้น จะไม่ระราน จะพูดว่ามีชู้ไม่ได้

อาร์ต : พูดได้ เพราะมีจริงๆ

บุ๋ม : หนูคุยมาก่อนหน้านั้น หนูยอมรับเพราะหนูเสียใจมา 4 เดือนแล้ว แต่ความสัมพันธ์เริ่มต้นความสัมพันธ์หลังหย่า

ที่บอกว่ารักผู้ชายคนนั้นล่ะ?

บุ๋ม : อันนั้นคุยก่อน หนูยอมรับค่ะ

ถือว่ามีชู้มั้ย?

อาร์ต : การคุยกันลักษณะนั้น คุยทำนองชู้สาวแล้วครับ ฝ่ายชายก็ยอมรับ

บุ๋ม : หนูหย่ากับเขาวันที่ 8 ค่ะ แล้วหนูคุยกับต้นก่อน หนูยอมรับ หนูส่งทะเบียนหย่าให้ต้นวันนั้นเลย และไปหาต้นวันนั้นเลย แล้วอาร์ตก็มาตามหาหนูที่ทำงาน ที่หอ ที่บ้าน พอหนูกลับมาหอเขาก็ตามาเจอที่หอ มาร้องห่มร้องไห้ ถามว่าหนูมีคนอื่นหรือยัง หนูบอกว่ามีแล้ว เขาก็บอกให้กลับไปเป็นเหมือนเดิมได้มั้ย เขาขอโทษทุกอย่าง ขอโทษเรื่องแม่ จะไม่บังคับให้หนูต้องอดทนเจออะไรแบบนั้นแล้ว ถ้าไม่สบายใจที่จะโดนกดขี่ข่มเหงก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกันก็ได้ ถ้าไม่อยากไปอยู่ฟิตเนส ก็ไปอยู่ที่ห้องก็ได้ ไปเช่าห้องให้อยู่ หนูไปปรึกษากับแม่ แม่บอกควรให้โอกาสเขา 1 ครั้งหนูถึงกลับไป แต่ว่าที่เขาคุยกับต้นคุยวันที่ 10 หนูส่งใบหย่าให้ต้นวันที่ 8 ช่วงบ่ายหนูเดินทางไปต่างจังหวัดหลังหย่าเลย พอกลับไปเขาก็บอกว่าหนูต้องยอมรับเพราะหนูมีคนอื่น เขาก็จะมีคนอื่นเหมือนกัน จากนั้นเขาก็ไปเที่ยวทุกวัน กลับมาตีสองตีสามก็ส่งรูปผู้หญิงที่เขาไปด้วยกันมา มีทั้งรูปที่เขาไปเปิดโรงแรม รูปกินข้าวด้วยกัน หนูเลยนั่งคุยกับเขาโดยไม่ทะเลาะว่าหนูไม่ไหว หนูยังรักเขาอยู่ แต่หนูอยู่แบบนี้ไม่ได้ มันทรมาน ถ้าเขาไม่รักหนูไม่เป็นไร เริ่มต้นใหม่ได้เลย

อาร์ต : หลังจากที่เขามีความสัมพันธ์กับคนอื่น ผมให้โอกาสเขาไปแล้วครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สองก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิม ประมาณ 4 เดือนหลังจากนั้นผมบอกว่าผมไม่ไหวแล้วนะ ผมต้องมีคนอื่นแล้วนะถ้าตัวเองไม่เปลี่ยนนิสัย ผมก็ต้องมีแฟนใหม่แล้ว เพื่อมูฟออนจากจุดนั้นไม่ได้ เพราะตื่นเช้ามานึกถึงเรื่องนั้นทีไร น้ำตาผมก็ไหลทุกวัน ก็จะมีแชตข้อความที่ผมจะให้เขาเดือนละหมื่น เพื่อให้เขาเปลี่ยนนิสัยก็มี

บุ๋ม : ไม่ใช่

อาร์ต : หลักฐานมีครับ เขาพูดเอาดีใส่ตัว ทั้งที่เขาไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่นก่อน เขาไม่เห็นใจเลยว่าผมต้องเจอกับอะไรบ้าง หลายเดือนที่ผ่านมา

คุณส่งรูปผู้หญิงให้เขาดูมั้ย?

