นาย จตุพร พรหมพันธ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวในรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ตอน "ความยุติธรรม" เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2566 ชื่นชมนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่แสดงบทผู้นำวอนให้คนไทยอพยพเอาชีวิตรอดจากสงครามอิสราเอลถล่มฮามาสในฉนวนกาซา ปาเลสไตน์ ซึ่งนับวันยิ่งขยายความรุนแรงขึ้น โดยระบุว่า...หลายครั้งได้วิพากษ์บทบาทผู้นำนายกฯ ของนายเศรษฐา กรณีอพยพคนไทยกลับบ้าน แล้ววันนี้ (23 ต.ค.) ได้รับการตอบสนองเสียงวิจารณ์ จึงขอชื่นชม แม้ช้าไป แต่ได้แสดงภาวะความเป็นผู้นำขึ้นมาบ้าง
อีกทั้ง กล่าวว่า นายกฯ ได้พูดสื่อสารกับนายจ้างประเทศอิสราเอลที่ขยายเวลาจ่ายเงินไปอีก 10 วัน โดยไปจ่ายในวัน 10 พ.ย.นั้น ได้แสดงว่า สถานการณ์ของแรงงานไทยในอิสราเอลไม่ได้อยู่ในภาวะปกติ
"การขยายเวลาจ่ายเงินเดือนคนไทยในสถานการณ์นี้ ทั้งที่แรงงานไทยทำงานเป็นแนวหน้าติดชายแดนฉนวนกาซา เรามักเตือนว่า มีเงินแต่ไม่มีชีวิตแล้วจะมีความหมายอะไร ดังนั้น ขอให้เอาชีวิตกันไว้ก่อน วันนี้นายกฯ ออกมาพูดถือว่าถูกต้องที่สุดแล้ว ที่สื่อถึงทูตอิสราเอลและส่งสัญญาณถึงคนไทย จึงชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ตึงเครียดมาก เพราะสงครามไม่มีวี่แววจะสงบลงได้ง่าย"
นอกจากนี้ นายจตุพร กล่าวถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่มีอะไรคืบหน้า โดยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ยังไม่ได้นัดประชุมคณะอนุกรรมการฯ กันอีกในวันไหน ซึ่งน่าเห็นใจที่เป็นหนังหน้าไฟให้นายกฯ ควบ รมว. คลัง และพรรคเพื่อไทย ทั้งที่เป็นเรื่องใหญ่เกินตัว รมช.คลัง จะรับมือไหว
"ลองไปดู อดีต รมช.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล ถูกคดี เงินประกันตัวยังต้องกู้ยืมคนอื่น ซึ่งคือโลกความจริง ดังนั้น การพูดเพื่อรักษาอารมณ์ประชาชนก็ว่ากันไป เพียงแต่วันในข้อเท็จจริงวันนี้ยังไม่ทำ (เงินดิจิทัล) แต่อย่าอธิบายเอาหล่อกัน เหมือนกับการพูดเพิ่มเงินพันล้านเปลี่ยนจากซื้อเรือดำน้ำมาซื้อเรือฟรีเกต แต่ลงท้ายก็ซื้อทั้งคู่ เพราะไปเพิ่มซื้อเรือฟรีเกต แต่เรือดำน้ำยังอยู่ในสาระบบต่อไป"
ขอบคุณ:รายการประเทศไทยต้องมาก่อน