นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงแรงงาน ได้มีการสอบถามข้อมูลกับแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในอิสราเอลเมื่อเดินทางกลับมายังภูมิลำเนาแล้วนั้น พบว่า ขณะนี้มีแรงงานไทยที่เดินทางกลับมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล และแจ้งความประสงค์ต้องการกลับไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลอีก จำนวน 424 คน ไม่ต้องการกลับไปทำงานอีก จำนวน 495 คน ที่เหลืออีก จำนวน 76 คน ยังไม่แน่ใจ จากจำนวนแรงงานไทยที่รับแจ้งทั้งหมด 995 คน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ผลจากการสอบถามข้อมูลกับแรงงานไทยที่กลับจากเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลถึงความต้องการทำงานในเบื้องต้นในครั้งนี้ เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหางานต่อให้กับแรงงานโดยเร็วที่สุด ซึ่งในขณะนี้มีแรงงานไทยเดินทางกลับมาแล้วกว่า 3,000 คน แต่ยังมีแรงงานไทยหลายรายมีความกังวลเรื่องการทำงาน ทั้งที่มีความประสงค์จะกลับไปทำงานที่อิสราเอล และบางรายประสงค์จะไปทำงานที่ประเทศอื่น และต้องการหางานทำในประเทศด้วยนั้น
“ไม่ว่าแรงงานไทยประสงค์อย่างไร ผมขอให้คลายความกังวล และขอให้แจ้งมาได้ที่กรมการจัดหางาน ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด เราจะได้รวบรวมจำนวนความต้องการแรงงานที่ประสงค์จะเดินทางกลับไปทำงานที่อิสราเอล เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไปภายหลังจากภาวะความไม่สงบในอิสราเอลได้สิ้นสุดลงแล้ว รวมถึง การไปทำงานในประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลีด้วย ส่วนผู้ที่ต้องการทำงานที่ประเทศไทย เราก็มีตำแหน่งงานว่างจากทั่วประเทศรองรับไว้ให้เช่นกัน นอกจากนี้ หากแรงงานไทย ที่กลับมาจากอิสราเอลและบุคคลในครอบครัวต้องการฝึกทักษะฝีมือ สามารถติดต่อมาได้ที่สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานที่ตั้งอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเข้ารับการฝึกทักษะด้านอาชีพเสริม รองรับในช่วงการเปลี่ยนผ่านงาน จะได้มีอาชีพ มีรายได้ สามารถเลี้ยงครอบครัวได้ต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้าน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าการช่วยเหลือสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศนั้น ได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีแรงงานยื่นคำร้องขอรับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค รวม 819 คน วินิจฉัยสั่งจ่ายไปแล้ว 364 คน คนละ 15,000 บาท คิดเป็นเงินกว่า 5,460,000 บาท โดยแรงงานไทยที่กลับจากอิสราเอล สามารถเขียนคำร้องขอรับเงินสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ ได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่อยู่ในภูมิลำเนา โดยในเบื้องต้นทุกคน ที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ และยังอยู่ในการคุ้มครอง จะได้รับเงิน กรณีประสบปัญหาต้องเดินทางกลับประเทศไทยเนื่องจากภัยสงคราม คนละ 15,000 บาท ซึ่งกระทรวงแรงงานจะรีบดำเนินการเพื่อให้แรงงานไทยทุกคนได้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าวโดยเร็วที่สุด