อาร์ต : ส่งไปจริง หลังหย่ากันแล้ว ส่งเพื่อให้เขาเปลี่ยนนิสัย ถ้าไม่เปลี่ยนจะคุยกับคนนี้จริงๆ แล้วนะ  ผมก็ให้โอกาสเขา ผมส่งไปก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ ส่งไปเพื่อให้เขาหึงนั่นแหละ ให้เขาคิดว่าผมจะไปจริงๆ เขาจะได้กลับมา เขาบอกรักผมอยากกลับมา พอผมให้โอกาสเขาก็ทำนิสัยแบบเดิม คุยไปเรื่อย ไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยสักที

บุ๋ม : หนูไม่ได้จะกลับมา หนูยืนยันว่าหนูรักเขา แต่การที่เขาจะให้หนูอยู่ในสถานะเมียหลวง เขาบอกว่าเมียเพื่อนเขายังทนได้เลย เพื่อนเขาบอกว่ามึงทั้งหล่อทั้งรวย ทำไมต้องมาผูกติดแค่ผู้หญิงคนเดียว มึงไปเที่ยวจะหิ้วผู้หญิงกลับทุกวันก็ได้

อาร์ต : แต่ผมไม่เคยทำนิสัยแบบนั้น

บุ๋ม : หนูเคยถามเขาว่าทำไมตัวเองต้องไปเชื่อเพื่อน ที่รักษาผู้หญิงดีๆ ยังทำไม่ได้ ทำไมตัวเองต้องทำแบบนั้นในเมื่อชีวิตครอบครัวเราดีอยู่แล้ว ทำไมต้องดึงคนอื่นเข้ามา

อาร์ต : ตัวเองนั่นแหละเป็นคนดึง

บุ๋ม : แล้วเขาก็บอกว่าหนูไม่ดีพอ

อาร์ต : ตัวเองไปมีคนอื่นแล้วจะดีพอได้ยังไง บุ๋มบิ๋มไม่รู้ตัวเหรอว่าตัวเองผิด

บุ๋ม : หนูขอเลิกกับเขา ขอเริ่มต้นใหม่ (ร้องไห้) ครั้งที่สองที่เขาบอกว่ามีหลักฐานว่าหนูไปยืนกับคนอื่น ทุกครั้งก็ถามจะเอายังไง เขาก็โมโห ฟึดฟัดทำลายข้าวของ ก็บอกว่าถ้ารับไม่ได้ เราเลิกกันแล้วไปเริ่มต้นใหม่ ไปเป็นคนที่ดีขึ้นให้คนใหม่ หนูถามเขาแล้วจะไปต่อมั้ย วันที่หนูจะออกไป เขายืนยันจะไปเที่ยวแล้วยืนยันว่าไม่คบกันหนูต่อ เขายืนยันเองค่ะ

วันนี้คุณพาแฟนใหม่มาด้วย นั่งเครื่องมาด้วยกัน จับมือกันมาบนเครื่อง?

บุ๋ม : ใช่ค่ะ

อาร์ต : ก็เรื่องของเขาครับ

บุ๋ม : กลับไปไม่ได้แล้วค่ะ ไม่เกี่ยวกับแฟนใหม่ ต่อให้หนูไม่มีแฟนใหม่ หรือเขาไม่มีแฟนใหม่ มันเป็นความสัมพันธ์ที่ไปต่อไม่ได้ ต้องยอมรับความจริงว่าไปต่อไม่ได้จริงๆ เรารักกันแค่สองคนไม่ได้

แฟนใหม่คือต้นหรือเปล่า?

บุ๋ม : ไม่ใช่ค่ะ อาร์ตไปเรียกร้องเงินจากเขา เขาบอกว่าต้นทำผิด เพราะมาคุยกับหนูก่อน เขาเรียกเงินจากต้น 1 แสนบาท

จริงมั้ย?

อาร์ต : เป็นการเคลียร์ใจครับ เขาก็ยินยอมชดใช้ค่าละเมิดต่อผม

บุ๋ม : ไม่ค่ะ อาร์ตขู่ฆ่าเขา

อาร์ต : ไม่ครับ ฟังได้จากคลิปฉบับเต็มได้เลย

บุ๋ม : ตัวเองบอกว่าถ้าต้นยอมจ่ายเงิน 1 แสน จะทำเรื่องเล็กกลายเป็นเบา

อาร์ต : ผมพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ไม่มีคำขู่ หรือคำว่าฆ่าอะไรทั้งนั้น

บุ๋ม : ถ้าตัวเองรักเขาจริงๆ ทำไมต้องออกไปเที่ยวทุกวัน แล้วส่งรูปผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แล้วบอกว่าถึงห้องแล้วนะ ขอบคุณนะที่มานอนเป็นเพื่อน แล้วบอกว่าผู้หญิงอยากมานอนกับเขาตั้งหลายคน

อาร์ต : ก็อย่างที่บอก ผมทำหลังจาก 4-5 เดือนที่หย่ากันไปแล้ว เพราะผมอยากรักษาจิตใจตัวเอง

บุ๋ม : แล้วทำไมไม่ให้เขาเริ่มต้นใหม่ พอจะเริ่มต้นใหม่กับใครก็ตามไประรานหมดเลย

อาร์ต : ผู้หญิงบอกว่าอยากกลับมา รักผมครับ ในแชตก็มี

บุ๋ม : ไม่เคย หนูบอกว่าอยากเริ่มต้นใหม่ เขาก็ลงในเฟซเหมือนกัน เขาขอเริ่มต้นใหม่ตลอด ตัวเองเคยถามว่ารักมั้ย รักแต่มันไปต่อกันไม่ได้ พอจะเริ่มต้นใหม่ตัวเองก็บอกว่าจะส่งคลิปให้ผัวมึง อยากรู้ว่าผัวมึงจะรับได้มั้ย

อาร์ต : ผมไม่เคยพูดครับ

บุ๋ม : ตัวเองเป็นคนโทรมา จะส่งให้ผอ. ที่ทำงาน

อาร์ต : ผมไม่เคยพูดครับ

บุ๋ม : แล้วเป็นคลิปแอบถ่ายทั้งหมด ตัวเองเป็นตร. ก็ต้องรู้สิว่าการแอบถ่ายคลิปมันผิด แล้วทุกคลิปยืนยันว่าเขาไม่ได้ยินยอม

อาร์ต : ปกติเราก็คุยกันทำนองนี้อยู่แล้ว ผู้หญิงก็คุยกับผมเชิงลามกอนาจารอยู่แล้ว 18+ เขาก็ส่งรูปที่ถ่ายผมโป๊เปลือยให้ผมดูบ้าง

บุ๋ม : ทำไมที่รักพูดแบบนั้น ทำไมตัวเองพูดแบบนั้น

คุณจะเรียกเขาที่รักไม่ได้ แฟนคุณนั่งอยู่ข้างนอก?

บุ๋ม : ขอโทษ หนูลืม มันเคยชิน แล้ววิดีโอที่เขาเอาลงว่าหนูคุยวาบหวิว มันเป็นคลิปสอนสุขศึกษา สอนคนไข้ใส่ถุงยางอนามัย แต่เขาเอาลงเพื่อให้เป็นรูปแบบนั้น

อาร์ต : เปิดหลักฐานได้เลย มีส่งคลิป 18+ ของคนอื่นมาให้ผมดูก่อนหน้านั้นด้วยครับ ก็คุยกันแบบนี้อยู่แล้ว

บุ๋ม :   ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เริ่มความสัมพันธ์ใหม่ หนูไม่เคยเจอเขาเลย เขาขอให้มาเจอตลอด

ในแชตคำว่าของขาดคืออะไร?

บุ๋ม : หนูพิมพ์จริงๆ ค่ะ แต่หนูไม่เคยไปเจอเขา เขาขอให้หนูไปเจอตลอด

คุณคบคนใหม่เมื่อไหร่?

บุ๋ม : คบต.ค. แต่หนูเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้พี่เขาฟัง

คุณส่งคลิป 18+ ให้เขาจริง?

บุ๋ม : ยอมรับค่ะ แต่แค่ครั้งเดียว แต่เขาบอกว่าตลอด ซึ่งมันไม่จริง หนูไม่เคยส่งรูป 18+ของหนูให้เขา หรือถ่ายรูปวาบหวิว เซ็กซ์โฟน หรือวิดีโอคอล เขาต้องพูดให้เคลียร์

อาร์ต : ดูตามหลักฐานได้เลย

บุ๋ม : แต่ตัวเองพูดแบบนั้น ทำให้คนอื่นเข้าใจว่าเราเซ็กซ์โฟนกัน ส่งรูป18+ เราคอลเสียว ซึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้น

อาร์ต : ไม่ได้บอกว่าเซ็กซ์โฟน เราบอกว่าที่ผ่านมาเราก็คุยกันแบบผัวเมียแบบนี้อยู่แล้ว

บุ๋ม : ตอนนั้นเขายังไม่ได้เริ่มต้นความสัมพันธ์ใหม่ แต่ตัวเองเริ่มต้นไปแล้ว แล้วตัวเองขอกลับมาคืนดีตลอด ขอให้เขากลับไปหาตลอด ทั้งที่ตัวเองเปิดตัวคนใหม่ พอเขาจะเปิดตัวคนใหม่ ตัวเองก็มาขู่เรื่องคลิป โทรมาบอกว่าจะส่งให้แฟนใหม่มึง

อาร์ต : ผมไม่เคยส่งไปที่ไหนสักที่ครับ ผมถ่ายไว้ดูเพียงคนเดียว

บุ๋ม : แต่การแอบถ่ายคนอื่นมันก็ผิด

คุณยินยอมหรือเปล่า?

บุ๋ม : ไม่ค่ะ

อาร์ต : ผมถ่ายต่อหน้าเขาเลย เขามองแล้วเอามือปิดหน้าไว้

บุ๋ม : จะโทรศัพท์ต่อหน้าได้ไง หนูหันหลัง

อาร์ต : ถ้าบอกว่าหันหลังก็ดูหลักฐานได้เลย

บุ๋ม : จะมาเปิดคลิปดูหลักฐานเหรอ นั่นเป็นคลิปต้องไปพูดกันในชั้นศาล ตัวเองแอบถ่ายเป็นสิบๆ คลิป ตัวเองเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า เขาถามหน่อย (ร้องไห้) ทำไมเขาไม่มีสิทธิ์เริ่มต้นใหม่เลย ตัวเองโทรมาขู่เขาอยู่ทุกวัน

อาร์ต : ผมไม่เคยขู่จะปล่อยคลิป มีแต่เขาเองที่ขู่จะปล่อยแชตลับในโลกโซเชียล เพื่อทำให้ผมเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่มีที่ยืนในสังคม

บุ๋ม : ตัวเองแฮกเฟซเขา ทำทุกทาง

อาร์ต : ผมไม่เคยแฮก ไม่ต้องพูดนอกประเด็นก็ได้

บุ๋ม : ตัวเองสร้างเฟซปลอมมาก่อกวนเขา

อาร์ต : ผมไม่เคยส่งคลิปลงไลน์กลุ่มอย่างที่เขากล่าวหา

บุ๋ม : แต่การที่ตัวเองแอบถ่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ถ่ายหลังจากเราหย่ากันแล้ว แต่ตัวเองขอให้เขากลับไป

อาร์ต : เขาถ่ายเดือนก.พ.

บุ๋ม : ตัวเองส่งมา 20 คลิป

อาร์ต : ถ่ายแค่ 4 คลิปครับ

พร้อมเข้าสู่กระบวนการตามชั้นศาล?

บุ๋ม : ใช่ค่ะ หนูมีหลักฐานว่ากลุ่มลับนั้นมีจริง แล้วเขาจะส่งเข้ามาว่าเขาหิ้วใครไป

อาร์ต : มีก็เปิดมาเลย

บุ๋ม : หลักฐานมันละเอียดอ่อนค่ะ

คุณเรียกเขาว่าที่รักทำไม?

บุ๋ม : หนูเผลอค่ะพี่หนุ่ม คบมา 7-8 ปี

ยังรักมั้ย?

บุ๋ม : แฟนใหม่เข้าใจ แต่ก่อนหนูรักคนนี้มาก แต่พอหนูเริ่มรักคนใหม่ หนูก็จำไม่ได้แล้วว่าหนูเคยรักเขายังไง ก็บอกเขาตลอดว่าขอเริ่มต้นใหม่ หนูไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะมันเจ็บปวด หนูถอยจนไม่รู้จะถอยยังไง ยอมจนไม่รู้จะยอมยังไง

อาร์ต : ผมเป็นห่วงและหวังดีกับเขาตลอด จริงๆ ไม่ได้อยากออกมาพูดหรืออะไรแบบนี้ แต่ผมออกมาเพื่อปกป้องสิทธิตัวเอง

 บุ๋ม : หนูก็รักเขา แต่การอยู่กับเขามันเจ็บปวด เขาพูดเหยียบย่ำจิตใจเรา

อาร์ต : ฝ่ายหญิงเขาทำแล้วไม่รู้สึกว่าทำผิด ผมบอกแล้วว่าสิ่งที่ทำกับผมมันผิด เขายังไม่รู้สึกตัว

บุ๋ม :   ถ้าตัวเองว่ามันผิด แล้วทำไมไม่เลิกกับเขาไปเลย ทำไมยังดึงกลับไป

คุณมีแฟนใหม่อยู่ข้างนอกด้วย มันคุยกันไม่ได้เลยใช่มั้ย?

บุ๋ม : คุยกันได้

สองคนยังมีความรู้สึกดีๆ ให้กัน คนเราถ้าเกลียดกันไม่พูดคำนี้หรอก มันเหมือนน้อยใจ โกรธ น้อยใจ การที่มานั่งพูดกันมันเป็นขี้ปากชาวบ้าน เหมือนเป็นการสาวไส้ให้กากิน แต่บุ๋มโทรหาผมเองโดยตรง ผมก็โอเค ตอนแรกฟังแล้วตกใจ แต่พอมองอีกมุม เขาก็มีเหตุผลในมุมของเขา คุณก็มีเหตุผลของคุณ สุดท้ายแล้วหยิกเล็บเจ็บเนื้อ คุยกันได้ แต่ถ้าไปขึ้นบนชั้นศาล ไม่ใช่เรื่องสนุก คุณพลาดพลั้งขึ้นมาเขาฟ้องกลับคุณฟ้องเท็จ คุณพลาดมาก็เสียอนาคต เราไม่รู้ว่าบนชั้นศาลมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ให้คุยกัน อันไหนลดราวาศอกได้ บางทีผมไกล่เกลี่ยไปก็จะมีคนมาด่าผม เรื่องบางเรื่องศาลมีคดีเยอะแล้ว คดีแบบนี้เป็นขี้ปากชาวบ้าน คุยได้ก็คุย?

อาร์ต : ผมก็คุยกับเขาแล้วว่าเราคุยกันก่อน จะมาโพสต์ในโซเชียลทำไมให้คนอื่นรู้

บุ๋ม : ตัวเองระรานเขานะ ตัวเองสร้างเฟซปลอม แฮกเฟซเขา เอากุญแจสำรองไปเอาของเขามากองไว้หน้าหอ เราต่างเริ่มต้นใหม่ไปแล้ว ทำไมต้องตามระรานกัน

คุณหยุดหรือยัง?

อาร์ต : หยุดครับ ตอนนี้ผมมีแฟนใหม่แล้ว แต่ระหว่างที่ผมมี ผมไม่เคยไปตามเขา ที่ผมตาม ผมตามตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค. แล้ว ผมเลิกกับเขาไปเดือนกว่า เขาก็ยังตามมาราวีผม

บุ๋ม : เดือนก.ย. ตัวเองยังแฮกเฟซเขาอยู่เลย แล้วเปลี่ยนเมล์เป็นเมล์ร้าน

อาร์ต : ไม่จริง ถ้าผมแฮกเฟซจริง จะมาด่าผมอยู่อย่างนี้ได้ยังไง

บุ๋ม :   ก็เข้าไม่ได้อยู่ 5 วัน ต้องส่งบัตรประชาชนเข้าไป

มั่นใจได้ไงว่าเป็นเขา?

บุ๋ม : มันมีเมล์ของเขาค่ะ เป็นเมล์เดียวกัน

อาร์ต : เฟซบุ๊กไม่ได้เปลี่ยนได้ง่ายๆ นะ เรื่องคลิปที่ผมถ่ายเขา ก็รับรู้ทั้งสองฝ่าย ถ้าเขาจะให้ผมลบ ผมก็ยินดี ผมไม่เคยส่งไปที่ไหนเลย

บุ๋ม : ตัวเองพูดไม่ถูก หนูไม่รู้ตัวสักคลิป เป็นการถ่ายจากด้านหลัง
 

จะเอายังไงกัน?

บุ๋ม : หนูยืนยันว่าหนูไม่ได้ยินยอม

อาร์ต : ก็แล้วแต่เขา เดี๋ยวผมจะลบทิ้งให้หมด ตอนนี้ผมมีแฟนใหม่ไปแล้ว เสื้อผ้าส่วนตัวเขาก็ต้องเอาไปไว้อีกบ้าน หลักฐานก็มี

บุ๋ม :   ต้องดูหลักฐานฝั่งหนู

เอาให้เขาได้มั้ย?

อาร์ต : ได้ครับ

บุ๋ม : วันนี้ที่มาอยากได้ของคืน น้ำหอม ของที่อยู่ในร้าน เรื่องรถอีก แต่เขาต้องแก้ต่างตรงที่ว่าคุยกันทำนองแบบนั้นตลอดไม่จริง และเขาต้องขอโทษหนูที่ไปบอกคนอื่นว่าหนูยินยอมให้เขาถ่ายคลิป แล้วกับเรื่องที่เขาว่าหนูมีชู้ ที่เหลือไปว่ากันอีกทีหลัง ถ้าเขาบอกว่าไม่ได้ส่งคลิปหลุดออกไป ก็ไม่เป็นไร หนูให้อภัยได้ แต่เขาต้องลบคลิปนั้นออกไปทั้งหมด และเลิกเอาคลิปมาขู่หนูได้แล้ว

อาร์ต : ผมไม่เคยขู่เขาแม้แต่ครั้งเดียว ตอนนี้มีแฟนแล้ว รักแฟนมาก เขาก็รู้ว่าผมมาคุยเรื่องนี้ ก็ให้กำลังใจ ก็หวานกันอยู่ครับ

บุ๋ม : หนูยินดีถ้าเขาเจอคนที่คู่ควรมากกว่าหนู เพราะเขาบอกว่าหนูไม่ดีพอ

คุณพาคนใหม่มาเลย?

บุ๋ม : ใช่ค่ะ หนูผ่านการเสียใจมาเยอะแล้ว การอยู่ตรงนั้นหนูเจ็บปวดจริงๆ หนูจะเริ่มต้นใหม่